เรื่องแก้บั๊กในฝัน ฟังอาจเป็นเรื่องตลก 😂
แต่มันก็พออธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ด้านสมองนะครับ
ตามทฤษฏี สมองมนุษย์มีการเรียนรู้อยู่ 2 โหมด ได้แก่
“โหมดเซียน” กับ “โหมด 9 หาง”
…อ้าวผิดเรื่อง …อันนั้นมัน การ์ตูนนารูโตะ
.
มาเข้าเรื่องที่เป็นสาระดีกว่า การเรียนรู้สมองมี 2 โหมดได้แก่
- FOCUSED
- DIFFUSED
.
👉 1) โหมด FOCUSED
เป็นโหมดของสมองที่กำลังโฟกัส
หรือมีสมาธิเพื่อคิดทำบางสิ่งบางอย่างอยู่
โหมดนี้ สมองจะใช้แนวทางเดิมๆ เพื่อแก้ปัญหา
ทำให้เรามุ่งมั่นหาทางแก้ปัญา หรือพยายามค้นหาปัญหาให้ได้โดยไว
.
😋 ข้อดี ทำให้เรามีสมาธิ มุ่งที่จะบรรลุงานนั้นๆ ให้สำเสร็จโดยไว
เช่น กำลังเขียนโปรแกรมอยู่ ต้องโฟกัส จดจ่อเพื่อให้งานเสร็จ
.
😔 ข้อเสีย จะเกิดการวนลูปทางความคิด
เช่น ตอนเจอบั๊กในโปรแกรม
เราก็จะวนลูป ใช้วิธีเดิมแก้ไปหาซ้ำๆ อยู่นั้นแหละ
พยายามกดคีย์บอร์ดด้วยวิธีการเดิมๆ
จนนิ้วจะแทงทะลุแป้นพิมพ์อยู่แล้ว
ก็แก้บั๊กไม่ได้เสียที …จนอยากร้องไห้
.
ที่เป็นเยี่ยงนี้ก็เพราะสมองไม่ยอมมองหาทางออก
ไม่ออกจากกรอบคิดแบบเดิมๆ นั่นเองครับ
นับเป็นข้อเสียของสมองโหมดนี้
.
👉 2) โหมดที่สองคือ โหมด DIFFUSED
เป็นโหมดของสมองที่กำลังคิด
เมื่ออยู่ในภาวะผ่อนคลาย หรือพักผ่อน
เช่นตอนที่เราเดินเล่น ขับรถ ฟังเพลง อาบน้ำ เข้าส้วม หรือกระทั่งนอนหลับ ฯลฯ เป็นต้น
.
ถ้านึกไม่ออก ก็นึกถึงตอนที่เราติดปัญหาอะไรซะอย่าง
พอหัวเราจะแตะถึงหมอนอยู่แล้ว ดันคิดออกมาได้เฉยเลย
หรือบ่อยครั้งที่นอนหลับไป
พอตื่นขึ้นมาหา ไอเดียแก้ปัญหาดันปิ้งแว็บออกมา
.
หรือตอนกำลังอาบน้ำ ถ่ายหนัก ถ่ายเบา ฮัมเพลงอยู่ในลำคอ
อยู่ดีๆ ก็นึกวิธีแก้ปัญหาออกมาได้ซะงั้น
.
😋 ข้อดี โหมดนี้เอาไว้ใช้แก้ปัญหาที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน หรือยากที่จะเข้าใจ
สามารถใช้คิดพวกไอเดีย หรือคอนเซ็ป ความคิดสร้างสรรค์แปลกๆ ใหม่ๆ ทำให้เราคิดนอกกรอบเดิมได้
.
เช่น ช่วยหาทางแก้บั๊กในโปรแกรม
ในมุมหนึ่งที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน
ช่วยให้แหกกฏเกณฑ์เดิมที่เราติดปัญหาอยู่ได้
.
