ใครจะได้ประโยชน์ ในโลกยุค Sustainability
ประเด็นเรื่องความยั่งยืนของโลก ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ได้รับการถูกกล่าวถึงมายาวนาน
แต่ทำไมผู้คนจึงพูดถึงเรื่องนี้กันมากขึ้น ในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา
นั่นก็เพราะผลกระทบจากปัญหาเหล่านี้ กำลังเป็นเรื่องใหญ่ที่ยากจะมานั่งใจเย็นได้
อย่างเช่นปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)
หากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ยังถูกปล่อยในอัตราเดิม จนถึงปี 2100
เศรษฐกิจโลกจะเกิดความเสียหายสูงกว่า 550 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
นานาประเทศจึงได้ร่วมกันตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์
หรือที่เรียกว่า Net-Zero Greenhouse Gas Emission
อาทิ
- ระดับโลก ภายใต้ Paris Climate Agreement
- ฝั่งเอเชีย อย่างจีน ที่ตั้งเป้าปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2060
- ฝั่งสหรัฐอเมริกา ภายใต้รัฐบาลโจ ไบเดน ตั้งงบลงทุน 1.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ภายใต้ Climate and Environmental Justice Proposal
“ความยั่งยืน” ไม่เพียงเป็นนโยบายระดับประเทศ
แต่ยังเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ ในโลกธุรกิจ
เมื่อผู้บริโภคตื่นตัวกันมากขึ้น ทั้งในเรื่องสิ่งแวดล้อม และความเท่าเทียมทางสังคม
และพร้อมที่จะเลิกสนับสนุนธุรกิจที่ไม่มีความรับผิดชอบ
เช่น การแบนสินค้าที่มีกระบวนการผลิตละเมิดสิทธิมนุษยชน
โจทย์สำคัญในยุคนี้ของโลกธุรกิจ..
ก็คือ ทำอย่างไรให้ธุรกิจเติบโต โดยไม่ส่งผลทำลายโลกและสังคม เพื่อสร้างความยั่งยืนในอนาคต
ความท้าทายนี้ สำคัญต่อการอยู่รอด หรือการเป็นผู้ชนะ ของโลกธุรกิจเลยทีเดียว
แล้วเรื่องนี้สำคัญต่อการลงทุนของเราอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง..
ผลจากการตระหนักถึงความสำคัญของความยั่งยืน กำลังก่อให้เกิดแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ ๆ
ที่เป็นมิตรต่อโลกและสังคม เรียกว่า CLIC Economy
Lombard Odier องค์กรไพรเวทแบงกิ้งระดับโลก
คาดการณ์ว่า CLIC Economy จะส่งผลต่อทุกอุตสาหกรรม
และจะเกิดเม็ดเงินลงทุนหมุนเวียนกว่า 5.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปีเลยทีเดียว
โดย CLIC Economy ที่ว่านี้ จะประกอบไปด้วย
C (Circular) คือ การใช้ทรัพยากรหมุนเวียน
L (Lean) คือ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
I (Inclusive) คือ การสร้างความเท่าเทียมด้านเศรษฐกิจและสังคม
C (Clean) คือ การดำเนินการที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม
พูดง่าย ๆ ว่าแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ว่านี้
กำลังผลักดันธุรกิจให้กลายเป็น “ธุรกิจแห่งความยั่งยืน” นั่นเอง
หลายคนอาจสงสัยว่า..
แล้วธุรกิจเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด
จะปรับตัวมาเป็น “ธุรกิจแห่งความยั่งยืน” ได้อย่างไร ?
รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของ Apple คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่มาจากวัสดุรีไซเคิล 100%
รวมทั้งการใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิตทั้งหมด ภายในปี 2030
เช่นเดียวกัน TSMC ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก ที่มีเป้าหมาย Positive Impact ต่อโลกให้มากที่สุด เช่น ลดของเสียในกระบวนการผลิตและลดมลพิษทางอากาศ
สะท้อนได้ว่า “เทรนด์ Sustainability” ไม่ใช่แค่เรื่อง CSR
แต่กำลังเป็น “หนึ่งเป้าหมายหลัก” ในโลกธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ธุรกิจที่ปรับตัวก่อน ย่อมอยู่รอด และก้าวขึ้นไปสู่ชัยชนะในโลกธุรกิจ
ส่วนธุรกิจที่มองข้ามความสำคัญนี้ อาจไม่ได้รับการยอมรับจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งภาครัฐ พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และนักลงทุน จนต้องล้มหายตายจากไปในอนาคต
ทีนี้น่าจะมองออกแล้วว่า..
ธุรกิจที่กำลังเติบโต และกำลังสร้างความยั่งยืน ด้วยการเป็น “ธุรกิจแห่งความยั่งยืน”
ก็คือโอกาสสำคัญในการลงทุน ที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว หรือที่เรียกว่า Long Term Growth นั่นเอง
จึงไม่แปลกใจ หากปัจจุบันนี้จะมีรูปแบบการลงทุน Sustainable Investing เกิดขึ้นมากมาย
คำถามคือ แล้วเราจะเลือกลงทุนในธีม Sustainability อย่างไรดี ?
หนึ่งในผู้นำด้าน Sustainable Investing
ก็คือ KBank Private Banking ซึ่งเป็นไพรเวทแบงก์รายแรกในประเทศไทยที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง
และยังมีพันธมิตรเป็นผู้ให้บริการไพรเวทแบงกิ้งระดับโลก
อย่าง Lombard Odier ผู้มีประสบการณ์กว่า 225 ปี
มองว่า จุดเด่นของ Sustainable Investing
คือ การลงทุนระยะยาว ที่จะสร้างความมั่งคั่งแบบ Smooth และ Sustainable
ไปพร้อมกับความยั่งยืนของโลก
ธีมการลงทุนนี้ จึงอาจจะไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนลักษณะ Momentum Play
ที่เน้นเล่นรอบระยะสั้น แบบจับจังหวะราคาขึ้นลง
ภายใต้ตัวเลือก Sustainable Investing ที่มีอยู่มากมาย
สิ่งที่นักลงทุนต้องพิจารณา คือ การพยายามมองหากองทุนหลักต่างประเทศที่มีองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และลงมือทำจริง
โดยเข้าไปพิจารณาถึงเนื้อในของการทำงานกองทุนนั้น ๆ
ด้วยเหตุนี้ ผู้เชี่ยวชาญที่จะทำหน้าที่แนะนำการลงทุน ทั้งในเรื่องการดำเนินการของธุรกิจตามเป้าหมายและระดับราคาที่เหมาะสม จึงกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นนั่นเอง
ตัวอย่างกองทุนรวมประเภท Feeder Fund ที่ KBank Private Banking แนะนำแก่ลูกค้า
ในธีมการลงทุน Sustainable Investment ที่น่าสนใจ
คือ กองทุน K-CLIMATE และ กองทุน K-CHANGE
แล้วกองทุน K-CLIMATE น่าสนใจอย่างไร ?
กองทุน K-CLIMATE มีจุดเด่นที่น่าสนใจ
คือ การลงทุนในธุรกิจที่สามารถเติบโต มีศักยภาพในการแข่งขันระยะยาว
พร้อมมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
รวมทั้งธุรกิจที่ปรับตัวเพื่อรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)
ธุรกิจกลุ่มนี้ ถือเป็นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์โดยตรงจาก Paris Agreement
ตัวอย่างธุรกิจที่เข้าไปลงทุน เช่น
-Vetas Wind System ผู้นำด้านการพัฒนากังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าที่สามารถผลิตได้สูงถึง 130 กิกะวัตต์ ใน 82 ประเทศทั่วโลก มีส่วนแบ่งตลาด 20% และมีบริการยาวนานถึง 19 ปี
-Delta Airlines บริษัทสายการบินใหญ่ที่สุดในโลกที่พยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยแผนการลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐในอีก 10 ปี ข้างหน้า
โดยปัจจุบัน กองทุน K-CLIMATE มีผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งกองทุนต่อปี 17.99% ใกล้เคียงดัชนีอ้างอิงที่ 19.25% ต่อปี (ณ 1 เมษายน 2564)
แล้วกองทุน K-CHANGE น่าสนใจอย่างไร ?
