มหากาพย์ Carlos ซีอีโอมุดกล่อง เครื่องดนตรี เพื่อหนีออกนอกญี่ปุ่น /โดย ลงทุนแมน
“Carlos Ghosn” อดีต CEO และประธานบริษัทรถยนต์ชั้นนำของโลกอย่าง Renault-Nissan-Mitsubishi ถือเป็นหนึ่งในผู้บริหารที่ถูกจดจำในฐานะฮีโรของอุตสาหกรรมยานยนต์ จากความสามารถในการพลิกบริษัทที่ขาดทุน ให้กลับมาทำกำไรได้ในเวลาไม่นาน
แต่เขาคนเดียวกันนี้ กลับทำให้หลายคนทั่วโลกต้องช็อกถึง 2 ครั้ง
ครั้งแรก เขาโดนทางการญี่ปุ่นจับกุมแบบกะทันหัน
ครั้งที่สอง เขาหลบหนีจากญี่ปุ่นไปปรากฏตัวที่เลบานอน ทั้งที่ถูกคุมตัวอยู่
Ghosn หนีออกจากประเทศญี่ปุ่นไปได้อย่างไร
แล้วเรื่องราวของเขาส่งผลอย่างไรต่อกลุ่มบริษัท Renault-Nissan-Mitsubishi ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
“Carlos Ghosn” เป็นชาวเลบานอน ที่เกิดในประเทศบราซิล เมื่อปี ค.ศ. 1954
(ใครที่อยากทราบว่าทำไม คนเลบานอน อยู่ในบราซิล มากกว่าประเทศตัวเอง ลงทุนแมนเคยเขียนไว้ ลองอ่านได้ที่ลิงก์นี้ https://www.longtunman.com/30813)
ก่อนที่ในเวลาต่อมา เขาจะกลับมาเรียนหนังสือที่ประเทศเลบานอน
และก็เข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยและเริ่มทำงานที่ประเทศฝรั่งเศส
นั่นจึงทำให้ Ghosn ถือ 3 สัญชาติ และมีพาสปอร์ต 3 เล่ม ทั้งเลบานอน บราซิล และฝรั่งเศส
Ghosn เริ่มงานแรกที่ Michelin จนได้ขึ้นมาเป็นระดับผู้บริหาร ก่อนจะถูกชวนไปทำงานที่ Renault แบรนด์รถยนต์ฝรั่งเศส ต่อด้วย Nissan ที่ประเทศญี่ปุ่น จากการที่ Renault เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Nissan
Ghosn ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นนักพลิกฟื้นกิจการ จากที่ขาดทุนจนเกือบล้มละลาย
ให้กลับมามีกำไรได้ในเวลาไม่นาน ด้วยการลดต้นทุน จนได้รับฉายาว่า “Le Cost Killer”
ปี ค.ศ. 1985 เริ่มงาน CEO ที่ Michelin สำนักงานบราซิล ทำให้กลับมามีกำไรได้ภายใน 2 ปี
ปี ค.ศ. 1996 เริ่มงาน CEO ที่ Renault ประเทศฝรั่งเศส ทำให้กลับมามีกำไรได้ภายใน 1 ปี
ปี ค.ศ. 1999 เริ่มงาน CEO ที่ Nissan ประเทศญี่ปุ่น ทำให้กลับมามีกำไรได้ภายใน 1 ปี
นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ผลักดันให้เกิดกลุ่มพันธมิตร Renault-Nissan-Mitsubishi
ปี ค.ศ. 1999 Renault เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 43.4% ใน Nissan และ Nissan ถือหุ้น 15% ใน Renault
ปี ค.ศ. 2016 Nissan เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 34% ใน Mitsubishi
โดยในปี ค.ศ. 2016 ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกของทั้งกลุ่ม Renault-Nissan-Mitsubishi รวมกันอยู่ที่ 9.96 ล้านคัน อยู่ในอันดับที่ 4 ของโลก
แต่ในเวลาเพียงปีเดียว ภายใต้การนำของ Ghosn กลุ่ม Renault-Nissan-Mitsubishi สามารถมียอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10.61 ล้านคัน ไต่อันดับขึ้นมาเป็นที่ 2 ของโลกได้ในปี ค.ศ. 2017
แซงหน้า Toyota และเป็นรองเพียงกลุ่ม Volkswagen เท่านั้น..
