「坦白比赤裸更動人」
是梁祖堯在幫助參賽者打開自己心靈時候講的
這一句深深印在我腦中
當我提醒參賽者要做一個有血有肉的自己時
原來我也一樣在學 在實踐
然後昨晚做了一個嘗試
挑戰錄了一首好坦然 好坦白 好赤裸 的經典作品
原來力量就是因為相信而傳遞的
我有把大家給我的力量
轉換成信念 灌注在每一個字裡面
想不到也爲我的錄音團隊帶來驚喜的效果
這首歌希望可以一月面世
送給支持我的你
這個「我」分享給你們
因為也是大家成就出來的
Venue: AVON Recording Studios
Mic: Vintage Telefunken u47 tube microphone
telefunken u47 在 แปลงซะเสีย Facebook 的最讚貼文
Kings of Leon - Only By The Night (2008)
ในช่วงปลายปี 2007 นักร้องนำและมือกีต้าร์ของวง Caleb Followill เล่นเพลงที่ยังแต่งไม่เสร็จเพลงนึงให้กับวงและโปรดิวเซอร์ Jacquire King และ Angelo Petraglia ฟัง เพลงนั้นชื่อว่า "Sex On Fire" ด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์เขาต้องการความเห็นจากใครซักคนว่าเพลงนี้คุ้มค่าที่จะทำต่อมั้ย หลังจากนั้นเขาดันมีอุบัติเหตุ ทำให้มีอาการบาดเจ็บที่ไหล่ หมอบอกว่าให้เขาหยุดเล่นกีต้าร์ประมาณ 8 สัปดาห์ แต่เขาไม่เชื่อหมอและฉีดยาแก้ปวดทำให้แขนขวาพอจะขยับได้ เขาหยิบกีต้าร์ขึ้นมาลองเล่นและได้ท่อนริฟฟ์อินโทรของเพลงนี้มา แม้จะฟังดูทรมานไปหน่อยแต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหลังจากนั้นอัลบั้ม Only By The Night ก็ดังระเบิดไปทั่วโลก
Jacquire King โปรดิวเซอร์เล่าว่า "Caleb จะเล่นกีต้าร์ไฟฟ้าหรืออคูสติคให้พวกเราฟังถึงไอเดียที่เขาแต่ง อย่างเพลง 'Sex On Fire' ทุกคนรู้สึกว่าเมโลดี้และตัวเพลงมันเยี่ยมมาก และวงก็ขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องเพลงที่เกี่ยวกับเซ็กส์ ดังนั้นเราเลยสนับสนุนให้เขาทำเพลงนี้เพราะเพลงร็อคแอนด์โรลส่วนมากก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องต้องห้ามทั้งนั้น"
"เราคัดเลือกเพลงมาทั้งหมด 18 เพลงที่เราอยากจะทำกันในอัลบั้มนี้ เรามีเวลาประมาณ 2- 3 สัปดาห์สำหรับจัดเตรียมการทำพรีโปรดัคชั่นตลอด 2 เดือนหลังจากนั้นโดยวงจะตั้งเครื่องไว้กลางห้องซ้อมขนาดใหญ่ที่มีระบ P.A. เมื่อวงเล่นสดพร้อมกันเราจะเริ่มเรียบเรียงแบบคร่าวๆ เพื่อนำไปพัฒนาต่อในห้องบันทึกเสียง ผมไม่ชอบการกำหนดไอเดียที่มีแบบตายตัวในตอนพรีโปรดัคชั่น เพราะคุณไม่มีทางจะรู้ว่าเพลงจะออกมาเป็นยังไงจนกว่าจะได้อัดเสียงมัน สำหรับผมพรีโปรดัคชั่น คือการจัดการและพูดคุยกันเกี่ยวกับเพลงเพื่อให้วงพร้อมที่จะเข้าไปใช้ห้องอัดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ" Jacquire King อธิบาย
อัลบั้ม Only By The Night บันทึกเสียงกันที่ Blackbird Studio D ในช่วงเดือน ม.ค. ปี 2008 Jacquire King อัดเสียงวงแบบเล่นสดพร้อมกันในสตูดิโอลงสู่เทป 16 แทร็ค ซึ่งเขาเคยใช้ในอัลบั้มชุดที่แล้วของวง (Because Of The Times) "4 ปีที่แล้วผมอัดทุกอย่างลงเทป ใช้บอร์ดคอนโซลของ TG จากห้องอัด Abbey Road ไม่มีการใช้คอมพิวเตอร์ ทุกอย่างเป็นแบบอนาล็อก มิกซ์แบบ manual ไม่มี automation ผมอัดเบสิคแทร็คโดยใช้ไมค์ 7 ตัว Caleb ร้องไปพร้อมๆกับวง ไม่มีเพลงไหนที่ใช้เกิน 12 แทร็ค เป็นการอัดเสียงที่เร็วมาก"