กองทุน K-CHANGE มีจุดเด่นที่น่าสนใจ
คือ การลงทุนในบริษัทที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสูงพร้อมทั้งสร้างผลกระทบเชิงบวก และช่วยให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ โอกาสทางสังคมและการศึกษา การดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิต ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส
โดยมีเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกบริษัทที่จะลงทุน
ที่สามารถวัดผลการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเป็นรูปธรรม
เช่น ทุกการลงทุน 15 ล้านบาทในปี 2019
- จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ 124 ตัน
- จะช่วยประหยัดน้ำดื่มได้ 2.9 แสนลิตร
ตัวอย่างธุรกิจที่เข้าไปลงทุน เช่น
- ธุรกิจเทคโนโลยีที่มีกระบวนการผลิตเป็นมิตรต่อโลก เช่น Tesla และ TSMC
- ธุรกิจส่งเสริมคุณภาพชีวิตและการวิจัยด้านยารักษาโรค เช่น Moderna และ M3
ที่น่าสนใจคือ K-CHANGE ลงทุนใน Moderna ตั้งแต่ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19
เพราะเป็นธุรกิจเทคโนโลยีสุขภาพในเมกะเทรนด์ ที่สามารถสร้างความยั่งยืนให้แก่โลกได้
โดยกองทุน K-CHANGE มีผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งกองทุนต่อปีที่ 47.46%
ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าดัชนีอ้างอิงต่อปีที่ 17.29% (ณ 7 เมษายน 2564)
พูดง่าย ๆ ว่ากองทุน K-CLIMATE และ กองทุน K-CHANGE
เป็นหนึ่งช่องทางสร้าง Long Term Capital Growth
หรือผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้นั่นเอง
มาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่า..
เทรนด์ “Sustainability” ไม่ใช่แค่เรื่องของนโยบายระดับประเทศ
แต่ยังเป็นโอกาสสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับโลกธุรกิจ
แม้วันนี้.. หลาย ๆ อย่างจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
แต่การมีเป้าหมายที่ชัดเจน แม้จะใช้ระยะเวลานาน ก็มั่นใจได้ว่า การเดินทางครั้งนี้ จะไม่หลงทาง
เช่นเดียวกับการเลือกลงทุนกับองค์กรมืออาชีพที่ช่วยดูแลการลงทุน ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนด้วย “ธุรกิจแห่งความยั่งยืน”
และยังเป็นเทรนด์การลงทุนที่จะสร้าง “ผลตอบแทนระยะยาว” ให้แก่นักลงทุน และ “ความยั่งยืน” ให้แก่โลกไปพร้อมกันนั่นเอง..
