รู้จักเรื่องราวของ Kildall ที่เสียโอกาสทองให้ Bill Gates ไปอย่างน่าเสียดาย /โดย ลงทุนแมน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “Microsoft Windows” เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาด ที่มากถึง 83%
นวัตกรรมดังกล่าว กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft อย่าง “Bill Gates” กลายเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐี ที่รวยที่สุดในโลกมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันเขามีทรัพย์สินมากถึง 4.4 ล้านล้านบาท
โดยจุดเริ่มต้นของ Microsoft Windows เกิดจากการที่บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในโลกขณะนั้นอย่าง IBM เริ่มผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือ PC และกำลังตามหาบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบปฏิบัติการ ซึ่ง IBM ก็ได้เลือกทำสัญญากับบริษัท Microsoft ที่ในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งมาได้ 5 ปี
แต่รู้หรือไม่ว่านอกจาก Bill Gates แล้ว ยังมีนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์อัจฉริยะอีกคน ที่เกือบได้เป็นผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ให้กับ IBM และอาจจะกลายมาเป็นแบบ Bill Gates ในทุกวันนี้
แล้วเขาคนนั้น คือใคร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
อัจฉริยะที่เกือบได้เป็น Bill Gates คนนั้น มีชื่อว่า “Gary Kildall”
Kildall เกิดในปี 1942 ที่เมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา
แต่เดิม Kildall ตั้งใจว่าเมื่อเรียนจบมาจะเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ แต่ระหว่างเรียนระดับปริญญาตรีเขาเริ่มสนใจเรื่องเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ Kildall จึงเรียนต่อจนถึงระดับปริญญาเอกในสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
ในปี 1971 ช่วงที่ Kildall กำลังเรียนปริญญาเอก เขาได้ยินมาว่า Intel จะเปิดตัว ไมโครโพรเซสเซอร์ตัวแรกของโลกที่ชื่อว่า “Intel 4004”
ไมโครโพรเซสเซอร์ ก็คือชิปขนาดเล็กที่มีแผงวงจรรวมจำนวนมหาศาล
ซึ่งนวัตกรรมนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่เดิมมีขนาดใหญ่ นิยมใช้กันแต่ในองค์กร มีขนาดเล็กลง จนเป็นไมโครคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในเวลาต่อมา
ด้วยความที่ Kildall สนใจเรื่องราวของไมโครโพรเซสเซอร์เป็นอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจเข้าไปทำงานพาร์ตไทม์เป็นที่ปรึกษาให้กับ Intel ซึ่งหลัก ๆ แล้ว Kildall จะพัฒนาและเขียนโปรแกรมที่ใช้งานร่วมกับไมโครโพรเซสเซอร์ของ Intel ได้
จากจุดเริ่มต้นนี้ Kildall ก็ได้ต่อยอดจนสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์
ที่ชื่อว่า “CP/M” ที่นับว่าเป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์แรกของโลก
โดยก่อนหน้าที่จะมี CP/M คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องบนโลกจะต้องใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาของใครของมัน แต่ Kildall ได้พัฒนา CP/M ให้เป็นระบบปฏิบัติการกลาง ซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง
แรงผลักดันในการพัฒนา CP/M และผลงานอื่น ๆ ของ Kildall เกิดขึ้นจากความหลงใหลในคอมพิวเตอร์
