แม้ชีวิตคนเราจะไม่เหมือนกัน แต่แอดก็เชื่อว่า ร้อยละ 95 ของโปรแกรมเมอร์ (หรือใครที่เคยเขียนโปรแกรม) ล้วนผ่านจุด ๆ นึงมาเหมือนกัน นั่นก็คือ จุดที่เราหัดเขียนโปรแกรมครั้งแรก เพื่อแสดงข้อความ “Hello World” ในภาษา C, Java, Python หรือภาษาใด ๆ ก็ตาม 💻
.
แล้วทำไมต้องเป็นคำว่า “Hello World” ด้วยล่ะ มีที่มาที่ไปเป็นยังไง? 🤔 วันนี้แอดจะมาเล่าให้ทุกคนอ่านเอง ถ้าพร้อมแล้วก็จะเริ่มละนะ ! 📢 🔥
.
.
🔸 ผู้ให้กำเนิดคำว่า “Hello World” ในวงการคอมพิวเตอร์คือใคร?
.
เชื่อกันว่า จุดเริ่มต้นของ Hello World ในแวดวงคอมพิวเตอร์อยู่ในยุค 70 มาจากนักคอมพิวเตอร์ชื่อ Brian Kernighan ผู้ร่วมแต่งหนังสือโปรแกรมมิ่งอันโด่งดังเรื่อง C Programming Language และในหนังสือดังเล่มนี้ก็กล่าวถึง Hello World เช่นกัน 📖
.
👉 โดยคุณ Brian Kernighan พูดถึง Hello World ครั้งแรกในหนังสือ “A Tutorial Introduction to the Programming Language B” หนังสือเล่มก่อนหน้าของเขาเองที่ถูกตีพิมพ์เมื่อปี 1973 เพื่ออธิบายวิธีการเขียนโปรแกรมแสดงข้อความ
.
main( ) {
extrn a, b, c;
putchar(a); putchar(b); putchar(c); putchar(’!*n’);
}
a ’hell’;
b ’o, w’;
c ’orld’;
.
⬆️ และนี่ก็คือหน้าตาของโค้ดแสดงข้อความ Hello World ในหนังสือ A Tutorial Introduction to the Programming Language B
.
หลังจากนั้นก็ปรากฏ Hello World ในหนังสือ C Programming Language รวมถึงคู่มือการเขียนโปรแกรมภาษาต่าง ๆ มาจนถึงปัจจุบัน ราวกับเป็นประเพณีที่สืบต่อกันมาของชาวโปรแกรมเมอร์ 🧑💻
.
.
🔸 แล้วคำว่า Hello World มาจากไหน?
.
เป็นอีกเรื่องที่ไม่ชัดเจนมากนัก คุณ Brian Kernighan เคยให้สัมภาษณ์กับทาง Forbes India ว่าเท่าที่เขาจำได้ เขาเจอการ์ตูนที่พูดถึงลูกเจี๊ยบออกจากไข่ แล้วลูกเจี๊ยบก็พูดว่า Hello World 🐣 จึงได้ไอเดียมาใช้อธิบายการเขียนโปรแกรมนั่นเอง
.
ถ้าย้อนกลับไปสมัยนั้น ผู้คนในวงการคอมพิวเตอร์ รวมถึงคุณ Brian Kernighan เอง คงไม่มีใครคิดว่า Hello World จะกลายมาเป็นวลีดังระดับโลก และเป็นเป้าหมายแรกที่โปรแกรมเมอร์มือใหม่เกือบทุกคนต้องพิชิต 💥 หรือเป็นวลีเด็ดที่โปรแกรมเมอร์มือเก่าต้องโค้ดเป็นพิธี ตอนเริ่มเรียนโปรแกรมมิ่งภาษาใหม่ 🔥
.
