*** ทรูโดเชิญโป๊ป ขอโทษชนพื้นเมือง ***
ทรูโดเชิญโป๊ปมาขอโทษชนพื้นเมือง หลังจากพบศพเด็กพื้นเมืองไร้ชื่อเกือบ 1,000 รายในโรงเรียนคริสต์ อนึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการพบศพเด็กชาวพื้นเมืองถึง 215 ศพในบริเวณอดีตโรงเรียนประจำสำหรับชนพื้นเมืองคัมลูปส์ ในรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา และเหตุการณ์ยิ่งน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึง เมื่อล่าสุดวันที่ 24 มิถุนายน ว่ามีการพบศพอีกกว่า 751 ศพ ที่โรงเรียนประจำสำหรับชนพื้นเมืองในเมืองมารีวัล ในรัฐซัสแคตเชวัน ซึ่งทั้งสองกลุ่มเป็นหลุมศพไร้ชื่อทั้งสิ้น
“โรงเรียนประจำสำหรับชนพื้นเมือง” เหล่านี้มีอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 19 จนถึงปลายศตวรรษที่ 20 และมีหน้าที่ เปลี่ยนศาสนา และ “อบรม” เด็กชนพื้นเมืองเพื่อให้สามารถเข้าสังคมของคนขาว คาดว่ามีเด็กพื้นเมืองถูกพรากจากครอบครัว และบังคับให้เข้าเรียนกว่า 150,000 คน และกว่า 70% ของโรงเรียนเหล่านี้เคยอยู่ในการดูแลของคริสตจักร
จำนวนเด็กผู้เสียชีวิตในโรงเรียนเหล่านี้ เมื่อปี 2015 คาดว่ามีจำนวนประมาณ 3,200 - 4,100 ราย (ไม่รวมกับอีกเกือบ 1,000 รายที่พึ่งพบ) การตายส่วนมากเกิดจากโรคร้ายหรือขาดสารอาหาร เนื่องมาจากการถูกละเลย และต้องอยู่ในบริเวณแออัดไม่ถูกสุขลักษณะ
นอกจากนี้หากเด็กๆ ทำผิดเพียงเล็กน้อย เช่นพูดภาษาถิ่น (ไม่พูดภาษาอังกฤษ) ก็จะถูกลงโทษอย่างหนัก ตั้งแต่ทุบตี กักขัง หนักเข้าก็มีการข่มขืน หรือฆ่าจนตาย แต่ความตายของพวกเขากลับถูกมองข้าม เพราะครอบครัวโดนกีดกันไม่ให้พบ ส่วนรัฐก็ไม่ได้สนใจใยดีพอจะตรวจสอบความเป็นอยู่ของเด็กๆ
แม้รัฐบาลแคนาดาเคยกล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการต่อชนพื้นเมืองและผู้รอดชีวิตเมื่อปี 2008 แต่รัฐฯไม่ใช่ฝ่ายเดียวที่ทำลายวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชนพื้นเมือง เพราะคริสตจักรก็มีส่วนร่วมในการบริหารโรงเรียนประจำเหล่านี้เช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา รวมไปถึงผู้นำชนพื้นเมืองหลายคนจึงออกมาเรียกร้องให้โป๊ปฟรานซิส ผู้นำคริสตจักรคนปัจจุบันก้าวออกมากล่าวขอโทษชนพื้นเมือง อย่างเป็นทางการ
และก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2015 องค์กร Truth and Reconciliation Commission of Canada ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบและบันทึกผลกระทบทั้งอดีตและปัจจุบันของโรงเรียนประจำเหล่านี้ ได้ตีพิมพ์ข้อแนะนำ 94 ข้อ เพื่อหวังกระตุ้นให้มีการร่วมมือกันของภาครัฐเพื่อบรรเทาทุกข์ของชนพื้นเมืองจากอดีตที่โหดร้ายและมุ่งหน้าสู่ความปรองดอง หนึ่งในข้อแนะนำคือการเรียกร้องให้โป๊ปกล่าวขอโทษในนามคริสตจักรต่อผู้รอดชีวิตจากโรงเรียนเหล่านั้น