เพราะจริง ๆ แล้ว Kildall ไม่เคยสนใจเรื่องธุรกิจเลย แต่ภรรยาของเขาก็ได้โน้มน้าวให้จัดตั้งบริษัทเพื่อจดสิทธิบัตรระบบปฏิบัติการและทำธุรกิจจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ ทั้งคู่เลยร่วมกันก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า “Digital Research”
ลูกค้าที่เลือกใช้ CP/M ของ Digital Research ก็เช่น IMSAI 8080 ไมโครคอมพิวเตอร์ชื่อดัง ที่เปิดตัวในปี 1975 ซึ่งทำออกมาแข่งกับไมโครคอมพิวเตอร์รุ่นตำนานอย่าง Altair 8800 ของบริษัท MITS
โดย Altair 8800 ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านั้น 1 ปี ยังใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาใช้เฉพาะรุ่น ชื่อว่า BASIC ซึ่งซอฟต์แวร์นี้เองก็เป็นผลิตภัณฑ์แรก ๆ ของบริษัทซอฟต์แวร์น้องใหม่ที่ก่อตั้งโดยชายวัย 20 ปี ที่ชื่อว่า “Bill Gates” ซึ่งเขาได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแล้วชวนเพื่อนมาตั้งบริษัท “Microsoft”
มาถึงในปี 1976 บริษัท Apple ก็ได้ปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ด้วยการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นแรก ๆ ของโลกที่ชื่อว่า Apple I ก่อนที่ในปีถัดมาจะประสบความสำเร็จจาก Apple II ซึ่งบริษัท Apple เรียกว่าเป็น Home Computer ที่คนทั่วไปใช้งานได้ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมเมอร์
นั่นเลยทำให้ Apple II ได้รับความนิยมสูงมากและสามารถลบคำสบประมาทที่คนมักเถียงกันว่าคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับคนที่คลั่งไคล้ในคอมพิวเตอร์เท่านั้น คนทั่วไปคงไม่สนใจซื้อมาใช้งาน
ความสำเร็จของ Apple ก็ทำให้บริษัทเทคโนโลยีอันดับหนึ่งของโลกในขณะนั้นอย่าง IBM อยากเข้ามาร่วมในตลาดคอมพิวเตอร์สำหรับคนทั่วไปบ้าง
ในปี 1980 IBM จึงได้เริ่มออกแบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเรียกว่า Personal Computer หรือ PC แทน Home Computer แบบ Apple เพราะ IBM ไม่ได้มองว่าคอมพิวเตอร์จะต้องใช้แค่ที่บ้าน แต่จะถูกใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่านั้น อย่างเช่นการนำไปใช้งานตามออฟฟิศ
IBM ต้องการทำให้ PC เริ่มวางขายได้เร็วที่สุด IBM จึงโฟกัสที่การออกแบบฮาร์ดแวร์โดยใช้ชิปของ Intel ส่วนซอฟต์แวร์อย่างระบบปฏิบัติการ ทางบริษัทจะจ้างบริษัทขนาดเล็กพัฒนาแทน โดยหนึ่งในบริษัทที่ IBM ติดต่อไปก็คือ Microsoft ซึ่งในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งมาได้เพียง 5 ปี
IBM เดินทางไปที่ออฟฟิศของ Microsoft ซึ่งเมื่อไปถึง IBM ได้ให้ Gates เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูล เพราะ IBM ต้องการเก็บเรื่องที่กำลังพัฒนา PC ไว้เป็นความลับ
หลังจากนั้น IBM ก็ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ Gates ฟัง
แต่โชคร้ายที่ตอนนั้น Microsoft ยังไม่ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
Gates จึงได้แนะนำกับ IBM ว่าให้ไปหา Kildall แห่งบริษัท Digital Research ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ไว้แล้ว IBM ตัดสินใจเดินทางไปพบ Kildall ที่ซีแอตเทิลทันที
Gates โทรไปบอก Kildall ว่าจะมีคนสำคัญมากไปพบ ให้ปฏิบัติกับพวกเขาดี ๆ
แต่ Gates เล่ารายละเอียดให้ฟังไม่ได้เพราะติดสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลกับ IBM
Kildall ไม่รู้เลยว่ากลุ่มคนที่กำลังมาพบเขา จะมาจากบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในโลก
ซึ่งเขากลับคิดว่าคนที่ Gates เล่าถึงจะเป็นเพียงกลุ่มคนที่มาจากบริษัทขนาดเล็ก
