ความมั่นใจคือสิ่งที่ดี เพราะช่วยสร้างให้เกิดความกล้า
กล้าที่จะคิด กล้าที่จะทำ กล้าที่จะเสี่ยง ถึงแม้บางครั้งจะมีคนวิจารณ์ก็ตาม
.
แต่ภายใต้ความมั่นใจนั้น
ควรมาพร้อมกับความสมดุล จากความสามารถในการรับฟังผู้อื่น
.
การมั่นใจในตัวเองเพียงอย่างเดียว อาจกลายเป็นการมองข้ามผู้อื่นได้
หลายครั้งเราเคยได้ยินคนพูดว่า..ฟังฉันก่อน!! ฉันรู้ว่าเธอเป็นยังไง!!
.
พอบทเป็นผู้ฟังก็ฟังแบบ “ก็ฉันฟังอยู่นี่ไง!!” ตกลงเราฟังจริงๆหรือเราฟังเพื่อที่จะรอสวนกลับกันแน่
.
.
เพราะ คนส่วนใหญ่เลือกฟังแต่ความคิดเห็นของตัวเอง ไอ้ที่ว่าฟังคนอื่นก็ฟังแต่สิ่งที่ได้ยินแต่ไม่เคยได้ยินสิ่งที่ซ่อนใต้คำพูดคนๆนั้น เช่น ความกลัวหรือความต้องการที่แท้จริงของเขา
.
นั่นแหละคือสาเหตุ ของความสัมพันธ์ พัง!!
ไม่ว่าจะเป็น...ความสัมพันธ์ในสถานะแบบใด
คู่ครอง คนรัก คนในครอบครัว เพื่อนสนิท หรือเพื่อนร่วมงาน
เพราะทุกความสัมพันธ์ล้วนมี #การสื่อสาร
.
ฉะนั้น
ถ้าเราอยากจะให้ความสัมพันธ์เราไม่พังจง “ฟังให้เป็น” ฟัง..ให้ได้ยินแม้สิ่งที่เขาไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดได้
.
เพราะเราทุกคนสามารถสื่อสาร ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกันได้
.
วันนี้ ครูรวบรวมทุกเครื่องมือการสื่อสาร ที่ใช้แล้วได้ผลจริง
เรียนรู้ได้แล้ววันนี้ ในคลาส...
.
MASTER YOUR COMMUNICATION
สื่อสารให้เป็นที่รัก
คลาสออนไลน์ที่ดีที่สุด
ของ ครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ
.
.
.
.
7.7 Mid Year Sale
คอร์ส Master Your Communication
สื่อสารเพื่อความสำเร็จ
.
พร้อมโบนัส ที่จะทำให้คุณเปิดใจคนที่คุณเจอครั้งแรกและวิธีจัดการ บริหารความขัดแย้งได้
กับ คอร์ส Conflict Management และคอร์ส Bulid Your Perfect Friendship
.
.
พิมพ์ "สนใจ" มาใต้โพสต์นี้ได้เลย
ราคาพิเศษ 11,900 จากราคาเต็ม 30,700 บาท
.
โทร
091-459-3997 , 096-646-6266 , 099-797-9615
ฟังให้เป็น 在 HR - The Next Gen Facebook 的最讚貼文
ปัญหาของคนอื่นนี่แนะนำได้เป็นต่อยหอย แต่ปัญหาของตัวเองทำไมไม่เห็นจะเก่งเหมือนตอนแก้ปัญหาให้คนอื่นเค้าวะ
เป็นแบบนี้เหมือนกันล่ะสิ หึหึหึ เชื่อผมมั้ยว่ามันคือเรื่องปกติ
ความยุติธรรมอย่างนึงของชีวิตคือทุกคนล้วนมีปัญหา ถ้าจะต่างก็ตรงที่ขนาดของปัญหา แต่ผมแนะนำอย่างนึงนะ อย่าไปตัดสินว่าปัญหาใครใหญ่ใครเล็กกว่ากันให้มันไม่สบายใจตัวเองถ้าไม่จำเป็นเลย
