คนสิงคโปร์ส่วนใหญ่ อาศัยอยู่ในบ้าน ที่สร้างโดยรัฐบาล /โดย ลงทุนแมน
“Public Housing” คือที่อยู่อาศัยที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ โดยจัดสรรให้ประชาชนซึ่งส่วนใหญ่คือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
แต่รู้หรือไม่ว่า ประเทศที่ร่ำรวยอย่างสิงคโปร์ มีประชากรกว่า 80% อาศัยอยู่ในที่อยู่อาศัยที่สร้างโดยรัฐบาล นั่นจึงทำให้สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่ นโยบายการเคหะแห่งชาติประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก
แล้วรัฐบาลสิงคโปร์ทำได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
หลังจากที่ประเทศสิงคโปร์พ้นจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษในปี 1959 หรือเมื่อ 62 ปีก่อน
สิงคโปร์ในตอนนั้นจึงเต็มไปด้วยผู้อพยพจำนวนมากหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งชาวมาเลเซีย จีน และอินเดีย
ความหลากหลายดังกล่าวนอกจากจะนำไปสู่การแบ่งแยกเชื้อชาติแล้ว
อีกปัญหาที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว คือวิกฤติขาดแคลนที่อยู่อาศัย
จึงทำให้ประชากรบางส่วนต้องอยู่กันแบบชุมชนแออัดหรือที่เรียกว่าสลัม
ในปีถัดมา นายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์อย่าง ลี กวน ยู ได้จัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาการเคหะที่ใช้ชื่อว่า Housing and Development Board หรือ “HDB” เป็นโครงการสร้างที่อยู่อาศัยให้เช่าสำหรับผู้ไม่มีกำลังทรัพย์
คุณลี กวน ยู มองว่าการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยคือสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะทำให้ผู้อพยพได้เริ่มลงหลักปักฐานในประเทศนี้
โดยในช่วงแรก HDB ได้เร่งสร้างที่อยู่อาศัยให้ครอบคลุมจำนวนประชากรให้เร็วที่สุด
รูปแบบของที่อยู่อาศัยในตอนนั้นจึงเป็นแฟลตขนาดเล็ก แต่เน้นสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นให้ได้มากที่สุด
แต่เมื่อนโยบาย HDB เริ่มไปได้ไม่นาน ในเดือนพฤษภาคม ปี 1961 กลับเกิดไฟไหม้ในย่านชุมชนแออัดแห่งหนึ่ง ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ขนาดใหญ่ราว 8 สนามฟุตบอล จนมีผู้เสียชีวิต 4 คน และกว่า 16,000 คนต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน
นี่จึงเป็นเหตุการณ์ความสูญเสียที่พิสูจน์ฝีมือของรัฐบาลลี กวน ยู ที่สามารถจัดหาที่อยู่อาศัยให้กับผู้ประสบภัยทั้งหมดได้ภายในปีเดียว ก่อนที่จะฟื้นฟูความเสียหายและสร้างที่อยู่อาศัยถาวรในบริเวณที่เกิดเหตุได้ภายใน 5 ปี
ผลงานนี้ได้ทำให้ชาวสิงคโปร์มีความเชื่อมั่นในนโยบาย HDB มากยิ่งขึ้นและทำให้รัฐบาลโน้มน้าวผู้คนที่คุ้นเคยกับที่อยู่อาศัยที่มีไม่กี่ชั้น ให้ไปอยู่อาศัยบนอาคารที่มีจำนวนชั้นมากขึ้น เป็นไปด้วยความราบรื่นมากยิ่งขึ้น
และในปี 1964 นอกจากการให้เช่าแล้ว HDB ได้เริ่มขายที่อยู่อาศัย
จนกระทั่งปี 1965 HDB ได้สร้างที่อยู่อาศัยไปกว่า 51,000 โครงการ
ซึ่งส่วนมากจะเป็นอะพาร์ตเมนต์ และทำให้ประชากรกว่า 1 ใน 4 หรือราว 400,000 คนมีที่อยู่อาศัย
เพื่อให้การสร้างที่อยู่อาศัยครอบคลุมไปทั่วประเทศ รัฐบาลได้ออกกฎหมายต่าง ๆ เพื่อกว้านซื้อที่ดิน จากในปี 1960 ที่รัฐครอบครองที่ดินอยู่ 44% มาเป็นกว่า 90% ในปัจจุบัน
ขณะที่รัฐบาลหลายประเทศยังคงโฟกัสกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและมีกำลังทรัพย์ไม่พอที่จะเข้าถึงที่อยู่อาศัยในราคาตลาดได้ แต่สำหรับประเทศสิงคโปร์ ที่แม้ว่ารายได้เฉลี่ยของประชากรถือว่าร่ำรวย รัฐบาลได้เริ่มหันมาโฟกัสนโยบายที่อยู่อาศัยเพื่อ “ทุกคน” เพราะต้องการให้ชาวสิงคโปร์มีที่อยู่อาศัยคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้
ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญและเป็นปัจจัยที่เชิญชวนให้ชาวสิงคโปร์
เลือกที่อยู่อาศัยจาก HDB ก็มีอยู่ด้วยกัน 3 อย่าง
ปัจจัยแรกก็คือ “ราคา”
ราคาของที่อยู่อาศัยจาก HDB จะถูกกว่าของเอกชนราว 20 ถึง 30%