"สำหรับอัลบั้มนี้พวกเขายังเล่นสดพร้อมกันเหมือนเคย ห้องของ Blackbird ใหญ่มากๆ แต่เราก็ตั้งเครื่องไม่ห่างกันมากนัก ผมไม่สนใจว่าเสียงจะรั่วเข้าหากันรึเปล่า เพราะมันทำให้เพลงดูมีมิติขึ้น เป้าหมายหลักของผมในอัลบั้มนี้คือใช้เวลากับเรื่องโปรดัคชั่นและเสียงร้องของ Caleb เขาจะร้องไกด์ไปตอนที่เล่นพร้อมกันด้วย แต่เสียงร้องไกด์ที่เอามาใช้จริงมีแค่ในเพลง 'Cold Desert' ส่วนเพลงที่เหลือจะอัดโอเวอร์ดับเข้าไปใหม่ เขามีเสียงร้องที่ดี แต่เราต้องการรายละเอียดมากกว่านั้น เราจึงอัดเสียงเครื่องดนตรีก่อน แล้วค่อยคุยกับเขาว่าอยากนำเสนอด้วยวิธีไหนในแต่ละเพลง โดยปรกติเขาจะร้องแค่เพลงละ 3 - 4 เทค และเราจะเลือกดูความแตกต่างในแต่ละเทคหรือบางทีก็ใช้เทคนั้นยาวเลย"
"เราทดลองหลายอย่างในเรื่องซาวด์ แทนที่จะใช้พลังงานจากเล่นสดเหมือนในชุดก่อนๆ เราต้องการโครงสร้างเพลงที่กว้างและมีเลเยอร์ที่เยอะขึ้น เราเปลี่ยนเซ็ตอัพของกลอง แอมป์ กีต้าร์ และ เอฟเฟค เพื่อสร้างบรรยากาศที่แตกต่างกันไปในแต่ละเพลง ที่ Blackbird มีอุปกรณ์ดนตรีที่ดีที่สุดในโลกเท่าที่เราอยากจะได้ ผมอัดเสียงด้วยบอร์ด API 96
แชนเนล และใช้ Neve BCM10 เป็น sidecar (อุปกรณ์เสริม)"
ที่สตูดิโอ Blackbird มีไมค์โครโฟนกว่า 1,300 ตัว รวมไปถึงปรีไมค์และ outboard gear คุณภาพสูงอีกมากมาย ทำให้ King สามารถทดลองอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ
"อย่างที่ผมบอกแต่แรก สิ่งหนึ่งที่ผมต้องการทำในอัลบั้มนี้ก็คึอ การจัดวางตำแหน่งของเสียงเพื่อสร้างบรรยากาศที่แตกต่างกันไปในแต่ละเพลง ผมอยากให้มันเป็นโปรดัคชั่นแบบจริงจังในอัลบั้มนี้ พวกเขาเคยอัดเสียงในแบบที่ไม่ซับซ้อนและทำมันได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งงานก็ออกมาดีเพราะพวกเขาเล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้นในฐานะนักดนตรีพวกเขาต้องมีการเปลี่ยนแปลงและต้องเรียนรู้กับสิ่งใหม่ๆ
ดังนั้นผมจึงต้องเปลี่ยนเซ็ตอัพอุปกรณ์เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศในเพลงนั้นๆ ผมจะอัดแต่เสียงที่ผมต้องการจริงๆ แทนที่จะเซ็ตทุกอย่างเหมือนเดิมแล้วไปหาทางทำให้มันออกมาดีตอนมิกซ์ มันถือเป็นเรื่องจำเป็นมากไม่ว่าจะอัดเสียงอะไรก็ตามที่คุณให้คุณค่ากับมัน การตัดสินใจของคุณจะส่งผลสู่กระบวนการถัดไป ถ้าคุณปรุงแต่งมันเยอะ มันไม่มีทางจะเหมือนเสียงที่คุณได้ยินในหัวตอนแรก"
เบส อัดเสียงผ่าน DI และ ตู้ SVT จ่อด้วยไมค์ Neumann U47 จากนั้นทั้งสองสัญญาณจะเข้าสู่ปรีแอมป์ของ Neve 1081 และคอมเพรสเซอร์ของ Teletronix LA2A ส่วนแทร็ค DI จะเพิ่มคอมเพรสเซอร์ของ Dbx 160 และ ผสม subharmonic ซินธ์โบราณ Dbx Disco Boombox เพื่อเพิ่มย่านโลว์ เนื่องจาก Jared มือเบสชอบเล่นโน้ตตัวสูงๆ