นอกจากนี้ เมื่อนายทรูโดเยี่ยมเยือนวาติกันในปี 2017 เขาเองก็เคยพูดคุยกับโป๊ปซึ่ง ๆ หน้า หวังจะขอให้โป๊ปกล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการในประเด็นที่คริสตจักรเคยมีส่วนร่วมในการทำร้ายเข่นฆ่าเด็กและพยายามจะลบล้างวัฒนธรรมชนพื้นเมืองกว่าร้อยปี
แต่แคนาดาก็ต้องผิดหวังมาโดยตลอด อย่างเมื่อปี 2018 มีเพียงจดหมายว่า โป๊ป “ไม่อาจตอบรับคำขอได้” แม้กระทั่งภายหลังจากพบศพ 215 ศพ โป๊ปฟรานซิสก็เพียงแต่แสดงความเจ็บปวดต่อเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่เอ่ยขอโทษอย่างตรงไปตรงมา
ล่าสุดนายทรูโดกล่าวว่า “ผมได้พูดคุยกับโป๊ปฟรานซิสเป็นการส่วนตัว เพื่อย้ำว่ามันสำคัญมากจนท่านไม่ควรทำเพียงกล่าวขอโทษเท่านั้น แต่ควรเดินทางมาขอโทษชาวพื้นเมืองบนแผ่นดินแคนาดา” และยังเสริมด้วยว่า ชาวแคทอลิกในแคนาดาเองก็ต้องการเห็นคริสตจักรก้าวมาร่วมแก้ไขบรรเทาทุกข์ และ รัฐมนตรีกระทรวงความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรและชนพื้นเมือง แคโรลิน เบนเน็ต ยังให้ความเห็นว่า คำขอโทษจากโป๊ปเองจะเป็นก้าวแรกที่นำไปสู่การเยียวยาของชุมชนชนพื้นเมือง
ภาพแนบ: นายจัสติน ทรูโด
(ภาพจาก reuters)
::: อ้างอิง :::
Reuters ดอต com/world/americas/trudeau-says-pope-should-apologize-canadian-soil-churchs-role-residential-2021-06-25/
Abcnews ดอต go ดอตcom/International/wireStory/trudeau-canada-ashamed-schools-indigenous-kids-78492141?
Aljazeera ดอต com/news/2021/6/3/no-papal-apology-in-canada-indigenous-abuses-shameful-official
Bbc ดอต com/news/world-us-canada-57592243
Washingtonpost ดอต com/news/worldviews/wp/2018/05/02/pope-francis-wont-apologize-for-abusive-church-run-schools-in-canada-and-lawmakers-arent-happy/
Cbc ดอต ca/news/politics/truth-and-reconciliation-94-calls-to-action-1.3362258
Cbc ดอต ca/news/politics/pope-no-apology-residential-school-1.4596439
Theguardian ดอต com/world/2021/jun/24/canada-school-graves-discovery-saskatchewan
Bbc ดอต com/news/world-us-canada-57325653
Reuters ดอต com/world/americas/canadian-first-nation-finds-751-unmarked-graves-former-residential-school-2021-06-24/
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「first nation canada」的推薦目錄:
- 關於first nation canada 在 The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก Facebook 的最佳貼文
- 關於first nation canada 在 ครูแป้งสอนจีน Facebook 的最佳貼文
- 關於first nation canada 在 Phê Phim Facebook 的精選貼文
- 關於first nation canada 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的精選貼文
- 關於first nation canada 在 大象中醫 Youtube 的最佳貼文
- 關於first nation canada 在 大象中醫 Youtube 的最佳貼文
first nation canada 在 ครูแป้งสอนจีน Facebook 的最佳貼文
NEWS: ทำไมยิ่งทำสงครามการค้า อเมริกาก็ยิ่งเสียดุลให้จีน?
.