แต่รู้ตัวมั้ยว่าปัญหาที่เราเจอ หรือเคยเจอ หลาย ๆ ครั้งมันใหญ่เกินจริง เพราะเราเอาตัวของเราไปอยู่ใกล้ปัญหาเกินไป เหมือนเอาวัตถุอะไรก็ได้มาวางไว้ใกล้ ๆ หน้า นอกจากจะใหญ่เกินจริงแล้วยังจะมัวอีก จนบางทีเรามองไม่ออกด้วยซ้ำว่าของที่อยู่ครองหน้า มันคืออะไรวะ
วิธีการแก้ปัญหาที่ดีอย่างนึงก็คือ ถอยออกมาหน่อย ให้เจอระยะโฟกัสที่เหมาะสม เราน่าจะเห็นปัญหาได้ชัดขึ้น กับขนาดของปัญหาที่มันสมจริงมากขึ้นกว่าเดิม ความทุกข์ที่เกิดขึ้นจากปัญหานั้นมันก็น่าจะลดลง
วิธีนี้ใช้ได้ทั้งปัญหาชีวิต ทั้งปัญหาในการทำงานครับ
แต่นะครับแต่ โลกไม่ได้ใจดีกับเราขนาดนั้น บางปัญหาเราก็ไม่สามารถจะใจเย็นแล้วถอยออกมายืนห่าง ๆ เพื่อหาระยะที่เหมาะสมได้โฟกัสได้ ทางเลือกนึงที่ดีในเมือเราไม่สามารถเอาของที่อยู่ติดกับหน้าของเราออกไปได้ ก็คือการตะโกนถามคนที่อยู่ห่างออกไปว่า อะไรมันติดอยู่ที่หน้าผมครับ แล้วขนาดมันใหญ่หรือมันเล็ก
ถอยห่างไม่ได้ ก็ถามคนที่เค้าอยู่ห่างปัญหานี่แหละครับ เป็นวิธีนึงที่ผมเองก็ใช้บ่อย ๆ
แต่สิ่งที่เราต้องฝึก ถ้าคิดอยากจะให้เค้าช่วยคือ ฟังให้เป็น ฟังอย่างตั้งใจ ถ้าเราเลือกคนที่ขอความช่วยเหลือจากเค้าได้ จงไว้ใจ อย่าดื้อ อย่าด่วนตัดสินใจถ้าสิ่งที่เค้าพูดไม่เหมือนสิ่งที่เราคิด ถ้ามีคำตอบไปแล้วตั้งแต่ต้น แต่อยากให้มีคนย้ำให้อีกทีว่าไม่ได้คิดผิด ก็ต้องฝึกใหม่ว่าอย่าเสียเวลา คิดแล้วทำเลย แต่ถ้าพลาดมาก็ต้องรับผิดชอบกับแผลของตัวเองให้ได้ แบบนี้คูลกว่านะ
อย่างปัญหาที่ว่าหัวหน้าทำไมไม่สนใจเราเลย เราอาจจะมองว่ามันเรื่องใหญ่มาก เพราะเราอยู่ใกล้ปัญหา แต่ถ้าเราถอยออกมาเราอาจจะเห็นชัดขึ้นว่า เอาจริง ๆ หัวหน้ามันก็ไม่ได้สนใจใครมากน้อยไปกว่ากันนี่หว่า แค่วันนี้จังหวะงานที่เค้าโฟกัสไม่ใช่งานที่เราถนัดแค่นั้นเอง
หรือปัญหาที่ทำให้เรารู้สึกแย่กับบริษัทมาก คือคนที่โตได้ไม่ใช่เรา บริษัทเราโตได้ต้องมีเส้นมีสาย ถ้าบริษัทที่เราทำงานอยู่เป็นแบบนั้นจริง ๆ ก็ปล่อยให้เค้าเป็นไป เราต้องไม่ลืมสิว่าบริษัทไม่ได้มีบริษัทเดียวในโลกนะ
ที่สำคัญที่สุดคือ ปัญหามีไว้ให้เราแก้ ไม่ได้มีไว้ให้จมไปกับมัน
สู้หน่อยน่า นะ
#HRTheNextGen
#มนุษย์เงินเดือน #HR2021
ฟังให้เป็น 在 HR - The Next Gen Facebook 的最讚貼文
ปัญหาของคนอื่นนี่แนะนำได้เป็นต่อยหอย แต่ปัญหาของตัวเองทำไมไม่เห็นจะเก่งเหมือนตอนแก้ปัญหาให้คนอื่นเค้าวะ
เป็นแบบนี้เหมือนกันล่ะสิ หึหึหึ เชื่อผมมั้ยว่ามันคือเรื่องปกติ