ซึ่ง HDB จะมีข้อกำหนดสำหรับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยโดยตรงกับทาง HDB ว่าห้ามขายภายใน 5 ปีแรก เพื่อป้องกันการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อเก็งกำไร
หลังจากผ่าน 5 ปีแรกไปแล้ว จะสามารถขายต่อได้ในราคาตลาด หรือราคาที่ผู้ซื้อผู้ขายตกลงกันเอง แต่ราคาโดยเฉลี่ยจะสูงกว่าราคาที่อยู่อาศัยมือหนึ่งของ HDB อยู่ราว 20 ถึง 25% ชาวสิงคโปร์จึงนิยมเลือกซื้อที่อยู่อาศัยมือหนึ่งจาก HDB มากกว่า ส่วนตลาดรองนี้จะเป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ
นอกจากนี้ HDB ก็ยังมีนโยบายด้านราคาแบบอื่นเพิ่มเติม อย่างเช่น ผู้ซื้อจะได้รับส่วนลดเพิ่ม หากซื้อที่อยู่อาศัยในละแวกเดียวกับพ่อแม่
ปัจจัยที่สองก็คือ “ความช่วยเหลือทางการเงิน”
นอกจาก HDB จะช่วยอุดหนุนเพื่อกดราคาที่อยู่อาศัยให้ต่ำกว่าราคาตลาดแล้ว
ตัวโครงการยังมีนโยบายกองทุนที่ชื่อ Central Provident Fund โดยชาวสิงคโปร์จะถูกบังคับสะสมเงินในกองทุน โดยหักจากเงินเดือน 20% และเก็บจากนายจ้างอีก 17% ของเงินเดือน
ในตอนแรกกองทุนนี้มีเพื่อการเกษียณอายุเท่านั้น
แต่ในปี 1968 รัฐบาลอนุญาตให้ใช้เงินกองทุนเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยได้ด้วย
เพื่อช่วยให้ชาวสิงคโปร์เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ง่ายมากขึ้น
แต่เพียงราคาที่เข้าถึงง่าย และการสนับสนุนทางการเงิน คงไม่สามารถทำให้ชาวสิงคโปร์จำนวนมากตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยจากทาง HDB
นั่นจึงนำไปสู่ปัจจัยสำคัญอย่างที่สามก็คือ “คุณภาพ”
ที่อยู่อาศัยที่จัดสร้างโดย HDB ถือได้ว่ามีสภาพแวดล้อมและคุณภาพที่ดีกว่าสิ่งที่เห็นได้ทั่วไปในหลายประเทศ
โดยทาง HDB มีประเภทอสังหาริมทรัพย์ให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่แฟลตขนาดย่อมไปจนถึงคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ที่มีทั้งยิมและสระว่ายน้ำในตัว
ในแต่ละโครงการก็ยังมีห้องหลายแบบหลายขนาดให้เลือก ตั้งแต่ขนาด 2 ห้องไปจนถึง 5 ห้อง
เพื่อตอบโจทย์ครอบครัวหลายรูปแบบ
และมีบางโครงการที่ HDB จ้างบริษัทเอกชนออกแบบและก่อสร้าง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยได้ทัน แต่ราคาขายยังคงได้รับการอุดหนุนจาก HDB อยู่
นอกจากคุณภาพอสังหาริมทรัพย์แล้ว HDB ยังส่งเสริมในเรื่องคุณภาพชีวิตด้วย
เพราะบริเวณโดยรอบที่อยู่อาศัย HDB กำหนดให้ต้องมีทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า ยิมหรือสถานที่ออกกำลังกาย และทำเลที่ตั้งต้องอยู่ในรัศมีใกล้รถไฟฟ้าใต้ดินทำให้การเดินทางเป็นเรื่องสะดวกสบาย
นอกจากนี้ ภายในโครงการยังต้องมีสถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนาหรือตามประเพณีของทุกศาสนาและทุกเชื้อชาติ ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อกำหนดที่ว่าผู้อาศัยในแต่ละโครงการต้องมีทุกเชื้อชาติรวมกันตามสัดส่วนที่ทาง HDB กำหนด เพื่อช่วยแก้ปัญหาการแบ่งแยกเชื้อชาติและแบ่งแยกชนชั้น
นอกจากเรื่องสัดส่วนของเชื้อชาติแล้ว HDB ยังกำหนดข้อจำกัดด้านอื่นไว้ด้วย ยกตัวอย่างข้อกำหนดที่สำคัญก็เช่น ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยต้องจองซื้อก่อนล่วงหน้า และรอจนก่อสร้างเสร็จอีกโดยเฉลี่ยประมาณ 4 ปี
และแม้ว่าจะใช้คำว่าขาย แต่ในสัญญาจะพ่วงมากับสัญญาเช่า 99 ปี นั่นหมายความว่าเมื่อพ้นช่วง 5 ปีแรกที่ห้ามขายต่อแล้ว หลังจากนั้นผู้ซื้อจะขายต่อ หรือให้ตกทอดเป็นมรดกก็ได้
แต่เมื่อครบสัญญา 99 ปี อสังหาริมทรัพย์นั้นจะตกกลับไปเป็นของรัฐอีกครั้ง โดยรัฐบาลให้เหตุผลว่าเพื่อนำที่ดินกลับมาใช้ใหม่ และสร้างที่อยู่อาศัยให้กับชาวสิงคโปร์ในรุ่นต่อไป
สุดท้ายแล้วเจ้าของที่แท้จริงก็ยังคงเป็นรัฐบาลอยู่ดี โดยถ้านับตั้งแต่ปี 1960 ที่ HDB เริ่มก่อตั้ง จะมีบ้านที่ครบสัญญา 99 ปีครั้งแรกในปี 2059 ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังสร้างความกังวลให้กับชาวสิงคโปร์ ว่าเมื่อเวลานั้นมาถึง การต่อสัญญาเช่าจะเป็นอย่างไร