👉 ซึ่งนอกจากจะเป็น Tutorial บทแรกของมือใหม่แล้ว ปัจจุบัน Hello World ยังถูกใช้ตอนเริ่มต้นโปรเจกต์ เพื่อเช็กว่าโปรแกรมหรือคอมไพเลอร์ทำงานได้ไหม และใช้เปรียบเทียบ Syntax ของโปรแกรมมิ่งแต่ละภาษาอีกด้วย
.
ส่องโค้ด “Hello World” ฉบับโปรแกรมมิ่งกว่า 30 ภาษาได้ที่ https://www.geeksforgeeks.org/hello-world-in-30-different-languages/
.
.
เป็นยังไงกันบ้างวันนี้ เพื่อน ๆ คิดยังไงคอมเมนต์คุยกันได้น้า 😎 ถ้าใครอินดี้ไม่อยากใช้ Hello World ตอนหัดเขียนโปรแกรมภาษาต่อไป ลอง print คำว่า “borntoDev” ก็ได้นะครับ >< หรือถ้าใครมีคำเจ๋ง ๆ มาเสนอก็บอกกันได้ 😂
.
🔖 ขอบคุณข้อมูลจาก
https://blog.hackerrank.com/the-history-of-hello-world/
https://thongchairoj.medium.com/ที่มาของ-hello-world-ในภาษาคอมพิวเตอร์-bdd45eba8789
.
borntoDev - 🦖 สร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับสายไอทีในทุกวัน
#BorntoDevวันละคำ #BorntoDev
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
python print hello world 在 BorntoDev Facebook 的精選貼文
สำหรับใครที่ต้องการเริ่มพัฒนาโปรแกรมคงจะมีคำถามในใจว่า "เราควรจะเริ่มจากภาษาไหนดี?" .. ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในภาษาที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับผู้เริ่มต้นก็คือภาษา Python นั่นเอง 😲
.
แต่เดี๋ยวก่อนนะ .. ถ้าเราเอาข้อมูลไปค้นหาหละก็จะพบว่ามีภาษา Python 2 และ Python 3 ทั้งสองภาษานี้เหมือนกันไหม ? หรือ แตกต่างกันยังไง ? ทำไมเวลาลองเขียน Python 3 ไม่สามารถนำบางส่วนของ Python 2 มาเขียนได้ หรือ ทำไมเขียน Python 3 ไม่สามารถนำ Library ของอันเก่ามาใช้ไม่ได้ ?
.
ซึ่งนำมาอยู่กับคำถามที่ว่า "แล้วเราควรจะเลือกอะไรดีเนี่ย !?"
.
คำตอบคือเราต้องรู้ความแตกต่างระหว่างทั้งสองภาษานี้ก่อนครับ
.
ภาษา Python 3 ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก Python 2 ก็จริง ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบเล็กๆ น้อยๆ หลายส่วนของคำสั่งอย่างเช่นคำสั่ง print ที่ในตัว Python 2 จะสามารถใช้ print "Hello World" ได้ตรงๆ แต่ Python 3 จะใช้ print("Hello World")
.
หลายคนคงสงสัยว่า "อ้าวพี่มันก็แค่นั้นเองนี่"
.
แต่สิ่งเล็กๆ แค่นี้ก็สามารถทำให้ Code ที่ถูกเขียนด้วย Python2 ไม่สามารถทำงานบนระบบใหม่ได้แล้วครับ ไม่ว่าจะเป็น Library ที่ถูกเขียนในรุ่นเก่ามาใช้ในตัวปัจจุบันก็ไม่สามารถใช้ได้
.
ซึ่งในปัจจุบันนี้จริงๆ Library หลายตัวก็ได้พัฒนามารองรับ Python3 กันเสียหมดแล้ว สำหรับน้องๆ คนไหนที่เคยพัฒนา Python 2 มาก่อนอาจจะต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ทันโลกแล้วหละ ! เนื่องจาก Python3 จะกลายมาเป็นมาตรฐานใหม่ในการพัฒนา ด้วยฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้น และ การตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปนั่นเองครับ :D