ความยุติธรรมอย่างนึงของชีวิตคือทุกคนล้วนมีปัญหา ถ้าจะต่างก็ตรงที่ขนาดของปัญหา แต่ผมแนะนำอย่างนึงนะ อย่าไปตัดสินว่าปัญหาใครใหญ่ใครเล็กกว่ากันให้มันไม่สบายใจตัวเองถ้าไม่จำเป็นเลย
แต่รู้ตัวมั้ยว่าปัญหาที่เราเจอ หรือเคยเจอ หลาย ๆ ครั้งมันใหญ่เกินจริง เพราะเราเอาตัวของเราไปอยู่ใกล้ปัญหาเกินไป เหมือนเอาวัตถุอะไรก็ได้มาวางไว้ใกล้ ๆ หน้า นอกจากจะใหญ่เกินจริงแล้วยังจะมัวอีก จนบางทีเรามองไม่ออกด้วยซ้ำว่าของที่อยู่ครองหน้า มันคืออะไรวะ
วิธีการแก้ปัญหาที่ดีอย่างนึงก็คือ ถอยออกมาหน่อย ให้เจอระยะโฟกัสที่เหมาะสม เราน่าจะเห็นปัญหาได้ชัดขึ้น กับขนาดของปัญหาที่มันสมจริงมากขึ้นกว่าเดิม ความทุกข์ที่เกิดขึ้นจากปัญหานั้นมันก็น่าจะลดลง
วิธีนี้ใช้ได้ทั้งปัญหาชีวิต ทั้งปัญหาในการทำงานครับ
แต่นะครับแต่ โลกไม่ได้ใจดีกับเราขนาดนั้น บางปัญหาเราก็ไม่สามารถจะใจเย็นแล้วถอยออกมายืนห่าง ๆ เพื่อหาระยะที่เหมาะสมได้โฟกัสได้ ทางเลือกนึงที่ดีในเมือเราไม่สามารถเอาของที่อยู่ติดกับหน้าของเราออกไปได้ ก็คือการตะโกนถามคนที่อยู่ห่างออกไปว่า อะไรมันติดอยู่ที่หน้าผมครับ แล้วขนาดมันใหญ่หรือมันเล็ก
ถอยห่างไม่ได้ ก็ถามคนที่เค้าอยู่ห่างปัญหานี่แหละครับ เป็นวิธีนึงที่ผมเองก็ใช้บ่อย ๆ
แต่สิ่งที่เราต้องฝึก ถ้าคิดอยากจะให้เค้าช่วยคือ ฟังให้เป็น ฟังอย่างตั้งใจ ถ้าเราเลือกคนที่ขอความช่วยเหลือจากเค้าได้ จงไว้ใจ อย่าดื้อ อย่าด่วนตัดสินใจถ้าสิ่งที่เค้าพูดไม่เหมือนสิ่งที่เราคิด ถ้ามีคำตอบไปแล้วตั้งแต่ต้น แต่อยากให้มีคนย้ำให้อีกทีว่าไม่ได้คิดผิด ก็ต้องฝึกใหม่ว่าอย่าเสียเวลา คิดแล้วทำเลย แต่ถ้าพลาดมาก็ต้องรับผิดชอบกับแผลของตัวเองให้ได้ แบบนี้คูลกว่านะ
อย่างปัญหาที่ว่าหัวหน้าทำไมไม่สนใจเราเลย เราอาจจะมองว่ามันเรื่องใหญ่มาก เพราะเราอยู่ใกล้ปัญหา แต่ถ้าเราถอยออกมาเราอาจจะเห็นชัดขึ้นว่า เอาจริง ๆ หัวหน้ามันก็ไม่ได้สนใจใครมากน้อยไปกว่ากันนี่หว่า แค่วันนี้จังหวะงานที่เค้าโฟกัสไม่ใช่งานที่เราถนัดแค่นั้นเอง
หรือปัญหาที่ทำให้เรารู้สึกแย่กับบริษัทมาก คือคนที่โตได้ไม่ใช่เรา บริษัทเราโตได้ต้องมีเส้นมีสาย ถ้าบริษัทที่เราทำงานอยู่เป็นแบบนั้นจริง ๆ ก็ปล่อยให้เค้าเป็นไป เราต้องไม่ลืมสิว่าบริษัทไม่ได้มีบริษัทเดียวในโลกนะ
ที่สำคัญที่สุดคือ ปัญหามีไว้ให้เราแก้ ไม่ได้มีไว้ให้จมไปกับมัน
สู้หน่อยน่า นะ
#HRTheNextGen
#มนุษย์เงินเดือน #HR2021