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในธีม Sustainability สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.kasikornbank.com/th/personal/private-banking/vdo-covid/Pages/KPB-Perspective-EP2.aspx และ https://www.kasikornbank.com/th/personal/private-banking/vdo-covid/Pages/KPB-Perspective-EP3.aspx
ข้อมูลสำคัญสำหรับการลงทุน
- K-CLIMATE ระดับความเสี่ยงกองทุน : ระดับ 6 / ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน : การป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจ
- K-CHANGE ระดับความเสี่ยงกองทุน : ระดับ 6 / ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน : การป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน
- โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า/เงื่อนไขผลตอบแทน/ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
- ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน
References
-https://joebiden.com/climate-plan/
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-03-05/china-s-new-green-target-still-means-pumping-too-much-pollution
-https://ec.europa.eu/info/strategy/priorities-2019-2024/european-green-deal_en#timeline
-https://greennews.agency/?p=22111
-https://www.lombardodier.com/clic
-https://www.apple.com/environment/
-https://csr.tsmc.com/csr/en/CSR/valueCreation.html
-https://kasikornasset.com/th/mutual-fund/fund-template/Pages/K-CHANGE-A(A).aspx
-https://www.kasikornasset.com/th/mutual-fund/fund-template/Pages/K-CLIMATE.aspx
「ความยั่งยืน sustainability」的推薦目錄:
- 關於ความยั่งยืน sustainability 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於ความยั่งยืน sustainability 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於ความยั่งยืน sustainability 在 พ่อบ้านเยอรมัน Facebook 的最讚貼文
- 關於ความยั่งยืน sustainability 在 KMUTT - Sustainability แปลว่า ความยั่งยืน? โดยทั่วไปจะแปล ... 的評價
- 關於ความยั่งยืน sustainability 在 ความยั่งยืนคืออะไร l Chula Sustainability Fest 2022 EP.0 的評價
- 關於ความยั่งยืน sustainability 在 กรอบแนวคิดและกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน - PTTEP 的評價
- 關於ความยั่งยืน sustainability 在 ความยั่งยืน 的評價
- 關於ความยั่งยืน sustainability 在 การพัฒนาที่ยั่งยืน 的評價
- 關於ความยั่งยืน sustainability 在 กรอบการดำเนินงานด้านความยั่งยืนทางธุรกิจในระดับสากล โดย GC 的評價
ความยั่งยืน sustainability 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
THE SUSTAINABLE BRAND
กลุ่มธุรกิจ TCP กับแนวคิด ความยั่งยืน
“ถ้าประเทศกลับมาไม่ได้ เราก็ขายของไม่ได้ สุดท้ายเราก็จะอยู่ไม่ได้ เช่นกัน”
นี่คือความคิดของ คุณสราวุฒิ อยู่วิทยา CEO กลุ่มธุรกิจ TCP
ทำให้ในช่วงการระบาดของ COVID-19 บริษัททั้ง 4 ในเครือ TCP
ซึ่งเป็นองค์กรของคนไทยที่ดำเนินธุรกิจครบวงจร ตั้งแต่ผลิต ขาย กระจายสินค้าในประเทศ
จนถึงส่งออกสินค้าไปมากกว่า 170 ประเทศทั่วโลก
ต่างร่วมมือกันช่วยเหลือประเทศ ด้วยศักยภาพกำลังทั้งหมดที่มีอยู่
เพื่อไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่านี้
ส่วนประเด็นต่อมาที่น่าสนใจก็คือกลุ่มธุรกิจ TCP ยังมองต่อว่าหลังการระบาด COVID-19
ตัวเองจะเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเหมือนเดิมอย่างไร
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมกลุ่มธุรกิจ TCP จะต้องให้ความสำคัญมากขนาดนี้
เบื้องหลังเกิดจากอะไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เรื่องนี้คงต้องย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของบริษัทเมื่อ 64 ปีที่แล้ว เมื่อคุณเฉลียว อยู่วิทยา
ผู้ให้กำเนิดแบรนด์กระทิงแดงหรือผู้ก่อตั้งกลุ่มธุรกิจ TCP
ได้นิยามแนวทางการทำธุรกิจว่า “ชีวิตนี้เกิดเป็นคนไทย ต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน”
ที่น่าสนใจก็คือแนวคิดนี้ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น
ทำให้อดีตจนถึงปัจจุบันบริษัทแห่งนี้ก็พัฒนาสังคมหลายรูปแบบ ทั้งการศึกษา สิ่งแวดล้อม
หรือที่คนรุ่นเก่าๆ รู้จักกันดีก็คือโครงการ “อีสานเขียว”
แต่สิ่งที่โดดเด่นจนเป็นนโยบายหลักของบริษัทก็คือการพัฒนาแหล่งน้ำของเมืองไทยให้มีสุขภาพดี
อย่างโครงการที่เราคุ้นเคยได้ยินบ่อยๆ ก็คือ
TCP โอบอุ้มลุ่มน้ำไทย และ TCP Spirit ที่รวบรวมอาสาสมัครหน้าใหม่เพื่อมาดูแลแหล่งน้ำเมืองไทย
ที่ต้องเป็นแหล่งน้ำ ก็เพราะสินค้าที่สร้างรายได้หลักและทำให้บริษัทเติบโตมาได้ถึงทุกวันนี้
ต้องพึ่งพาทรัพยากร “น้ำ” เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต นั่นเอง
โดยเฉพาะสินค้าที่เรารู้จักกันดีก็คือ กระทิงแดง, สปอนเซอร์, แมนซั่ม, โสมพลัส, เพียวริคุ, เรดดี้ และสินค้าน้องใหม่อย่าง ไฮ่!