อีกข้อกำหนดก็คือ ชาวสิงคโปร์ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเองครั้งแรก ต้องมีอายุครบ 35 ปีก่อน แต่จะได้รับการยกเว้นถ้าเป็นคู่แต่งงาน ซึ่งทางรัฐบาลตั้งข้อกำหนดนี้มาเพื่อสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่สร้างครอบครัว แก้ปัญหาการลดลงของประชากร
แต่ข้อกำหนดนี้ก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมปัจจุบัน ที่มีความหลากหลายทางเพศมากขึ้น และการใช้ชีวิตคู่ที่ไม่จำเป็นว่าต้องแต่งงานเท่านั้นแบบในอดีต
อย่างไรก็ตาม HDB ได้ถือเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของรัฐบาลสิงคโปร์ ที่ทำให้ประชากรเลือกที่อยู่อาศัยในโครงการของรัฐเพิ่มขึ้นจาก 9% ในปี 1960 ที่เริ่มต้นโครงการ มาเป็นกว่า 80% ในปัจจุบัน ซึ่งมีโครงการที่อยู่อาศัยที่สร้างโดยรัฐบาลกว่า 1 ล้านยูนิตทั่วประเทศ
และนโยบายที่ทำให้เข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ในราคาไม่แพงนี้ ยังทำให้สิงคโปร์มีสัดส่วนประชากรที่เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยกว่า 91% มากเป็นอันดับสองของโลก เป็นรองเพียงประเทศโรมาเนีย
ซึ่งถ้าเทียบกับในประเทศพัฒนาแล้วประเทศอื่น อย่างเช่น สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร
ทั้งสองประเทศนี้มีสัดส่วนประชากรที่เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยราว 63% เท่านั้น
เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ นโยบายนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้พรรค People’s Action Party ที่ก่อตั้งโดยคุณลี กวน ยู เป็นพรรคการเมืองเดียวที่ปกครองสิงคโปร์มาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลายาวนานกว่า 62 ปี อีกด้วย..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-07-08/behind-the-design-of-singapore-s-low-cost-housing
-https://www.economist.com/asia/2017/07/06/why-80-of-singaporeans-live-in-government-built-flats
-https://www.bbc.com/worklife/article/20181210-can-singapores-social-housing-keep-up-with-changing-times
-https://medium.com/discourse/singapores-paradoxical-housing-policy-6c3e21f8bca7
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「singapore housing policy」的推薦目錄:
- 關於singapore housing policy 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於singapore housing policy 在 Lee Hsien Loong Facebook 的精選貼文
- 關於singapore housing policy 在 Xiaxue Facebook 的最讚貼文
- 關於singapore housing policy 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的精選貼文
- 關於singapore housing policy 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
- 關於singapore housing policy 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
- 關於singapore housing policy 在 Singapore Policy Series: Housing - YouTube 的評價
- 關於singapore housing policy 在 Renowned architect and housing policy expert Professor Tay ... 的評價
- 關於singapore housing policy 在 Navigating Between Limits: The Future of Public Housing ... 的評價
singapore housing policy 在 Lee Hsien Loong Facebook 的精選貼文
The debate on the President’s Address ended yesterday. Many MPs, experienced and new, stood up to speak on a wide variety of issues. My Ang Mo Kio teammates did their part:
Nadia A. Samdin gave a heartfelt speech about helping the “sandwiched class” and vulnerable families, as well as how individuals of different generations should find common ground.
Gan Thiam Poh too, touched on how to better support the “sandwiched class”, through social assistance schemes and changes to public housing policy.
Darryl David shared passionately about how our education system should focus less on exams and more on coursework.