😔 ข้อเสีย โหมดนี้มันทำงานเมื่อเราผ่อนคลาย
เช่น โปรแกรมเมอร์ตอนกลางวัน
แก้บั๊กแทบตายทั้งวัน แก้ไม่ได้สักที
พอเลิกงานกลับบ้านปุ๊บ
กำลังจะงีบหลับ ดันคิดออกมาได้ …โธ่ชีวิต
.
หรือบางคนมีสกิลพิเศษ แก้บั๊กในความฝันได้
จนต้องสะดุ้งตื่น
จากโปรแกรมเมอร์ กลายร่างเป็นนกฮูก
ไม่ยอมหลับยอมนอน เขียนโปรแกรมจนเสร็จ
:
:
+++++++++++++++++++
ถ้าเราเข้าใจคอนเซปต์ของสมอง 2 โหมดนี้ละก็
– ตอนแก้ปัญหาไม่ออกก็สลับไปใช้ โหมด DIFFUSED ซะ
– เมื่อได้ไอเดียมาแล้ว ก็สลับไปใช้โหมด FOCUSED ต่อ
:
แต่ทั้งนี้เราต้องเข้าใจเสียก่อนว่า
มนุษย์โลกทุกคนไม่สามารถใช้ 2 โหมดนี้ได้พร้อมกัน …เศร้า 😔
ต้องเลือกระหว่างโหมด FOCUSED หรือโหมด DIFFUSED
เลือกให้ทำงานโหมดใดโหมดหนึ่งเท่านั้น
:
ดังนั้นเราต้องหัดสลับสมอง 2 โหมดให้เป็นนะครับ
:
ซึ่งวิธีสลับโหมดของสมอง
มันมีประโยชน์ตอนทำงาน
หรือจะตอนอ่านหนังสือสอบก็ได้
.
วิธีสลับโหมด ผมขอเสนอ 2 วิธีแล้วกัน
👉 1) ใช้เทคนิคคือ “Pomodoro Technique”
คือให้ทำงานไป 25 นาที (โหมด FOCUSED)
แล้วผ่อนคลายอีก 5 นาที (DIFFUSED)
.
แต่วิธีนี้อาจไม่เหมาะ ตอนเอาไปใช้ในทำงานจริงเท่าไร
…เพราะถ้าหัวหน้างานเห็นเราทำแบบนี้
คงคิดว่าเราอู้งาน ทำไป หยุดไป
เราอาจดัดแปลง ทำไปได้สักชั่วโมง สองชั่วโมง
เมื่อสมองล้า ก็พักเบรกเสียบ้าง จิบกลางแฟ แชทคุยกับแฟน
เล่นเกมคลายเครียด เดินยืดเส้นยือดสาย เข้าไปนั่งในส้วมเล่นๆ
ทำสัก 5-10 นาที พอ
…แต่ทั้งนี้หัวหน้างานต้องเข้าใจนะ ว่าเรากำลังผ่อนคลาย
…เป็นเทคนิคการคิดงานโดยใช้สมองโหมด DIFFUSED
.
👉 2) หรือเราจะปล่อยให้คิดงานทั้งวันไปเลย
แล้วถ้าพระอาทิตย์ตกดิน ยังคิดไม่ออกละก็
อย่าไปซีเรียส ให้กลับบ้านเข้านอนโดยไว
เพื่อให้สมองเข้าสู่โหมด DIFFUSED โดยธรรมชาติ
เป็นการรีเซทความคิดใหม่ พอตื่นขึ้นมาสมองโล่งคิดออก
รุ่งเช้าค่อยกลับมาเข้าโหมด FOCUSED เพื่อทำงานต่อไป
:
:
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์
ถ้าชอบกระทืบ like ….มันชอบอย่าด่ากันเยอะมันเจ็บ
เขียน โดยโปรแกรมเมอร์ไทย thai programmer
++++
อ้างอิง
https://www.patanasongsivilai.com/…/การเรียนรู้ของสมอง-dif…/
A dream bug fix. Listening can be a joke 😂
But it can be explained by brain science.