แล้ว...หากเราถามต่อไปว่าอะไรที่สำคัญที่สุด ที่ทำให้บริษัทมีรายได้มหาศาลและสามารถอยู่ได้อย่าง ยั่งยืน คำตอบคือ “คน”
เพราะวงจรธุรกิจของทุกบริษัทตั้งแต่ต้นทางคือ หาวัตถุดิบ ผลิต จนถึงปลายทางคือ บริโภค
ทุกกระบวนการมีทรัพยากร คน ขับเคลื่อนทั้งหมด
แล้วเมื่อ คน เป็นทุกอย่างของวงจรธุรกิจ การระบาดของ COVID-19 จึงส่งผลกระทบต่อคนทั่วทั้งโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย
แม้กลุ่มธุรกิจ TCP จะได้รับผลกระทบ
แต่ก็ไม่ปลดและลดเงินเดือนพนักงานเกือบ 5,000 คน
พร้อมกับเลือกที่จะเป็นอีกหนึ่งพลังคอยช่วยเหลือประเทศไทยอย่างเต็มกำลัง
เริ่มตั้งแต่ที่ไวรัสร้ายกำลังค่อยๆ เริ่มแพร่ระบาดในประเทศจีน กลุ่มธุรกิจ TCP บริจาคเงินและสิ่งของมูลค่าประมาณ 54 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือเมืองอู่ฮั่นให้หายป่วยและกลับมาแข็งแรงในเร็ววัน เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ COVID-19 ได้ลามมาถึงเมืองไทย กลุ่มธุรกิจ TCP ได้เร่งบริจาคเงิน 50 ล้านบาทให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเปรียบเสมือนนักรบคนสำคัญที่ต้องต่อสู้กับไวรัสตัวร้าย
จากนั้นก็มีการบริจาคหน้ากากผ้า 1 แสนชิ้นและชุด PPE จนถึงตู้ตรวจ COVID-19 และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
พร้อมกับระดมพลังกลุ่มบริษัทในเครือของตัวเอง
เริ่มด้วย บริษัท เดอเบล จำกัด ที่ทำธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคภายในประเทศ
ซึ่งบริษัทนี้จะทำหน้าที่ขนส่งอุปกรณ์การแพทย์และความช่วยเหลือต่างๆ จากคู่ค้าสู่โรงพยาบาลมากกว่า 100 แห่งบนพื้นที่ที่ห่างไกล ใน 40 จังหวัด โดยใช้เวลาในการขนส่งแต่ละครั้งไม่เกิน 2 วัน
ตรงนี้ก็ช่วยทำให้สิ่งของและอาหารที่ขาดแคลนไปถึงมือบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ห่างไกลได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนทุกแบรนด์สินค้าที่อยู่ภายใต้กลุ่มธุรกิจ TCP ที่เรารู้จักกันดี กระทิงแดง, เรดดี้, โสมพลัส, สปอนเซอร์, แมนซั่ม, ไฮ่, เพียวริคุ และซันสแนค ต่างก็มาช่วยทำกิจกรรมการตลาด
ปลุกเร้าส่งต่อพลังใจให้กับคนในประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติ COVID-19 ไปด้วยกัน
ซึ่งต้องบอกว่านี่ไม่ใช่แนวคิดการแจกเงินแล้วก็จบๆ กันไป
แต่เป็นความตั้งใจทำให้ประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์อย่างแท้จริง