Ng Ling Ling 黄玲玲 proposed redesigning jobs and employment practices to help our maturing workforce.
Four very different speeches in style and subject matter, but bound by a common conviction to improve the lives of Singaporeans.
Our immediate priority is the COVID-19 situation. But as Nadia said, “In times of hardship such as this, we need to sow seeds of hope for when the rain passes, and a strong vision for the future.”
The government will continue to help those affected by the pandemic, but we must not neglect our long term plans to ensure a good future for all Singaporeans. After rain, we want to emerge stronger to a more hopeful and forward-looking Singapore.
You can watch all the speeches here (and Nadia’s in the link below):
Gan Thiam Poh: https://www.channelnewsasia.com/news/parliament/videos/august/debate-on-president-s-address-gan-thiam-poh-on-housing-childcare-13068696
Darryl David: https://www.channelnewsasia.com/news/parliament/videos/september/debate-on-president-s-address-darryl-david-on-how-singapore-s-13079722
Ng Ling Ling: https://www.channelnewsasia.com/news/parliament/videos/september/debate-on-president-s-address-ng-ling-ling-on-support-for-a-13076138
– LHL
singapore housing policy 在 Xiaxue Facebook 的最讚貼文
Reposting a snippet from my latest blog post, you can read the full article here: http://xiaxue.blogspot.com/2020/07/raeesah-khan-ge-2020-and-being-labeled.html?m=1
I’m posting more about Raeesah Khan today.
First, a disclaimer. I do not dislike the Worker’s Party.
Of all the opposition parties, I think they are the best. I live in Aljunied grc, and they have done a great job so far. I agree with many of the policy suggestions in their manifesto.
For example, redundancy insurance, abolishing the retirement age, or lowering the age of eligibility for BTO flats, which will help singles and our LGBTQ community to get housing just like married couples are.
Previously I mentioned on my ig stories that Raeesah Khan is not suitable to be an MP.
Today I am going to ask some very important questions which I hope both WP and Raeesah will answer.
I refer to this tweet by Raeesah in the photos.
It appears that she is saying her political views can be summed up by
- Angela Davis’ political views
- Intersectional feminism
Many of you may not know about Angela Davis, but she is a far-left activist, who spent her life sympathising with some of the most oppressive communism regimes around.
She literally calls herself a communist, and was a member of the Communism Party in USA. I think there is no need to explain how horrible communism is.
And of course in order to make any non-communist country a communist state, it would involve total revolution, many lives, and replacing it with a totalitarian regime in charge of redistributing wealth back to its citizens.
She is also a prison abolitionist, campaigning for prisons to completely be eradicated. Where to put the murderers, I can’t seem to find a good answer, because it seems she also is against the death penalty.
Angela Davis was a member of the Black Panthers, a brutal communist, anti-semite organization. In 1970, Angela Davis bought the weapons that were used for a shootout during a trial of 3 black inmates accused of killing a white prison guard. All the black men and judge who was held hostage perished in the gunfight, and Davis fled the state. She was eventually caught.