เราคงได้ยินเรื่อง “สงครามการค้า” ของอเมริกากับจีนมาบ้างแล้ว ถึงเราไม่สนใจเรื่องนี้ ผลกระทบมันก็กระจายไปทั่วโลกแล้ว ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี ซึ่งบ้านเราก็ได้รับผลกระทบในทางบวกไปบ้างไม่น้อยเหมือนกัน เพราะมันทำให้ทั้งอเมริกาและจีนที่ปฏิเสธสินค้าของกันและกัน หันมาซื้อสินค้าบางประเภทของเรามากขึ้น
.
แล้วทำไมต้องทำสงครามการค้า? นี่เป็นเรื่องที่ซับซ้อน อธิบายอย่างง่ายที่สุดก็คือ Donald Trump มองว่าอเมริกานั้น “เสียดุลการค้า” ให้กับจีนมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน กล่าวคืออเมริกานำเข้าสินค้าจากจีนมากกว่าส่งออกสินค้าไปจีน Trump มองว่านี่เป็นการทำให้เงินไหลออกไปสู่ชาติคู่อริมากเกินไปแล้ว ต้องทำอะไรสักอย่างเลยประกาศ “สงครามการค้า” ซึ่งในทางปฏิบัติก็คือการเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจีน เพื่อกดดันจีนให้ทำข้อตกลงการค้ากับอเมริกาใหม่ เพื่อให้อเมริกาเสียเปรียบน้อยลง อย่างไรก็ดีจีนมีหรือจะยอมง่าย ๆ จีนก็โต้กลับเช่นกันด้วยการประกาศเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากอเมริกาเช่นกัน
.
ที่อเมริกาทำแบบนี้ ฐานคิดก็คือว่าอเมริกาเป็นชาติที่นำเข้าสินค้าจากจีนมหาศาล ถ้าตั้งกำแพงภาษีปุ๊บ ภาคอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกของจีนทั้งหลายก็จะเสียหายหนักแน่ ๆ และจีนก็ต้องยอมในที่สุด
.
ซึ่งนี่ก็มีส่วนจริง ๆ เพราะหลังจากสงครามการค้า ภาคการส่งออกของจีนก็ย่ำแย่พอสมควร
.
...แต่มันหักมุมเล็กน้อย เพราะในขณะที่ภาคการส่งออกของจีนย่ำแย่ลง อเมริกากลับย่ำแย่ลงกว่า หรือพูดอีกแบบ ผลของสงครามการค้า มันทำให้ส่วนต่างของการนำเข้าสินค้าจากจีนของอเมริกา กับการส่งออกสินค้าไปจีนของอเมริกาดันกว้างขึ้นกว่าเดิมอีก พูดในศัพท์เทคนิคก็คือ อเมริกาขาดดุลการค้าให้จีนมากกว่าเดิม
.
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? อธิบายง่าย ๆ คือ ในขณะที่สินค้าที่อเมริกานำเข้าจากจีนที่มากเป็นพิเศษเป็นสินค้าที่จีนผลิตได้เท่านั้น (ส่วนใหญ่อเมริกานำเข้าพวกคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงเครื่องจักรต่าง ๆ)
.
ในทางกลับกันสินค้าที่จีนนำเข้าจากอเมริกาที่มากเป็นพิเศษ กลับเป็นสินค้าเกษตร (โดยเฉพาะพวกเมล็ดพืชที่เอาไปทำน้ำมันแบบถั่วเหลือง) ที่เอาจริง ๆ จีนไปซื้อจากประเทศอื่นก็ได้ ไม่ต้องซื้อจากอเมริกา
.