เขาจึงไม่ได้สนใจมากนักและเขาก็ได้ขับเครื่องบินส่วนตัวไปอีกเมือง ซึ่งจนถึงตอนนี้ ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าเขาไปขับเครื่องบินเล่นเพื่อหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือไปติดต่องานทางธุรกิจกันแน่
นั่นจึงทำให้เมื่อ IBM ไปถึงออฟฟิศบริษัท Digital Research ทีมงานจึงได้เจอแต่เพียงภรรยาของ Kildall ซึ่งก่อนที่ทีมงานจาก IBM จะแนะนำตัวและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการให้ฟัง
ทาง IBM ก็ได้ขอให้ภรรยาของ Kildall เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลก่อนเหมือนกับที่ให้ Gates เซ็น แต่ภรรยาของ Kildall ยังไม่ยอมเซ็นสัญญา
ซึ่งสาเหตุที่เธอไม่ได้เซ็นก็เพราะว่าเธอรู้สึกเหมือนโดนบังคับ
รวมถึงเธอก็อยากรอ Kildall กลับมาพูดคุยเองมากกว่า
ส่วนทาง IBM ก็เริ่มหัวเสียที่เธอไม่ยอมเซ็นสัญญา ทีมงานจาก IBM ก็รอต่อไปไม่ไหว
สุดท้ายแล้ว IBM จึงเดินทางกลับไปโดยยังไม่ทันได้เล่ารายละเอียดเรื่องระบบปฏิบัติการให้ฟัง..
หลังจากนั้น IBM เลยติดต่อไปหา Gates อีกครั้ง
Gates เห็นว่าโปรเจกต์ PC ของ IBM กำลังจะเปลี่ยนตลาดคอมพิวเตอร์ทั่วโลกครั้งใหญ่ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ของเราให้มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นแบบก้าวกระโดด
Gates เลยบอก IBM ไปว่า Microsoft สามารถทำระบบปฏิบัติการให้ได้
ทั้งที่ความจริงแล้ว ในตอนนั้น Microsoft ยังไม่มีอะไรเลย
ทางออกเดียวที่ Microsoft จะมีระบบปฏิบัติการไปเสนอให้ IBM ได้ทันเวลาก็คือ การควานหาผู้ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการไว้แล้วและไปซื้อต่อมา
Microsoft ไปเจอว่ามีโปรแกรมเมอร์ที่ชื่อว่า Tim Paterson ซึ่งทำงานในบริษัทเล็ก ๆ ที่ชื่อ Seattle Computer ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการที่ชื่อว่า Q-DOS
หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft จึงเดินทางไปพบ Paterson เพื่อเจรจาขอซื้อ Q-DOS และดึงตัว Paterson มาเพื่อดัดแปลง Q-DOS ให้เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เพื่อขายให้ IBM
โดยใช้ชื่อว่า “MS-DOS” โดยที่ Microsoft ไม่รู้ว่า Q-DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ Paterson เลียนแบบและดัดแปลงมาจาก CP/M ของ Kildall
IBM ตกลงซื้อ MS-DOS ของ Microsoft แต่แทนที่ Microsoft จะขายระบบปฏิบัติการแบบครั้งเดียวจบ Gates เสนอกับทาง IBM ว่าให้ Microsoft ได้รับส่วนแบ่งจากทุกเครื่อง PC ที่ทาง IBM ขายได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ Gates เคยใช้มาแล้วตอนเขียนซอฟต์แวร์ให้ไมโครคอมพิวเตอร์ Altair 8800
ความนิยมของ PC จาก IBM ก็เป็นไปตามที่ Gates คาด เพราะหลังจากที่ “IBM PC” เปิดตัวในเดือนสิงหาคม ปี 1981 ผ่านไป 2 ปีแรก IBM PC สามารถขายได้กว่า 2 ล้านเครื่อง เกินกว่าที่คาดการณ์เอาไว้เกือบ 10 เท่า
และด้วยความที่ IBM PC มีราคา คิดเป็นเพียง 2 ใน 3 ของ Apple จึงทำให้อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกนำไปใช้กันทั่วไปในสำนักงาน จน IBM สามารถเอาชนะ Apple และกลายมาเป็นผู้ผลิต PC ที่ใหญ่สุดในโลกได้
แต่จุดอ่อนของ IBM PC ก็คือตัวเครื่องไม่มีอะไรซับซ้อนและเลียนแบบได้ง่าย
จึงทำให้ในเวลาต่อมา แบรนด์อื่นอย่างเช่น Compaq และ HP ซึ่งก็เป็นผู้พัฒนาคอมพิวเตอร์เหมือนกันสามารถทำตามได้ ในขณะที่เจ้าของซอฟต์แวร์อย่าง Microsoft ก็ไม่เคยตกลงว่าจะขายระบบปฏิบัติการให้ IBM เจ้าเดียว..