Even though she conspired to commit murder, the jury found her not guilty.
In short, this woman is the antithesis to the Singapore that Mr Lee Kuan Yew wanted.
This tweet of Raeesah Khan’s talking about Angela Davis was posted only a few weeks ago, but surprisingly enough, nobody is talking about it.
Anyone who knows who Angela Davis is should be horror-filled that a candidate running for parliament is a fan of hers, and claims that the reading of her books represents her political views.
Previously I mentioned Raeesah appears to be one of those radical leftists who seem hell bent on bringing the toxic, cancerous identity politics that America is so notorious for into Singapore.
There are racial issues that minorities face in Singapore, of course there is. It is tough to be a minority in any country.
But instead of discussing calmly and logically what new politics can be introduced to solve these problems or what laws need to change, proponents of Identity politics instead try to make a single race the enemy.
When there are enemies, people unite. Political parties using this method will see themselves get votes if they manage to market themselves as the empathetic ones, even if the politics they impose do more evil than good in the long run.
Society is then split into a them vs us, while tribalistic infighting ensue. If you disagree with this method of classifying victims by their skin colour (when in fact so many things determine a person’s privilege, such as looks, height, family wealth, health, both parents around etc etc), you are automatically seen as racist and the bad guy.
Because nobody wants to seem morally corrupt or unsympathetic, they prop up this system.
Instill this sentiment into citizens long enough and resentment builds. The ones constantly told they are being oppressed will start seeing oppression everywhere. They won’t even try to succeed in life, because they are told they are so oppressed they can never make it. They believe their oppressors owe them.
Meanwhile, the majority race starts feeling angry at constantly being called oppressors. Or maybe they are poor and unhappy themselves, but see that resources for help are only made available for minorities but not them. If they were indeed racist before, this makes them even more racist.
What eventually happens is civil war. We cannot have this poison in Singapore.
Raeesah’s has apologised for her posts, but nobody needed to hear whether she is sorry she was being insensitive.
What people need to know is:
Does she still believe our courts are corrupt as she so insinuated? Does she still believe law enforcement unfairly target minorities? If not, what made her change her mind? Her statement does not address any of this.
Worker’s Party claim they did not see those posts of Raeesah’s. Fair enough. But I do not believe they have done such terrible vetting that they have not seen her tweet about Angela Davis which was so recent.
I wish to ask Raeesah Khan, DO YOU DISAVOW ANGELA DAVIS’ POLITICAL VIEWS?
- Do you believe that Singapore, through a brutal revolution and death, can become a communist utopia?
- Do you think that everyone in Singapore should not own private property and should have equal wealth, the very values communism epouses? If so, do you seek to redistribute your multi-millionaire dad's wealth to the poverty-stricken citizens of Singapore?
- Do you agree that it is only with violence and death do we achieve true freedom?
- Do you seek to abolish prisons in Singapore?
- Do you believe in the ideologies of Karl Marx, or Valdamir Lenin?
As for Worker’s Party, why did you field a candidate who holds extreme left-wing views?
Do you agree with her ideologies and think it aligns with yours? DO YOU ENDORSE THESE FAR LEFT VIEWS??
Please answer these questions. I write all these not because I am a PAP lackey, even though obviously people will say I am. Despite what you think, I believe it is healthy to have opposition seats in parliament.
However, I absolutely do not want to see candidates such as Raeesah Khan in our parliament - she brings with her dangerous political views that can topple the peaceful society we built over the years and is completely against everything that Singapore stands for. As it is, the mindless youth of Singapore are already echoing her dangerous ideologies.
I would rather any opposition joker win than her.
singapore housing policy 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的精選貼文
singapore housing policy 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
singapore housing policy 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
singapore housing policy 在 Renowned architect and housing policy expert Professor Tay ... 的推薦與評價
Professor Tay Kheng Soon has expressed concern over. Singapore's public housing policies, which he believes have trapped the government and its ... ... <看更多>
singapore housing policy 在 Navigating Between Limits: The Future of Public Housing ... 的推薦與評價
This essay examines the changes in this set of housing policies in Singapore in the last decade as the state struggles to negotiate a ... ... <看更多>
singapore housing policy 在 Singapore Policy Series: Housing - YouTube 的推薦與評價
Singapore has been well-known to provide affordable housing for its citizens. How much of Singapore's housing policy do you know? ... <看更多>