ด้วยผลงานที่โดดเด่นมาโดยตลอด Ghosn จึงถูกยกย่องจากทั่วโลกว่าเป็นฮีโรแห่งวงการยานยนต์
จนกระทั่งปีถัดมา
ในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2018 ทันทีที่เครื่องบินส่วนตัวที่เขาโดยสารมา ลงจอดที่สนามบินฮาเนดะประเทศญี่ปุ่น Ghosn โดนเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมแบบไม่ทันตั้งตัว ในข้อหา รายงานรายได้น้อยกว่าความจริง และใช้เงินของบริษัทไปกับเรื่องส่วนตัว
หลังจากนั้น 3 วัน บริษัทก็มีมติปลดเขาออกจากการเป็นประธาน Nissan ทันที
ก่อนที่เขาจะถูกให้ออกจากตำแหน่งใน Mitsubishi และ Renault ในเวลาต่อมา
หลังจากถูกตั้งข้อหา
Ghosn ก็ถูกนำตัวไปที่สถานกักกันโตเกียวและถูกสอบสวน
จนกระทั่งในเดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 2019 หลังจากพยายามขอประกันตัวมา 3 ครั้ง
ศาลก็อนุญาตให้ประกันตัว และให้กลับไปถูกคุมตัวที่บ้านพัก เพื่อรอการพิจารณาคดีที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี ค.ศ. 2020 แต่ในระหว่างนั้น Ghosn ก็ยังต้องถูกเรียกไปสอบสวนอยู่เป็นระยะ
ซึ่ง Ghosn มีเงื่อนไขที่ต้องทำตามหลายข้อ อย่างเช่น ต้องอาศัยอยู่ที่โตเกียว
ต้องติดตั้งกล้องวงจรปิดนอกที่พัก ห้ามใช้อินเทอร์เน็ต รวมถึงห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อและได้ช็อกคนทั่วทั้งโลกก็เกิดขึ้นในวันที่ 1 มกราคม ปี ค.ศ. 2020
Ghosn ที่ควรจะถูกคุมขังอยู่ที่บ้านพักในโตเกียว กลับปรากฏตัวในงานเลี้ยงปีใหม่ที่ “ประเทศเลบานอน”
ทั้งที่มีกล้องวงจรปิดติดรอบบ้าน
ทั้งที่คนญี่ปุ่นทั้งประเทศจำหน้าเขาได้
ทั้งที่พาสปอร์ตทั้ง 3 เล่มอยู่กับทนายความชาวญี่ปุ่นของเขา
Ghosn หนีออกจากญี่ปุ่นไปตอนไหนและเขาทำได้อย่างไร ?
แผนการหลบหนีทั้งหมดนี้ มาจากคำให้การของผู้วางแผนช่วย Ghosn หลบหนี ที่ถูกจับกุม
รวมถึงการให้สัมภาษณ์ของ Ghosn กับทาง BBC เมื่อช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
โดยตัวละครที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดในภารกิจหลบหนีของ Ghosn ได้แก่
“Carole” เป็นภรรยาของ Ghosn
“Ali” เป็นนามแฝงของนักธุรกิจชาวเลบานอน ที่รู้จักกับภรรยาของ Ghosn
“Michael Taylor” เป็นอดีตกองกำลังพิเศษของกองทัพสหรัฐอเมริกา ที่เป็นเพื่อนกับ Ali
ภรรยาของ Ghosn พยายามหาทางช่วยสามี
Ali จึงแนะนำให้ได้เจอกับ Taylor เพื่อวางแผนช่วย Ghosn หลบหนี
Taylor พบว่ากล้องวงจรปิดที่บ้าน Ghosn ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่เฝ้าดูตลอดเวลา
แต่จะถูกบันทึกไว้เพื่อตรวจสอบเพียงสัปดาห์ละครั้ง ทำให้มีช่องโหว่ในการหลบหนี
Taylor จึงเตรียมทีมที่พาหลบหนีอีก 2 คน คือ
Peter Taylor ลูกชายของ Michael Taylor
และชายชาวเลบานอนอีกคนที่ชื่อว่า George Zayek
ทั้ง 3 คนเดินทางถึงสนามบินคันไซ เมืองโอซากะ ในคืนวันที่ 29 ธันวาคม ปี ค.ศ. 2019
หลังจากนั้นก็ได้เช็กอินที่โรงแรมใกล้สนามบินและติดต่อนัดหมาย Ghosn ทางโทรศัพท์
วันรุ่งขึ้น Taylor ผู้พ่อและ Zayek นั่งรถไฟชิงกันเซ็งไปโตเกียวเพื่อเจอกับ Ghosn ที่ห้องหนึ่งในโรงแรมแถวที่พักของ Ghosn ซึ่งเขาเดินจากที่พักมาใช้บริการร้านอาหารของโรงแรมแห่งนี้เป็นประจำอยู่แล้ว จึงทำให้ไม่มีอะไรผิดสังเกต
หลังจากนั้น Ghosn ก็ได้เปลี่ยนชุดและสวมหน้ากากอนามัยเพื่อปิดบังใบหน้า
ต่อมา Taylor กับ Zayek ก็ได้พาเขาขึ้นรถไฟชิงกันเซ็งกลับไปที่โอซากะ
เพื่อไปสมทบกับ Taylor คนลูกที่รออยู่
แผนการต่อไปก็คือ ให้ Ghosn ซ่อนตัวใน “กล่องใส่เครื่องดนตรี” ที่มีลูกล้อติดอยู่
ซึ่ง Ghosn จะเข้าไปอยู่ในกล่อง แทนที่ลำโพงขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักใกล้เคียงกัน