ในทางปฏิบัตินี่หมายถึง ถ้าอเมริกาเพิ่มกำแพงภาษีสินค้าจากจีน สิ่งที่จะเกิดขึ้นแทบทั้งหมดก็คือ พวกคอมพิวเตอร์ไปจนถึงเครื่องจักรในอเมริกาที่นำเข้าจากจีนจะแพงขึ้น และมันแพงขึ้นเพราะของพวกนี้ยังไงก็ต้องนำเข้าจากจีน อเมริกาเลี่ยงไปซื้อจากประเทศอื่นไม่ได้ เพราะถึงราคาเพิ่มแบบบวกภาษีเข้าไปแล้ว สินค้าจีนก็ยังถูกกว่าที่ผลิตในประเทศอื่นอยู่ดี
.
ในทางกลับกัน ทางฝั่งจีน สินค้าที่นำเข้าจากอเมริกาหนัก ๆ ถ้าไม่นับพวกเครื่องบินแล้ว มันเป็นพวกสินค้าเกษตร ผลที่เกิดขึ้นหลังจีนเล่นงานสินค้าอเมริกาพวกนี้ ด้วยกำแพงภาษีและขึ้นราคา คนก็จะหันไปซื้อสินค้าเกษตรจากประเทศอื่นที่ราคาถูกกว่าราคาสินค้าอเมริกา+ภาษีนำเข้าแทน เพราะสินค้าพวกนี้ประเทศไหน ๆ ก็ผลิตได้
.
กล่าวคือถ้า “แลกกันคนละหมัด” ด้วยการขึ้นภาษีแล้ว จีนมีโอกาสเจ็บน้อยกว่าอเมริกาเยอะ ผลสุดท้ายก็คือ ตอนนี้อเมริกายิ่งขาดดุลการค้าจีนหนักเลย
.
แม้ว่าสินค้าส่งออกจีนไปอเมริกาจะลดลงจริง แต่สินค้าส่งออกของอเมริกาไปจีนลดลงไปมากกว่าเยอะ (เขาถึงว่าคนที่ซวยที่สุดในศึกนี้คือพวกเกษตรกรอเมริกัน) ทั้งหมดมันเลยทำให้เรื่องตลกก็คือ แม้ว่าการ “ขาดดุลการค้า” จะเป็นข้ออ้างของสงครามการค้าแต่แรก แต่ตอนนี้หลังสงครามการค้าเกิด อเมริกาขาดดุลเสียยิ่งกว่าตอนที่ Trump ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีในตอนแรกเสียอีก
.
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เหล่านักวิเคราะห์จะมองไม่เห็นแต่แรก นี่เป็นสิ่งที่เห็นผลกันชัด ๆ อยู่แล้ว แบบดูตัวเลขผ่าน ๆ ก็รู้ ไม่ต้องให้โมเดลอะไรวิเคราะห์ให้มากความก็เห็นด้วยซ้ำ
.
...แต่ Trump ก็ยังเดินหน้าต่อและประกาศ “สงครามการค้า” ในที่สุด และมันก็มีคนที่ต้อง “เจ็บหนัก” อย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้แต่ในฝั่งอเมริกาเอง
.
ซึ่งจริง ๆ เรียกนี่ว่า “สงคราม” ก็คงถูกแล้ว เพราะตรรกะที่ดำเนินอยู่ในฝั่ง Trump ดูจะไม่ใช่ตรรกะทางเศรษฐกิจอีกแล้ว เพราะการคิดคำนวณแบบดูผลได้ผลเสียทางเศรษฐกิจ มันไม่สมเหตุสมผล ตั้งแต่ก่อนเริ่มสงครามการค้าแล้ว และพอสงครามเริ่มจริง ๆ มันก็ยิ่งชัดว่ามันไม่สมเหตุสมผล
.
สุดท้าย มันเป็นเรื่องการเมืองที่แฝงตัวเข้ามาในนโยบายทางเศรษฐกิจมากกว่า เพราะอเมริกากลัวการที่จีนจะกลายเป็นมหาอำนาจทางเทคโนโลยีอยู่แล้ว เพราะนั่นไม่ใช่เรื่องของแค่การพ่ายแพ้ในทางการค้าทั้งนั้น แต่มันกระทบของอำนาจอเมริกาในระดับโลกแน่ ๆ ถ้าปล่อยให้บริษัทเทคโนโลยีจีนขยายตัวไปเรื่อย ๆ แบบที่เป็นอยู่
.