Microsoft เลยสามารถขาย MS-DOS ให้กับคู่แข่งของ IBM ได้ทั้งหมด
ซึ่ง Microsoft ก็ยังใช้วิธีเดิมคือคิดส่วนแบ่งจาก PC ทุกเครื่องที่ขายได้
แต่สุดท้ายแล้ว ของเลียนแบบก็คือของเลียนแบบ
เพราะในภายหลัง MS-DOS ที่ดัดแปลงมาจาก Q-DOS ถูกพบว่าเป็นของที่เลียนแบบมาจาก CP/M ของ Kildall
พอ Kildall รู้ เลยจะฟ้องร้อง IBM และ Microsoft ว่าลอกเลียนแบบผลงาน
IBM ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เลยยอมวางขายระบบปฏิบัติการทั้ง 2 ยี่ห้อไปพร้อมกัน Kildall ดีใจได้เพียงไม่นาน ก็ต้องพบว่าราคาขาย CP/M ของเขา แพงกว่า MS-DOS ถึง 6 เท่า
ของคล้ายกันที่ใช้ทดแทนกันได้ แต่มีราคาต่างกันถึง 6 เท่า แถมคนส่วนใหญ่ได้รู้จักและลองใช้ MS-DOS มาก่อนจึงเริ่มคุ้นเคยและไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็นที่ต้องลองอีกยี่ห้อหนึ่ง สุดท้ายแล้ว CP/M จึงหายไปจากตลาด
Microsoft จึงกลายเป็นผู้ชนะไป ซึ่งในเวลาต่อมา MS-DOS ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “Microsoft Windows” ที่ได้เปิดตัวในปี 1983 ก่อนที่จะเริ่มวางขายจริงในปี 1985
หลังจากพลาดโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตของ Kildall เขาได้หย่ากับภรรยา และใช้ชีวิตอยู่กับความสิ้นหวัง จนท้ายที่สุด เขาก็ได้จบลงที่กลายเป็นคนติดแอลกอฮอล์ตั้งแต่นั้นมา
ส่วนบริษัท Digital Research ก็ถูกขายให้กับบริษัท Novell ในปี 1991
จนกระทั่งในปี 1994 Kildall ในวัย 52 ปี ก็เสียชีวิตลง จากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในบาร์ ซึ่งเป็นเวลาเพียง 1 ปีก่อนที่ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows 95 จะเปิดตัวและดังระเบิดไปทั่วโลก
ซึ่งก็น่าคิดเหมือนกันว่าหากวันนั้น Kildall ใส่ใจในสิ่งที่ Bill Gates พูดสักนิด
เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ จะมีเส้นทางที่ต่างจากเดิมมากแค่ไหน
Kildall อาจกลายเป็นมหาเศรษฐีคล้าย Bill Gates
Bill Gates อาจจะไม่ได้โปรเจกต์นั้น และ Windows คงไม่เกิดขึ้น
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
เส้นทางที่เป็นไปแล้วก็คือ ทุกคนรู้จัก Windows และไม่รู้จัก CP/M..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2004-10-24/the-man-who-could-have-been-bill-gates
-https://www.forbes.com/forbes/1997/0707/6001336a.html?sh=65404ead140e
-https://www.theguardian.com/technology/blog/2004/oct/16/themanwhocou
-https://www.embedded.com/was-dos-copied-from-cp-m/
-https://medium.com/@Harasees_Singh/gary-kildall-the-inventor-of-operating-system-ccae7bb50e46
-https://bookjelly.com/the-tragic-story-of-gary-kildall/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Gary_Kildall
同時也有74部Youtube影片,追蹤數超過0的網紅CarDebuts,也在其Youtube影片中提到,มาสด้าแถลงความสำเร็จการดำเนินธุรกิจ ประจำปีงบประมาณ 2563 ซึ่งสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ด้วยตัวเลขยอดขายรถยนต์ใหม่ ทะลุ 4 หมื่นคัน ขยายตัวลดล...