ถึงแม้ในวันนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงแต่การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ สังคม ชุมชน กำลังเริ่มขึ้น และต้องการความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน ซึ่งกลุ่มธุรกิจ TCP กำลังเร่งทำโครงการใหม่ด้วยเป้าหมายในการช่วยฟื้นฟูและสร้างสังคมอย่างยั่งยืนต่อไป
ถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่า จากวิธีคิดทำธุรกิจเมื่อ 64 ปีที่แล้ว ของคุณเฉลียวที่ต้องการตอบแทนคุณแผ่นดิน
ใครจะคิดว่าเมื่อผู้ที่มาสานต่อธุรกิจอย่างคุณสราวุฒิ อยู่วิทยา
เขายังเลือกเดินตามรอยความคิดของคุณพ่ออย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เพราะเมื่อทุกครั้งที่ประเทศเกิดปัญหา บริษัทแห่งนี้ก็จะปรากฏตัวทุกครั้ง
ซึ่งคุณสราวุฒิ ก็คงมีความเชื่อว่า
มันคงไม่มีประโยชน์อะไรเลย หากวันนี้ธุรกิจตัวเองจะมีกำไรมหาศาลในขณะที่เศรษฐกิจไทยมีปัญหา
เพราะ...ฉากสุดท้ายหากประเทศ “ไม่ยั่งยืน” ธุรกิจของตัวเองก็จะไม่มีลมหายใจด้วยเช่นกัน
References
-https://www.tcp.com/th/sustainability/
-https://www.youtube.com/watch?v=AnN5_jFMM68
-ข่าวประชาสัมพันธ์ TCP
ความยั่งยืน sustainability 在 พ่อบ้านเยอรมัน Facebook 的最讚貼文
อีกมาตรการทางด้านสิ่งแวดล้อมที่เด็ดขาดและสำคัญของสหภาพยุโรปในการลดปริมาณพลาสติก ที่จะส่งผลไม่น้อยต่อภาคธุรกิจและพฤติกรรมของผู้บริโภคในระยะยาว
ว่าแล้วเราไปดูรายละเอียดกันดูเลยดีกว่าครับ
#พ่อบ้านเยอรมัน #เยอรมัน #เยอรมนี #Germany #German #CSR #ความยั่งยืน #sustainability #SD
ความยั่งยืน sustainability 在 ความยั่งยืนคืออะไร l Chula Sustainability Fest 2022 EP.0 的推薦與評價

บรรยากาศงาน Chula Sustainability Fest 2022 เป็นการร่วมมือจากหลายภาคส่วนเพื่อผลักดันให้จุฬาฯ เดินทางไปสู่ Carbon Neutrality ในปี 2040 ... ... <看更多>
ความยั่งยืน sustainability 在 กรอบแนวคิดและกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน - PTTEP 的推薦與評價
การสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืน (Sustainable Value Creation - SVC) มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญในการสร้างคุณค่าในระยะยาวแก่ผู้มีส่วนได้เสีย ผ่านการเป็นองค์กร ... ... <看更多>
ความยั่งยืน sustainability 在 KMUTT - Sustainability แปลว่า ความยั่งยืน? โดยทั่วไปจะแปล ... 的推薦與評價
โดยทั่วไปจะแปลคำว่า Sustainability ว่า ความยั่งยืน หากพิจารณาในความหมายจากรากศัพท์ ซึ่งมาจาก Sustain และ Ability แปลว่า ความสามารถในการดำรงอยู่อย่างยั่งยืน หรือ ... ... <看更多>