8bit VS 10bit มันก็แค่สองบิทเองไม่ต่างกันหรอก !!
post นี้ผมอยากเอาเรื่อง 8bit 10bit มาขยายความครับ เพราะมีความเข้าใจว่า 2bit คงไม่ต่างกันมากนัก แต่จริงๆแล้วในโลกของ Filmmaker นั้นมันต่างกันลิบลับเลย
การคำนวน Bit นั้นจากภาพ เราจะเห็นว่า 1bit จะมีสองสีครับ ในที่นี้ผมขอใช้ขาวกับดำนะครับ พอขยับมาเป็น 2bit จาก 2 shade จะมาเป็น 4 shade ใช่แล้วครับ มันคือ Binary code เมื่อขยับฐาน ทุกอย่าง ***ยกกำลัง2*** ไปเรื่อยๆ จนมา 8bit จะเท่ากับ 256 shade สี และ 10bit จะเท่ากับ 1024 shade สี
ถ้าเป็นจิตรกร เวลาลงสีภาพคงจะเป็นผ้าใบ แต่ filmmaker เวลาสร้างงานศิลปะ คงต้องลงบนผ้าใบที่มีชื่อว่า RGB (RED GREEN BLUE) ครับ 256 shade สี หรือ 8bit จะประกอบไปด้วย R256 x G256 x B256 ซึ่งถ้าเอามารวมกัน ต่อ 1 Pixel เราจะทำงานอยู่บน 16.77 ล้าน Shade ครับ
พอเป็น 10bit ก็จะเป็น R1024 x G1024 x B1024 รวมกันจะเป็น 1.07 พันล้านสี (นี่ไม่รวม +2bit สำหรับ Alpha chennel นะครับ)
ภาพที่ได้จาก 10bit กับ 8bit เอามาเทียบกันแล้วดูไม่ต่างกันเลยครับ แต่ถ้าถ่ายด้วย Log file แล้วเอามาทำสี เราจะเห็นได้ทันทีครับว่า 8bit มีพื้นที่ในการปรับได้น้อยมากๆ ถ้าดึงเยอะจะเกิด Color banding (สีเป็นชั้นๆ) ส่วน 10bit จะสำหรับคนที่ถ่ายมาแล้วเอามาดึงสี ซึ่งมันเปิดกว้างมากๆให้กับ Artist ได้สร้างสรรค์ Mood and tone ใหม่ๆ (งานผมก็ 10bit ครับ ดึงสีแหลกเลย) ถ้าคุณก้าวมาอยู่ในโลกของการทำ Grading แล้ว 10bit คือสวรรค์เลยละครับ
นั่นละครับ คือ 10bit vs 8bit ฉะนั้น ลองดูกล้องที่เราใช้กันอยู่ครับ ว่ากล้องของเราถ่ายได้กี่ bit และข้อจำกัดของ file คืออะไร 8bit ไม่ได้หมายความว่าไม่ดีครับ เพียงแค่ตัวช่วยเราจะน้อยลง เอาจริงๆตาเรามองได้ 10 ล้านสีครับ 8bit รวมๆมันก็เกินจากตาเราแล้ว เพียงแค่เราต้อง Expose ให้พอดี ดู White balance ให้ดี ส่วน mood อยู่ที่ sensor กับ Lens ที่เราเลือกครับ
งานจะดีอยู่ที่ Idea การนำเสนอ ข้อมูลทางเทคนิคเป็นแค่ตัวช่วยครับ
ขอให้โชคดีกับโปรเจ็คของคุณครับ :-)
binary log 在 GUZAP Facebook 的精選貼文
8bit VS 10bit มันก็แค่สองบิทเองไม่ต่างกันหรอก !!
post นี้ผมอยากเอาเรื่อง 8bit 10bit มาขยายความครับ เพราะมีความเข้าใจว่า 2bit คงไม่ต่างกันมากนัก แต่จริงๆแล้วในโลกของ Filmmaker นั้นมันต่างกันลิบลับเลย
การคำนวน Bit นั้นจากภาพ เราจะเห็นว่า 1bit จะมีสองสีครับ ในที่นี้ผมขอใช้ขาวกับดำนะครับ พอขยับมาเป็น 2bit จาก 2 shade จะมาเป็น 4 shade ใช่แล้วครับ มันคือ Binary code เมื่อขยับฐาน ทุกอย่าง ***ยกกำลัง2*** ไปเรื่อยๆ จนมา 8bit จะเท่ากับ 256 shade สี และ 10bit จะเท่ากับ 1024 shade สี
ถ้าเป็นจิตรกร เวลาลงสีภาพคงจะเป็นผ้าใบ แต่ filmmaker เวลาสร้างงานศิลปะ คงต้องลงบนผ้าใบที่มีชื่อว่า RGB (RED GREEN BLUE) ครับ 256 shade สี หรือ 8bit จะประกอบไปด้วย R256 x G256 x B256 ซึ่งถ้าเอามารวมกัน ต่อ 1 Pixel เราจะทำงานอยู่บน 16.77 ล้าน Shade ครับ
พอเป็น 10bit ก็จะเป็น R1024 x G1024 x B1024 รวมกันจะเป็น 1.07 พันล้านสี (นี่ไม่รวม +2bit สำหรับ Alpha chennel นะครับ)
ภาพที่ได้จาก 10bit กับ 8bit เอามาเทียบกันแล้วดูไม่ต่างกันเลยครับ แต่ถ้าถ่ายด้วย Log file แล้วเอามาทำสี เราจะเห็นได้ทันทีครับว่า 8bit มีพื้นที่ในการปรับได้น้อยมากๆ ถ้าดึงเยอะจะเกิด Color banding (สีเป็นชั้นๆ) ส่วน 10bit จะสำหรับคนที่ถ่ายมาแล้วเอามาดึงสี ซึ่งมันเปิดกว้างมากๆให้กับ Artist ได้สร้างสรรค์ Mood and tone ใหม่ๆ (งานผมก็ 10bit ครับ ดึงสีแหลกเลย) ถ้าคุณก้าวมาอยู่ในโลกของการทำ Grading แล้ว 10bit คือสวรรค์เลยละครับ
นั่นละครับ คือ 10bit vs 8bit ฉะนั้น ลองดูกล้องที่เราใช้กันอยู่ครับ ว่ากล้องของเราถ่ายได้กี่ bit และข้อจำกัดของ file คืออะไร 8bit ไม่ได้หมายความว่าไม่ดีครับ เพียงแค่ตัวช่วยเราจะน้อยลง เอาจริงๆตาเรามองได้ 10 ล้านสีครับ 8bit รวมๆมันก็เกินจากตาเราแล้ว เพียงแค่เราต้อง Expose ให้พอดี ดู White balance ให้ดี ส่วน mood อยู่ที่ sensor กับ Lens ที่เราเลือกครับ
งานจะดีอยู่ที่ Idea การนำเสนอ ข้อมูลทางเทคนิคเป็นแค่ตัวช่วยครับ
ขอให้โชคดีกับโปรเจ็คของคุณครับ :-)