According to the theory, human brain has 2 modes of learning:
′′ Sienna mode ′′ and ′′ 9 tail mode ′′
... Oh, wrong story... That's a Naruto cartoon.
.
Let's get into the sensible things. Learning a brain has 2 modes:
- FOCUSED
- DIFFUSED
.
👉 1) FOCUSED mode
It's a mode of the brain in focus.
Or concentrate on thinking about doing something.
This mode, the brain will use the same approach to solve problems.
Make us determined to find a solution or try to find a problem quickly.
.
😋 Advantages make us concentrate on achieving that job quickly.
Like programming. Focus to get the job done.
.
😔 The disadvantage will be a thought loop.
Like when I met a buck in the program.
We are going to loop. Use the same way to fix it and repeat it.
Trying to press keyboard with the same old method.
My finger is about to break through the keyboard.
I can't fix my buck... I want to cry.
.
It's because the brain doesn't look for a way out.
Not out of the same thinking frame.
This mode of brain disadvantage
.
👉 2) Second mode is DIFFUSED mode.
Is the mode of the brain thinking
When in relaxation or relaxation
For example, when we walk, drive, listen to music, shower, toilet or even sleep, etc etc.
.
If you can't imagine, think of when we have a problem.
When my head is about to reach my pillow, I think about it.
Or often sleep away
When I wake up, I find ideas to solve problems. Push up and wave.
.
Or when I'm bathing, taking a heavy shot, humming in the throat.
Suddenly, I think of a solution.
.
😋 This mode advantages to solve problems you've never seen before or difficult to understand.
Can be used to think about ideas or concepts. New weird creativity makes us think outside the same old box.
.
Like helping find a bug solution in the program.
In a corner that was never thought of
Helping to break the same rules that we have in trouble.
.
😔 disadvantage this mode works when we relax
Expecting a daytime programmer
I almost die all day. I can't fix it.
When I finish work, I go home.
About to take a nap, figure it out... geez life
.
Or someone has a special skill to solve a dreambug.
I have to wake up
From programmer transformed into owls
Can't sleep. Sleeping and finished programming.
:
:
+++++++++++++++++++
If we understand these 2 modes of brain concepts.
- When you can't solve the problem, switch to DIFFUSED mode.
- When you get an idea, switch to FOCUSED mode.
:
But we have to understand that
All world humans can't use these 2 modes together... Sad 😔
Must choose between FOCUSED mode or DIFFUSED mode
Choose to work on one mode only
:
So we have to learn how to switch 2 modes of brains.
:
Which way to switch the mode of the brain
It's useful while working.
Or when I read the exam.
.
How to switch mode. I propose 2 ways.
👉 1) Using technique is ′′ Pomodoro Technique ′′
I have to work for 25 minutes (FOCUSED mode)
Then relax 5 mins (DIFFUSED)
.
But this method may not be suitable for real work.
... Because if our supervisor sees us doing this.
Guess we think we're ooh job. Stop going.
We could make a couple hours or two.
When my brain is exhausted, I break the brakes. Some sipping in the middle of a chat with my boyfriend.
Playing games, relaxing, walking, stretching, stretching, hanging out, sitting in the toilet for fun.
Do it for 5-10 minutes enough.
... but the head of work must understand that we are relaxing.
... It's a technique to think work using DIFFUSED mode brain.
.
👉 2) or we'll just let the whole day of work go.
And if the sun sets can't figure it out yet
Don't be serious. Go home to bed fast.
For the brain to naturally go into DIFFUSED mode.
It's a new thought reset. When I wake up, my brain is empty.
Dawn will be back in FOCUSED mode to keep working.
:
:
Hope this article is helpful.
If you like to stomp like.... it's like it. Don't scold me too much.
Written by Thai programmer thai coder
++++
Reference
https://www.patanasongsivilai.com/blog/การเรียนรู้ของสมอง-diffused-focused/Translated