ซึ่งการที่อเมริกา “กวนโอ๊ย” บริษัทที่ใกล้ชิดกับพรรคคอมมิวนิสต์อย่าง Huawei สารพัดตั้งแต่แบนสินค้า Huawei ในอเมริกามาตั้งแต่ปีมะโว้ มาจนถึงการฝากให้แคนาดาจับผู้บริหาร และล่าสุดก็สั่งให้บริษัทอเมริกาทั้งหลายเลิกทำธุรกิจกับ Huawei ก็ล้วนดูจะเป็นตัวอย่างที่ดีมาก ๆ ว่านี่มันไม่ใช่เรื่องของแค่ “การค้า” แล้วมันเรื่อง “การเมือง”
.
ทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าที่ Trump ทำไปไม่มีเหตุผลโดยสิ้นเชิง เพราะถึงการประกาศสงครามการค้านั้นจะดูไม่เข้าท่าสุด ๆ ในทางเศรษฐกิจ แต่นั่นก็คงเป็นวิธีเดียวที่จะทำได้จริง ๆ เพื่อจะ “กดดัน” ไปจนถึงลดอำนาจทางการเมืองของจีนในระดับโลกได้
.
สุดท้ายนี้ก็อย่าลืมกันนะครับว่า ถ้าขนาดอเมริกายังหยุดจีนไม่ได้ ก็คงจะไม่มีใครอีกแล้วในโลกที่จะหยุดจีนได้ และการสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งระดับนั้น การสู้แบบ “ไม่เจ็บ” เลยก็คงจะเป็นไปไม่ได้ หรือกระทั่งการสู้แบบ “หมดหน้าตัก” ก็คงจะไม่แปลกอะไรเช่นกัน ถ้าหวังจะชนะ
.
#USA #China #Trade #War #News #BrandThink
อัปเดตและติดตามข่าวสารได้ที่
Line: @BrandThink (มี @ ด้วยนะครับ)
Instagram: instagram.com/brandthink.me
Website: www.brandthink.me
Twitter: twitter.com/BrandThinkme
NEWS: Why the more the trade war, the more America lose the balance to China?
.
We must have heard some "trade war" with China. Even though we don't care about this, the impact is spread around the world. Whether it's good or bad, our home has been affected in a few positive way too because it makes both America. And China denied each other's products. Turn to buy more of our products.
.
So why trade war? This is the easiest thing to explain is that Donald Trump thinks that America has been "losing the trade" to China for a long time. It is that America imported products from China more than export products to China. Trump thinks this is making money flow to the nation too much foes. I have to do something to do something. Announcement of "trade war" which is to increase China imported products to pressure China to make a new trade deal with America to make America less disadvantage. However, or easy to surrender. China also fight back by announcements. Increase the tax of imported goods from America as well
.
America does this. The base is that America is a nation that import products from China. If it is set up a tax wall for China's export, it will be heavily damaged and China will eventually surrender.
.
This is really part because after the trade war, China's export sector is quite bad.
.
... but it's a little broken because as China's export sector is worse, America is worse or said, the result of trade war, it makes the difference of America's import from America and exports to China. Even more than before. Speaking in the technical vocabulary is that America is missing more defic
.
Why is that? It's easy to explain, while the products imported from China are exclusively China's products (most of America imported computers, electronic devices to various machines).
.
On the other hand, China imported products from America are exclusively agricultural products (especially soy oil) that actually buy from other countries. No need to buy from America.
.
Practical means that if America increases tax walls from China, most of them will happen is that computers to imported from China will be more expensive and more expensive because these things have to be imported from China. Avoid buying. I can't be from other countries because it has reached the price plus tax. Chinese products are cheaper than produced in other countries.
.
On the other hand, China, the products imported from America. If it doesn't count the aircraft, then they are agricultural products. The result of China, after China, with tax walls and the price will turn to buy agricultural products from other countries. Cheap price. Over the price of American products + imported tax instead because of these products can be produced in any country.