กลอง จะเปลี่ยนไมค์เกือบทุกเพลง
สำหรับเบสดรัม ใช้ไมค์ Shure Beta 52, Electrovoice RE20, Sennheiser MD421, Neumann FET 47 หรือ NS10 (เอาดอกลำโพงมอนิเตอร์ Yamaha NS10 มาใช้แทนไมค์รับเสียง เพื่อได้เสียงย่าน Sub ปัจจุบัน Yamaha ผลิตออกมาขายใหม่เป็น Subkick - แอดมิน) สแนร์ใช้ SM57, ทอมใช้ Josephson E22S, โอเวอร์เฮดใช้ Telefunken Elam 251, ไรด์และไฮแฮทใช้ RCA77, รูมใช้ Neumann U67, M49, AKG C12, RCA 44 และ Royer SF12 ในห้องเอคโค่แชมเบอร์
กีต้าร์ แต่ละคนจะใช้ตู้ 2 ตู้ จ่อด้วยไมค์ SM57 และ Neumann U67 ผ่านเข้าปรีไมค์ของ API และ API 550A EQ
เสียงร้องของ Caleb ใช้ไมค์ SM57 ต่อเข้าปรีไมค์ Chandler TG2, Neve 1073 EQ และคอมเพรสเซอร์ LA2A สำหรับ De-esser ใช้ Dbx 902
Jacquire King อัดเสียงเบสิคแทร็คลงเทปอนาล็อก 16 แทร็ค ก่อนจะถ่ายลง Pro Tools ในระบบ 24–bit, 96kHz โดยใช้ A–D converters ของ Apogee เขาจะอัดเสียงโอเวอร์ดับและมิกซ์ทั้งหมดใน Pro Tools
ที่มาของชื่ออัลบั้ม Caleb บอกว่า "สำหรับผมมันเหมือนเป็นการกลับมาของ Kings of Leon ไม่ใช่แค่ในฐานะวงดนตรี แต่ในฐานะของเพื่อน ทุกคืนหลังจากอัดเสียงเสร็จเราจะไปที่บาร์ด้วยกัน กินดื่มพูดคุยถึงสิ่งที่เราจะต้องทำในวันถัดไปแทนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน มันให้บรรยากาศแบบครอบครัว (ก็เป็นพี่น้องกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ - แอด
มิน) นั่นคือที่มาของชื่ออัลบั้ม Only By the Night
...
telefunken u47 在 FIR阿沁 Facebook 的最讚貼文
《Real Home Studio》
自己的studio錄製Vocal / guitar /收音等等器材不少,畢竟從樂團還興旺的時代就開始從事音樂製作與錄音室。從常見的U87、U47、U!49、AKG414麥克風,到Manely、Tube-Tech、Focusrite、等等Pre amp,不同的compressor UA、1272,都有很多的使用經驗。最後我長期製作DEMO、或是Home Studio的器材,精簡到以下。跟大家分享:
MIC:WUNDER AUDIO CM7 S
PRE:WUNDER PREQ2R
COM:MOHUG MoFET76
CM7 S 美金定價大約7,000左右,雖然價位偏高,但是,這是我使用過覺得收音頻率最寬廣的MIC,包含木吉他收音,都可以一次搞定。EQ完全不需要調整,等到後製我在做LOW CUT或是混音處理,及可以達到我要的聲音。TELEFUNKEN的251相較之下價位更高,但是細膩度,我覺得完全不輸。
WUNDER PREQ2R 除了有現代復古的外觀,加上一顆非常具有特色的「VINTAGE / CLASSIC」模式切換燈鈕,常常我在錄音時需要的「音色」「個性」在這兩的燈鈕的切換下,即可以達到我要的有點顆粒摩擦感、但是又高質感復古的TONE選擇。大部分時候我會用「VINTAGE」PRE模式做LEAD VOCAL、「CLASSIC」PRE模式做sub或合聲,立刻可以感覺得聲音的廣度與變化,否則像我這種喜歡獨立完成作品的製作人,又不想很麻煩的不斷更換MIC與PRE AMP,成品聽起來就不會無趣。所以自己很推薦這台PRE,美金定價在3400左右的價位,雖然價位不低,但是,CP還是很好的。
MOHOG 的76製作的工法還是很細緻的,而且定價再1100美金上下,實在是非常便宜。在某程度上聲音的質感偏「現代」,加上也有一個很特殊的設計「CARNHILL」模式\「EDCOP」模式切換,基本上讓自己的COMPRESSOR多了兩種聲音的選擇,所以加上WUNDER PREQ的兩種音色,我就有了4種音色可以自由選擇,在空間有限的HOME STUDIO、器材不需要不斷拔插的狀況下,基本上幾乎所有的案子都可以完成:詞曲DEMO、製作編曲所需的GUITAR收音、製作案和聲、電吉他錄音、都可以輕鬆搞定。
以上分享