และเหตุผลที่เลือกสนามบินคันไซก็เพราะ Taylor พบจุดอ่อนว่า ที่เทอร์มินัลไม่มีเครื่องสแกนขนาดใหญ่พอสำหรับกล่องเครื่องดนตรี ทำให้กล่องที่ Ghosn ซ่อนอยู่ไม่ต้องถูกสแกน
ส่วนเครื่องบินที่ใช้ Taylor เฟ้นหาบริษัทที่ให้บริการเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว
ที่สามารถให้ความร่วมมือปกปิดข้อมูลการบินได้ จนมาเจอบริษัทของตุรกีที่ชื่อว่า MNG
Taylor และทีมปลอมเป็นนักดนตรี โดยเข็นกล่องใส่ Ghosn ผ่านด่านตรวจโดยไม่ถูกสแกนตามแผน
จากนั้น กล่องที่มีร่างของ Ghosn ก็ถูกนำไปไว้ที่ห้องเก็บของบนเครื่องบิน ซึ่งมีประตูเชื่อมมายังห้องโดยสารได้
เมื่อเครื่องบินบินขึ้นจากสนามบินคันไซ Ghosn ออกจากกล่องมารวมกับทุกคนที่ห้องโดยสาร
แผนการของพวกเขาจากนี้เหลือเพียงไปแวะเปลี่ยนเครื่องที่ตุรกี และเดินทางเข้าเลบานอน
โดยในการเดินทาง Ghosn ใช้พาสปอร์ตฝรั่งเศสเล่มที่ 2 ซึ่งเป็นคนละเล่มกับที่ทนายยึดไว้
แต่ยังไม่มีคำอธิบายว่าทำไมเขาถึงมีพาสปอร์ตเล่มนี้
ซึ่งทางญี่ปุ่นแถลงว่าไม่มีบันทึกการเดินทางออกนอกประเทศของ Ghosn
แต่ทางเลบานอนชี้แจงว่าเขาเข้าเลบานอนอย่างถูกกฎหมายและได้เข้าพบประธานาธิบดีเลบานอนทันที
เมื่อเดินทางไปถึง ซึ่งชาวเลบานอน ต่างก็ยังมองว่าเขาคือฮีโร
Ghosn ถูกตำรวจสากลออกหมายแดง ขณะที่ทางเลบานอนไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับญี่ปุ่น
ทำให้โอกาสที่ Ghosn จะถูกส่งกลับญี่ปุ่นในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนแทบจะไม่มี
การหลบหนีของ Ghosn มีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หรือราว 434 ล้านบาท แลกมากับการได้ใช้ชีวิตอยู่ที่เลบานอน
ถ้าอ่านจนถึงตรงนี้ แล้วคิดว่าทุกอย่างจะจบลงแบบเรียบร้อย มันอาจจะไม่ใช่อย่างนั้น
เพราะบุคคลที่เกี่ยวข้องในการหลบหนีครั้งนี้ ถูกจับกุมกันหลายคนเลยทีเดียว
ผู้บริหารบริษัทเครื่องบินเจ็ต MNG ของตุรกี และนักบิน 2 คนถูกจับกุม
คู่พ่อลูก Taylor โดนออกหมายจับเมื่อปลายเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2021 ก่อนจะถูกส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจากสหรัฐอเมริกาไปญี่ปุ่นในเดือนมีนาคม และทั้งคู่ก็รับสารภาพและถูกตัดสินโทษเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
โดย Taylor คนพ่อถูกตัดสินจำคุก 2 ปี และลูกชายถูกจำคุก 20 เดือน
ส่วน Zayek เพื่อนร่วมทีมอีกคนยังลอยนวล
เมื่อ Taylor คนพ่อถูกถามว่าทำไมถึงยอมช่วย Ghosn
Taylor บอกว่าเขาไม่ได้ทำเพื่อเงิน แต่หลังจากที่เขาได้ฟังเรื่องราวของ Ghosn จากภรรยา และไปสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม เขามองว่าญี่ปุ่นทำกับ Ghosn เหมือนเป็นตัวประกัน ที่ต้องถูกบีบบังคับให้ยอมรับสารภาพ เหมือนกับสมัยที่เขาทำงานเป็นกองกำลังพิเศษ ที่เคยถูกกล่าวหาและบีบคั้นให้สารภาพทั้งที่ไม่มีความผิด
ซึ่งเหตุผลของ Taylor ก็ตรงกับสาเหตุที่ Ghosn ตัดสินใจหลบหนี
หลังจาก Ghosn เดินทางถึงเลบานอนไม่กี่วัน เขาเลือกแถลงข่าวโจมตี Nissan และกระบวนการยุติธรรมของญี่ปุ่น
โดยเขามองว่าถูกรัฐบาลญี่ปุ่นใส่ร้าย เพราะกลัวว่า Renault ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Nissan จะยึดกิจการ Nissan ทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางญี่ปุ่นกลัวว่าบริษัทต่างชาติจะฮุบกิจการของประเทศตัวเองไป
ซึ่ง Ghosn บอกว่าเขาทำทุกอย่างโดยบริษัทรับรู้ มีเอกสารที่เซ็นโดยกรรมการบริษัททั้งหมด ถ้าผิดจริงก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน
นอกจากนี้ ในระหว่างที่ถูกคุมตัว เขาถูกสอบปากคำแบบไม่มีทนาย และจะใช้เวลาสอบสวน 10-20 วัน ต่อ 1 ข้อหา แต่หลังจากนั้นไม่นานก็จะถูกตั้งข้อหาใหม่ทีละข้อหา และเข้าสู่การสอบปากคำอีก 10-20 วัน เป็นแบบนี้วนไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีการดำเนินการทางศาลหรือดำเนินคดีต่อ
Ghosn จึงมองว่าทางการญี่ปุ่นใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเพื่อควบคุมตัวเขาไว้ แต่ไม่ดำเนินคดีอะไร และนี่ก็ทำให้ Taylor มองว่า Ghosn ถูกปฏิบัติเหมือนตัวประกันมากกว่า
และถ้าพิจารณาข้อมูลที่ว่า ศาลญี่ปุ่นมีอัตราการตัดสินว่าผู้ต้องสงสัยมีความผิดจริงสูงถึง 99.4% สูงกว่าของประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งก็ตีความได้ 2 แบบว่า การควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย มีการสืบสวนที่ถูกต้องแม่นยำ หรือเกิดจากการสอบปากคำที่กดดันให้ผู้ต้องสงสัยรับสารภาพ
Ghosn จึงบอกว่า เขามีทางเลือกแค่ 2 ทาง ระหว่างจะยอมตายอยู่ที่ญี่ปุ่น
หรือหนีออกมา ซึ่งเขาไม่ได้หนีกระบวนการยุติธรรม แต่หนีจากความไม่ยุติธรรม
ในส่วนของทางการญี่ปุ่นก็ชี้แจงว่าทาง Nissan เป็นคนส่งเอกสารให้กับเจ้าหน้าที่เอง ซึ่ง Ghosn ทำผิดกฎหมายทางการเงินของญี่ปุ่นจริง และโทษที่ Ghosn จะได้รับสูงสุดอาจเป็นจำคุก 15 ปี
แล้วผลกระทบต่อกลุ่มบริษัท Renault-Nissan-Mitsubishi หลังจาก Ghosn ถูกจับ
ช่วงสิ้นปี ค.ศ. 2018 และออกจากทุกตำแหน่งในบริษัท เป็นอย่างไร ?
ปี ค.ศ. 2016 ยอดขาย 9.96 ล้านคัน เป็นอันดับที่ 4 ของโลก
ปี ค.ศ. 2017 ยอดขาย 10.61 ล้านคัน เป็นอันดับที่ 2 ของโลก
ปี ค.ศ. 2018 ยอดขาย 10.76 ล้านคัน เป็นอันดับที่ 2 ของโลก
ปี ค.ศ. 2019 ยอดขาย 10.16 ล้านคัน เป็นอันดับที่ 3 ของโลก
ปี ค.ศ. 2020 ยอดขาย 7.96 ล้านคัน เป็นอันดับที่ 3 ของโลก
จะเห็นได้ว่ายอดขายรถยนต์ทั่วโลกในปี ค.ศ. 2019 ลดลงและต่อเนื่องมาถึงปี ค.ศ. 2020 ที่แม้ว่าทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์จะมียอดขายลดลงจากผลกระทบของโควิด 19 แต่ยอดขายของ Renault-Nissan-Mitsubishi กลับลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นใน 10 อันดับแรก
ด้านกำไรจากการดำเนินงานในปี ค.ศ. 2019 บริษัท Renault กำไรลดลง 26.3% ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานของ Nissan พลิกเป็นขาดทุนทันที
จนถึงตอนนี้ เรื่องราวคดีความของ Ghosn ยังคงเป็นปริศนา
ที่ต่างฝ่ายต่างพูดในมุมที่ตัวเองเป็นฝ่ายที่ถูกต้อง
แต่เรื่องราวการหลบหนีออกนอกญี่ปุ่นของ Ghosn
ก็เรียกได้ว่าเป็นเรื่องจริง ที่บ้าบิ่น ไม่แพ้ในภาพยนตร์..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-03-29/carlos-ghosn-s-downfall-at-nissan-and-the-aftermath-quicktake
-https://www.bbc.com/news/business-57760993
-https://www.theguardian.com/business/2021/jul/14/ex-nissan-boss-carlos-ghosn-talks-of-daring-escape-from-japan
-https://www.vanityfair.com/news/2020/07/how-carlos-ghosn-escaped-japan
-https://edition.cnn.com/2020/01/08/business/carlos-ghosn-press-conference/index.html
-https://asia.nikkei.com/Business/Nissan-s-Ghosn-crisis/Ghosn-said-to-flee-Japan-hidden-in-musical-instrument-case
-https://english.kyodonews.net/news/2020/01/9223a70dd17b-toyota-ranks-2nd-in-2019-global-auto-sales-overtakes-nissan-renault.html
-https://www.carexpert.com.au/car-news/who-won-the-global-sales-race-in-2020
同時也有11部Youtube影片,追蹤數超過0的網紅CarDebuts,也在其Youtube影片中提到,ยอดขายรถยนต์ รถกระบะปิกอัพ ประเทศออสเตรเลีย เดือนพฤษภาคม 2021 / 2564 Isuzu D-MAX ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 แซง Mitsubishi Triton โดยมี Toyota Hilux Revo และ ...