คาด 在 Facebook 的最讚貼文
กรุงเทพคงต้องเหนื่อยแน่!!!!!!
คาด 在 Facebook 的精選貼文
คาด 在 CarDebuts Youtube 的最讚貼文
มาสด้าแถลงความสำเร็จการดำเนินธุรกิจ ประจำปีงบประมาณ 2563 ซึ่งสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ด้วยตัวเลขยอดขายรถยนต์ใหม่ ทะลุ 4 หมื่นคัน ขยายตัวลดลง 23% ครองส่วนแบ่งการตลาด 5.1% ในขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์ ลดลง 17% ด้วยตัวเลขยอดขายรวมทั้งสิ้น 786,877 คัน โดยทั้งรถเก๋ง และรถอเนกประสงค์ ต่างเก็บยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะ Mazda2 และ CX-30 ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างล้นหลาม ซึ่งแม้ว่าจำนวนยอดขายรวมรถยนต์มาสด้า จะลดลง แต่มาสด้า ประเทศไทย ก็ยังคงเป็น 1 ใน 10 ของประเทศที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุด ของมาสด้าทั่วโลก พร้อมประกาศเดินหน้าท้าโควิด ด้วยการตั้งเป้ายอดขาย สูงถึง 52,000 คัน ชิงส่วนแบ่งการตลาด 6.2% หรือเติบโตเพิ่มขึ้น ถึง 30%
สรุปยอดขายรถยนต์มาสด้า ประจำปีงบประมาณ 2563 อยู่ที่ 40,004 คัน แบ่งออกเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ด้วยจำนวนที่สูงถึง 23,548 คัน โดยเฉพาะมาสด้า2 ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง ด้วยยอดขายเกินกว่าครึ่ง มีจำนวนสูงถึง 20,741 คัน ตามมาด้วยรถเก๋งมาสด้า3 อีกจำนวน 2,800 คัน ในขณะที่รถปิกอัพ บีที-50 มียอดขายที่ 2,471 คัน ส่วนรถยนต์อเนกประสงค์ตระกูล CX-Series จำนวน 13,985 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นมากที่สุด ถึง 134% อันได้แก่ CX-30 มียอดขายสูงสุดถึง 7,582 คันตามมาด้วย CX-3 จำนวน 3,100 คัน CX-8 จำนวน 1,917 คัน CX-5 จำนวน 1,386 คัน และสุดท้าย MX-5 รถสปอร์ตเปิดประทุน มียอดขายรวมอีก 7 คัน
สำหรับสถานการณ์ตลาดรถยนต์ ในไตรมาสแรกของปี 2564 แม้จะมีหลายปัจจัย ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในภาพรวม โดยเฉพาะจากการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจปีนี้ ชะลอตัวลง แต่รถยนต์มาสด้า ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า อันเนื่องมาจากแผนกลยุทธ์ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด การนำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค และการยกระดับมาตรฐาน การให้บริการหลังการขาย ที่ล้วนทำให้ได้รับความเชื่อมั่น จากทั้งลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่ จึงทำให้มาสด้า สามารถปิดยอดขายในไตรมาสแรก ได้สูงถึง 10,890 คัน เพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสแรกของปีก่อน ซึ่งมียอดขายรวม ที่ 10,152 คัน