.
Well, if "exchange for each other" by increasing tax, China has a chance to hurt less than America. The end result is that America is now, the more of China's deficit.
.
Even though China export products are really reduced, America's export to China is reduced (they say the most unlucky people in this battle are all American farmers). So it makes a joke, even if " lack of trade deficit. " It will be an excuse of the first trade war, but now after the trade war, America is even more deficit than when Trump became president in the beginning.
.
This is not what analysts can't see, but at first, this is clearly effective. Look at the numbers. No need for any model to analyze much.
.
... But Trump still moves on and declares " trade war " and there are people who have to " heavy " inevitable " in America.
.
In fact, it's called "war" is right because the logic that goes on Trump side is not economic logic because the economic calculation is not reasonable since before the start of the trade war and when the war. It's really starting. It's clear that it doesn't make sense.
.
In the end, it's more about politics that comes into economic policy because America is afraid of China to become technological power because that's not about being defeated in commerce, but it will definitely hit the world-class power if they let the company. China keeps expanding the way they are.
.
America "Kuan" company close to Communist Party like huawei from huawei products in America since mavo to depositing Canada to catch executives and recently ordered all American companies to stop doing business with huawei It seems to be a very good example that this is not about " trade " and it's about " politics
.
All of this doesn't mean that Trump has completely unreasonable because the declaration of trade war doesn't make sense in the economy, but that's the only way to "pressure" to reduce China's political power.
.
Finally, let's not forget that if America can't stop China, there will be no one else in the world to stop China and fighting strong enemies. Fighting " doesn't hurt " wouldn't be possible or even fight like " Lap " wouldn't be strange if I hope to win.
.
#USA #China #Trade #War #News #BrandThink
cuddle updates and stay tuned at
Line: @BrandThink (with @ too)
Instagram: instagram.com/brandthink.me
Website: www.brandthink.me
Twitter: twitter.com/BrandThinkmeTranslated
first nation canada 在 Phê Phim Facebook 的精選貼文
🔥🔥 PHIM ZOMBIE KINH DỊ "BLOOD QUANTUM" HÉ LỘ HÌNH ẢNH ĐẦU TIÊN TRƯỚC KHI CÔNG CHIẾU TẠI CANNES 👣
Trong "Blood Quantum", những thây ma đang sống lại bên ngoài khu thổ dân biệt lập Mi'gmaq của Red Crow. Do đó, một cảnh sát trưởng bộ lạc phải bảo vệ người bạn gái đang mang thai đứa con trai của anh, những người người tị nạn và các thành viên khác của khu bảo tồn khỏi đám xác sống đang đe dọa họ.
Đạo diễn người Mi'gmaq - Jeff Barnaby - chỉ đạo và viết kịch bản cho phim. Dự án này là phim điện ảnh thứ hai của Barnaby, sau "Rhymes For Young Ghouls" ra mắt năm 2013.
"Blood Quantum" quy tụ dàn sao điện ảnh đa tài, trong đó có những cái tên nổi bật nhất là:
⭐ Michael Greyeyes của Fear The Walking Dead và True Detective. Greyeyes là diễn viên, biên đạo múa, đạo diễn và nhà giáo dục người Canada.
⭐ Elle-Máijá Tailfeathers (diễn viên, nhà sản xuất, nhà làm phim và trợ lý giám tuyển của Black Foot và Sámi từ Kainai First Nation.)
⭐ Forrest Goodluck (nam diễn viên gốc Á sinh năm 1998 đã sánh vai cùng Leonardo DiCaprio và Tom Hardy trong "The Revenant").
Bối cảnh của phim là Montreal (Canada), Lãnh thổ Kahnawake Mohawk, cũng như quê hương của Barnaby ở Listuguj, Quebec. XYZ - công ty phân phối phim - sẽ bắt đầu quảng bá "Blood Quantum" tại Le Marché du Film sắp tới.