「ยอดขาย คือ」的推薦目錄:
- 關於ยอดขาย คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於ยอดขาย คือ 在 สมองไหล Facebook 的精選貼文
- 關於ยอดขาย คือ 在 สมองไหล Facebook 的最佳解答
- 關於ยอดขาย คือ 在 CarDebuts Youtube 的最佳解答
- 關於ยอดขาย คือ 在 DroidSans Youtube 的最佳解答
- 關於ยอดขาย คือ 在 วรัทภพ รชตนามวงษ์ WARATTAPOB Youtube 的最佳貼文
- 關於ยอดขาย คือ 在 7 ขั้นตอน เพิ่มยอดขาย 2-10 เท่า ด้วยจำนวนลูกค้าเท่าเดิม - YouTube 的評價
- 關於ยอดขาย คือ 在 การคิดอัตรากำไรจากต้นทุน และยอดขาย - Facebook 的評價
ยอดขาย คือ 在 สมองไหล Facebook 的精選貼文
13 พฤษภาคม 2019 เป็นวันที่ผมเริ่มสร้างเพจสมองไหล แต่มาลงบทความแบบสม่ำเสมอจริงๆ ก็ช่วงเดือนกันยายน เพราะตอนนั้นผมให้ความสำคัญกับใน Blockdit เสียมากกว่า
.
จนปัจจุบันเพจสมองไหลมีอายุประมาณ 2 ปี กับผลลัพธ์ที่ได้คือ การมีผู้ติดตามมากกว่า 500,000 คน รวมทุกช่องทาง และสามารถทำเงินจากเพจได้สูงสุด 5 ล้านบาท ภายใน 1 ปี (เริ่มทำเงินในปีที่ 2) ทั้งจากการขายหนังสือ สปอนเซอร์ พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ และ ด้านการศึกษา
.
ทั้งนี้ผมต้องถือโอกาสขอบคุณแฟนเพจทุกท่าน ที่สนับสนุนผมจนถึงวันนี้ เพราะถ้าไม่มีคุณ ก็ไม่มีผมวันนี้เช่นกัน คุณคือ คนที่ผม “นึกถึง” ก่อน “ลูกค้า” เสมอ...
.
“ถ้าเราทำคอนเทนต์ดี เราก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินยิง Ads แม้แต่บาทเดียว”
.
นี่คือ คำสั้นๆ ที่กลั่นมาจากประสบการณ์ที่ผมได้เรียนรู้มาทั้งหมดจากการทำเพจมาตลอด 2 ปี แล้วในคำสั้นๆ ที่ว่านี้ มันมีอะไรที่คนกำลังเริ่มต้นทำเพจ ทำสื่อ ทำธุรกิจ หรือ ขายออนไลน์ สามารถนำไปปรับใช้ได้บ้าง ผมจะเล่าให้ฟัง…
.
หลายคนเข้าใจว่าการยิง Ads สามารถเพิ่มยอดขายได้ แต่ผมเชื่อว่าหลายคนก็รู้แล้วว่ามันไม่เป็นความจริง
.
การยิง Ads ก็เหมือนการที่เราจ้างคนแจกใบปลิว ไปแจกลูกค้า ยิ่งยิงมากเท่าไหร่ก็เหมือนกับการจ้างหลายคนมากเท่านั้น
.
แต่คำถาม คือ การมีคนแจกเยอะ ช่วยเพิ่มยอดขายจริงๆ หรอ ?
.
คำตอบ คือ “ไม่”
.
เพราะตัวตัดสินว่าลูกค้าจะซื้อของๆ คุณหรือไม่ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “คนแจกใบปลิว” แต่ขึ้นอยู่กับตัวใบปลิว ซึ่งก็คือ “คอนเทนต์” ต่างหาก
.