มาสด้า2 ยังคงได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยจำนวน 5,686 คัน, มาสด้า3 จำนวน 704 คัน ตามมาด้วยรถปิกอัพ บีที-50 มียอดขายรวม 429 คัน ส่วนรถอเนกประสงค์ตระกูล CX-Series มียอดรวมทั้งสิ้น 4,071 คัน เพิ่มขึ้นสูงถึง 126% นำโด่งโดย CX-30 จำนวน 2,298 คัน ตามมาด้วย CX-3 จำนวน 1,189 คัน CX-8 มียอดขายสูงถึง 354 คัน และ CX-5 จำนวน 230 คัน ตามลำดับ
มาสด้าจะยังคงนำเสนอผลิตภัณฑ์ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีทันสมัย ภายใต้กลยุทธ์ “Product and Technology Value Enhancement” เพื่อสร้างความแตกต่างในตลาด และนำเสนอแต่สิ่งที่ดีให้แก่ลูกค้า และเมื่อเร็วๆนี้ มาสด้าได้รับการอนุมัติ การส่งเสริมการลงทุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (xEV) จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ HEV, PHEV และ BEV เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงได้เตรียมพร้อม เพื่อจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย ตามนโยบายภาครัฐ ซึ่งการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย จะเป็นไปทีละขั้นตอน จากวิสัยทัศน์ Mazda Building Block Strategy ซึ่งมี 3 องค์ประกอบคือ
1. กรอบเวลาของการนำเอาเทคโนโลยี มาใช้ได้อย่างเหมาะสมตามสถานการณ์
2. การพัฒนาโมเดลทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
3. การเปลี่ยนถ่ายจากเทคโนโลยีปัจจุบัน สู่เทคโนโลยีอนาคต ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
ในปัจจุบัน Mazda มีรถยนต์ไฟฟ้าในไลน์อัพ ที่มีจำหน่ายไปแล้วในหลายประเทศ คือ MX-30 ที่มีทั้งรุ่นไฟฟ้า 100% และรุ่นไฮบริด นั่นทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่า เราจะได้เห็นการทำตลาด MX-30 ที่เมืองไทยในอนาคตอันใกล้ด้วยเช่นกัน ติดตามช่องของเราทาง Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/CarDebuts-891205251089964
หรือเว็บไซต์ https://cardebuts.com/

คาด 在 DroidSans Youtube 的最讚貼文
อัปเดตวงการไอทีรอบโลก #หิวข่าว ep.73 ประจำวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563
:
อัปเดตข่าวสารฝั่งไอที ประจำสัปดาห์กับพี่ภัทร ที่เก่า เวลาเดิม เล่าให้ฟังครบทุกเหตการณ์ใน 7 วันที่ผ่านมา และ ถ้ายังไม่จุใจสามารถกดกดอ่านข่าวทั้งหมด และ ข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็บ drodisans.com เลยครับผม ข่าวแน่นๆ มีให้อ่านทุกวัน
แต่ถ้าใครอ่านไม่ทัน ก็มาเจอกันได้ที่นี่ กับ หิวข่าว ทุกวันเสาร์น้าาา~~
.