ถ้าคอนเทนต์ คุณดึงดูดมากพอลูกค้าก็จะเดินมาที่หน้าร้านเพื่อซื้อของคุณจากที่อยู่ในใบปลิวนั้น หรือ ไม่ก็เอาไปส่งต่อให้เพื่อนๆ ดูอีก เปรียบเหมือนการ “แชร์”
.
แต่ถ้าคอนเทนต์ที่คุณทำออกมามันไม่สามารถทำให้ลูกค้าอยากซื้อได้ ต่อให้มีคนแจกใบปลิวมากเท่าไหร่ หรือแจกสักกี่ใบ ลูกค้าก็เอาไปทิ้งถังขยะ ซึ่งเปรียบเหมือนการ “เลื่อนผ่าน” อยู่ดี
.
ฉะนั้น สิ่งที่เราต้องกลับมาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกคือ การทำ “คอนเทนต์” เมื่อทำคอนเทนต์ได้อย่างทรงพลังแล้ว การยิง Ads หรือ การจ้างคนแจกใบปลิวถึงจะใช้ได้ผล
.
.
# แต่ก่อนจะทำคอนเทนต์ เราต้องเข้าใจก่อนว่าคอนเทนต์นั้นมีกี่ประเภท ซึ่งโดยหลักแล้วมันจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
.
1) Topical Content หรือ เรียกง่ายๆ คือ คอนเทนต์ที่ทำออกมาตามกระแสต่างๆ ส่วนใหญ่จะพูดถึงเหตุการณ์ข่าวสารในแต่ละวัน ว่าอะไรที่เขากำลังฮิต อะไรที่คนพูดถึงในช่วงนี้ และต้องลงให้ถูกจังหวะเวลาด้วย คือ ถ้าช้าเพียง 1 ชั่วโมง ก็อาจจะไม่มีประโยชน์แล้ว ซึ่งข้อดีของมันคือเรียก Traffic ได้ดีมาก แต่ข้อเสียของมันคือ มันอยู่ได้ไม่นาน ใช้ได้ครั้งเดียว ผ่านแล้วก็ผ่านไป
.
คนที่ติดตามผมมาตลอดจะรู้ว่าผมไม่ค่อยทำคอนเทนต์ประเภทนี้สักเท่าไหร่ อาจจะมีบ้างบางครั้ง แต่ไม่บ่อย
.
2) Evergreen Content หรือ เรียกง่ายๆ คือ คอนเทนต์แนว ความรู้, ปรัชญา, How to ข้อดีของมันคือมันจะไม่เสื่อมค่าไปตามกาลเวลา แม้จะผ่านไป 1 วัน 1 เดือน 1 ปี ก็ยังสามารถอ่านได้ไม่มีเบื่อ และนำมาใช้ได้จริงในชีวิตเสมอ แต่คอนเทนต์ประเภทนี้ถ้าไปลงในช่วงที่มีกระแสเรื่องอื่นอยู่ อาจจะไม่ได้รับความสนใจมากนัก และทำยากกว่าแบบเเรกมาก
.
ซึ่งผมจะทำคอนเทนต์ประเภทนี้เป็นหลัก
.
3) Value Content หรือ คอนเทนต์แบบเน้นคุณค่า นี่คือ สุดยอดคอนเทนต์เลยก็ว่าได้ เพราะมันคือการนำ 2 ข้อแรกมาผสมผสานกัน จึงทำให้คอนเทนต์แบบนี้สามารถเรียกได้ทั้งกระแส และ มีการสอดเเทรกความรู้ลงไปด้วยไม่ให้เสื่อมค่าตามการเวลา ทำให้คอนเทนต์มีความสมบูรณ์แบบและเป็นอมตะ แต่ประเด็นคือ มันทำโคตรยาก เพราะต้องทำให้มันทั้งมีคุณค่าและถูกที่ถูกเวลาด้วย แต่ถ้าทำได้ บอกเลยว่าผลของมันคุ้มค่ามากๆ
.
ซึ่งผมเคยทำคอนเทนต์แบบนี้ได้ประมาณ 10 ครั้ง ตลอด 2 ปี เช่น คอนเทนต์เรื่อง ทิลลี่ สมิธ ช่วยคนชาวจังหวัดไม้ขาวให้รอดชีวิตจากสึนามิ และ เผยแพร่ในวันรำลึกสึนามิพอดี ซึ่งผลลัพธ์ของมันคือ บทความนี้ได้ถูกหยิบยกไปในรายการข่าวใส่ไข่ ทางช่องไทยรัฐทีวี
.