00:00 หิวข่าวมาแล้วว
01:18 Google เปิดตัววิดเจ็ตสำหรับ iPhone บน iOS 14
02:04 Google Chrome เพิ่มระยะเวลาสนับสนุนการใช้งานบน Windows 7
03:05 Microsoft อาจทำให้ระบบ Windows 10 สามารถใช้งานแอปจาก Android ได้
03:57 Apple เผยคอมพิวเตอร์ Mac รุ่นชิป M1 สามารถรันระบบ Windows ได้
05:13 ผู้ใช้งาน iPhone 12 Series บางเครื่องพบปัญหาหน้าจออมเขียว
05:57 Apple ปล่อยอัปเดต iOS 14.2.1 แก้ปัญหาพที่พบใน iPhone 12 ทุกรุ่น
06:23 ยุติคดี Apple ยอมจ่าย 113 ล้านเหรียญ กรณี iPhone แบตเสื่อมแล้วทำงานช้า
07:38 Facebook จ่ายค่าปรับกว่า 180 ล้านบาทให้เกาหลีใต้
09:09 หน้าจอม้วนของ OPPO X 2021 ผลิตโดย BOE ไม่ใช่ Samsung
09:49 OPPO เผย ยังไม่มีแผนจะวางขายมือถือจอม้วน OPPO X 2021 ในเร็วๆ นี้
10:25 เผยภาพเรนเดอร์มือถือซีรีส์เรือธง OnePlus 9 Pro
11:23 OnePlus ยืนยัน Nord N100 จะมาพร้อมกับจอรีเฟรชเรท 90Hz
12:00 Galaxy Z Fold 3 มาแน่มิถุนายนปีหน้า รองรับ S-Pen ส่วนซีรีส์ Galaxy Note จะไม่มีอีกต่อไปแล้ว
12:35 Galaxy Z Fold 3 อาจเป็นมือถือรุ่นแรกของ Samsung ที่จะมากับกล้องเซลฟี่ใต้จอ
12:52 Galaxy Xcover 5 มือถือสุดแกร่ง รองรับ 5G คาดพร้อมเปิดตัวปีหน้า
13:52 เปิดตัว Galaxy A02s and Galaxy A12 มือถือสุดคุ้ม ราคาเริ่มต้นราว 5,400 บาท
14:52 มือถือจอพับภาคต่อ HUAWEI Mate X2 คาดเปลี่ยนมาใช้ดีไซน์พับจอเข้าด้านใน
15:55 คาด Huawei P50 Series ใช้ชิป Kirin 9000 และจอ OLED จาก Samsung/LG
17:24 Huawei ยืนยัน HarmonyOS มาให้ทดลองใช้งานแน่ๆ 16 ธ.ค. นี้
18:05 เปิดตัว Redmi Note 9 5G และ Redmi Note 9 Pro 5G
20:38 Xiaomi เผยผลประกอบการ รายรับและกำไรเติบโตเป็นสถิติใหม่ของบริษัท
21:20 POCO ประกาศแยกตัวออกจาก Xiaomi
22:13 เปิดตัว POCO M3
23:08 Vivo เปิดตัว OriginOS เตรียมอัปเดตให้มือถือกว่า 30 รุ่น
24:28 Sony เตรียมนำมือถือซีรีส์ Xperia Compact กลับมาในปี 2021
25:26 เปิดตัว moto e7 ราคาประหยัด ค่าตัวประมาณ 4,490 บาท
26:13 ผลทดสอบ MediaTek MT6893 ทำคะแนนแรงสูสีกับ Snapdragon 865
27:20 realme 7 5G เปิดตัวในไทยแล้ว ราคา 9,999 บาท
28:13 เปิดตัว realme Smart TV, ลำโพง Quad Stereo 24W พร้อมระบบ Android TV เตรียมขายในไทยเร็วๆ นี้

คาด 在 MONEY HERO Youtube 的精選貼文
#ข่าวหุ้น #หุ้น
แหล่งข่าว : http://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=WUJSYjltaHVpZUk9&security=CRC
สมัครสมาชิกเพื่อรับการบ้านหุ้นทุกสัปดาห์ https://www.youtube.com/channel/UCQ9GeIRkWhpobJmy4UZqNsg/join
เปิดพอร์ตหุ้นต่างประเทศ http://partners.etoro.com/B12996_A84803_TClick_Smoneyhero.aspx
สมัครเรียน line@ : https://lin.ee/iDPznwt
เปิดพอร์ตหุ้นแบบ online http://bit.ly/stocksMindmap
แอปดูกราฟ https://youtu.be/uFCJ_xR_uwE
สอนดูกราฟหุ้นมือใหม่ https://www.youtube.com/watch?v=2mW1qQwuCOE
สั่งหนังสือเจาะตื้นหุ้น https://serazu.com/web/product/2050
ติดต่องาน email : ubuwall@gmail.com
fanpage FB : อ่านงบการเงินไม่ยาก