ส่วนอีกเรื่องคือ บทความ ประวัติศาสตร์โรคระบาดร้ายแรง ที่จะเกิดขึ้นทุกๆ 100 ปี เผยแพร่ในช่วงไวรัส covid-19 ระบาดแรกๆ ซึ่งผลของมันคือ คุณหนุ่มกรรชัย เชิญผมไปออกรายการโหนกระแส ทางช่อง 3 จากบทความนี้
.
รวมทั้งบทความอื่นๆ อย่าง คนขับรถของลีกาซิง, โรงงานผลิตยาสีฟัน, เด็กอเมริกันจะหยุดเรียน 2 ปี เพื่อค้นหาตัวเองก่อนเข้ามหาลัย, จุดประสงค์ที่แท้จริงของเทศกาล 11.11 ของอาลีบาบา และธนบัตรญี่ปุ่น ที่มีผู้แชร์มากกว่า 20,000 ครั้ง ซึ่งส่งผลให้ยอดการติดตามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 3,000 เป็น 150,000 คนภายใน 4 เดือน
.
# ทำคอนเทนต์เพื่อให้คน "กดแชร์" มากกว่าแค่ "กดไลค์"
.
เป้าหมายในการทำคอนเทนต์ของผม คือ การทำให้คนแชร์มากกว่าคนกดไลค์ และเเน่นอนว่าการทำให้คนแชร์นั้นยากกว่ายอดกดไลค์อยู่แล้ว เพราะผมเชื่อเสมอว่า การที่คนยอมกดแชร์คอนเทนต์เราออกไปหมายความว่า เขาอยากจะบอกต่อคอนเทนต์นั้น ซึ่งสำหรับผมมันมีคุณค่ามากกว่าการที่เขาแค่กดไลค์หรือชอบมันเพียงคนเดียว
.
แต่ก่อนที่เราจะทำคอนเทนต์ให้คนแชร์ได้ เราต้องรู้เหตุผลที่ทำให้คนแชร์คอนเทนต์ของเราก่อน ซึ่งหลักๆ มันมีอยู่ 5 อย่าง คือ
.
1) ภาพลักษณ์ทางสังคม การที่เขาแชร์อะไร หน้าฟีตของเขา มันต้องทำให้เขามีภาพลักษณ์ดีขึ้น เพราะคงไม่มีใครอยากแชร์อะไรที่ทำให้คนอื่นมองตัวเองไม่ดีอยู่แล้ว
.
2) ตัวกระตุ้น คือ บทความที่ช่วยกระตุ้นให้เขาได้ฉุกคิดหรือลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างได้ ซึ่งมันคือ คอนเทนต์สั้นๆ ที่ผมลงทุกเช้า ให้คุณได้อ่านก่อนออกไปทำงาน เพื่อช่วยกระตุ้นและให้กำลังใจคุณ ซึ่งคนมักจะแชร์เสมอ
.
3) อารมณ์ความรู้สึก คือ อ่านแล้วเกิดอารมณ์ร่วม ส่วนใหญ่เป็นบทความแนวเรื่องเล่า
.
4) ความมีประโยชน์ อันนี้ชัดเจน ถ้ามีประโยชน์ใครๆ ก็อยากแชร์ไว้ให้ตัวเองอ่านซ้ำๆ หรือ อยากส่งต่อมันให้คนอื่น
.
5) เป็นเรื่องเล่า เพราะธรรมชาติของคนชอบเรื่องเล่ามากที่สุด และสิ่งที่คนจดจำได้ดีที่สุดคือเรื่องเล่า และเรื่องเล่าเป็นสิ่งที่คนชอบนำไปเล่าต่อ
.
ผมใช้หลักการนี้ในการทำคอนเทนต์เสมอ นั่นจึงทำให้ถึงแม้บางคอนเทนต์จะเป็นโฆษณา แต่คนก็ยังอยากจะแชร์มันอยู่ดี
.
.
# พาดหัว คือ “จุดชี้เป็นชี้ตาย” ของคอนเทนต์ เพราะมันคือตัวตัดสินว่าคนจะหยุดอ่านคอนเทนต์ของเราหรือไม่ ?
.
นี่ คือสิ่งที่ผมให้ความสำคัญ 70% เลยก็ว่าได้ เพราะคนจะอ่านตรงนี้ก่อน ถ้ามันไม่โดนใจ เนื้อหาดีแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์
.
ซึ่งพาดหัวนั้นมีส่วนประกอบอยู่ 2 อย่างหลักๆ คือ “ตัวอักษร” และ “ภาพ” ต้องผสมผสานระหว่างสองอย่างนี้ให้ลงตัว
.
ซึ่งการคิดคำพาดหัวนั้นบอกเลยครับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากใช้เทคนิคแล้ว ต้องอาศัยการฝึกฝนด้วย บอกเลยว่าตรงส่วนนี้ผมใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 40 นาที กว่าจะคิดคำพาดหัวที่สมบูรณ์แบบออกมาได้
.
และสิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ ผู้อ่านมีเวลาแค่ 2 วินาทีเท่านั้น ในการตัดสินว่าจะอ่านคอนเทนต์ของเราหรือเลื่อนผ่านไป ซึ่งสิ่งที่ตัดสินก็คือ “พาดหัว” เพราะฉะนั้น เราต้องตอบให้ได้ ผู้อ่านจะได้อะไรจากคอนเทนต์ของเรา ใส่มันลงไปในพาดหัวให้ได้
.
แล้วสิ่งที่เราต้องการสื่อทั้งหมด ค่อยมาใส่ตรง “เนื้อเรื่อง”
.
และสุดท้าย คอนเทนต์ของเรามีผลกระทบอะไรกับผู้อ่านบ้าง ใส่ลงไปใน “สรุป” ช่วงท้าย
.
ทั้งหมดนี้ คือ เทคนิคที่สามารถทำให้เราประสบความสำเร็จในการทำเพจได้โดยไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณามากมาย เพราะต่อให้ยิง Ads หนักแค่ไหน แต่ถ้าคอนเทนต์ไม่ดี คนก็เลื่อนผ่านอยู่ดี...
.
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่าสิ่งที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ ผมไปเอามาจากไหน ?
.
คำตอบ คือ ผมไม่ได้เก่งมาตั้งแต่เกิด หรือ รู้ด้วยตัวเองทั้งหมดหรอกครับ แน่นอนว่าส่วนหนึ่งมันเกิดจากการฝึกฝน การลองผิดลองถูก และ เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาตลอด 2 ปี
.
แต่ถ้าอาศัยแค่การลองผิดลองถูกอย่างเดียว มันก็คงต้องใช้เวลามากกว่านี้ เพราะเราต้องนั่งงมไปกับสิ่งที่ไม่รู้ ลองโดยไม่มีเป้าหมาย ซึ่งมันเสียเวลามากๆ
.
แต่โชคดีที่ตอนทำงานประจำผมรู้จักกับพี่คนหนึ่ง ซึ่งมีประสบการณ์ด้านนี้มา 8 ปี เป็นเจ้าของเพจชื่อดังที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้าน ซึ่งคอยสอน คอยชี้แนะ ให้คำปรึกษา บอกเป้าหมายที่จะต้องเดินไป มันจึงทำให้เส้นทางการลองผิดลองถูกของผมนั้น ไม่ค่อยจะพลาดเป้า และ เสียเวลามากนัก
.
ผมกล้าพูดเลยว่า ถ้าไม่มีพี่คนนี้ ก็คงไม่มีผม ไม่มีสมองไหล และ ไม่มีหนังสืองานประจำสอนทำธุรกิจ เช่นกัน เพราะหลายสิ่งที่ผมทำ ผมได้เรียนรู้มาจากเขาเกือบทั้งหมด
.
เพราะจริงๆ แล้วชีวิตคนเราไม่ได้ยาวพอที่จะเสียเวลาเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะการลองผิดลองถูกแบบไม่มีเป้าหมาย มันอาจจะนานกว่าที่คิด
.
และ แน่นอนว่า คุณเองก็คงไม่อยากเป็นคนที่ลองผิดลองถูกเองแบบไม่มีเป้าหมาย ทำมาตั้งนานแต่จับทางยังไม่ถูก ทำไปเท่าไหร่ก็ยังไม่ก้าวหน้าสักที
.
วันนี้ผมจึงกลั่นบทเรียนจากประสบการณ์ทั้งหมดในการทำธุรกิจออนไลน์มาตลอด 2 ปี มาให้คุณเรียนรู้ ลงมือทำ และ ได้ผลลัพธ์ทันทีภายใน 2 เดือน ในคอร์ส Online Signature Master Class 2021 ซึ่งตอนนี้มีพี่น้องมากกว่า 300 คน เข้ามาลุย และ ได้ผลลัพธ์จริงนับไม่ถ้วนแล้ว
.
ยกตัวอย่างเช่น
.
# คุณอานนท์ ซึ่งทำอาชีพขายประกัน ทักมาบอกผมทันทีที่เรียนจบคอร์สไปเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์ ว่า…
.
ผมใช้วิธีการขายแบบเสียงย่างเนื้อ ก็สามารถทำยอดขายประกันได้ 3 ล้านภายในเดือนเดียว ซึ่งทั้งหมดนี้มาจากช่องทางออนไลน์ทั้งหมด”
.
# คนต่อมาที่เติบโตแบบก้าวกระโดดไม่แพ้กัน คือ คุณชมพู เจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายตัวหนึ่ง เธอบอกกับผมว่า
.
“ตอนเริ่มต้นทำแบรนด์ คือ ตอนอายุ 20 ค่ะ แต่ตอนนั้น ทำไปเพราะแค่อยากมีรายได้ ไม่มีทุนโปรโมต ไม่มีการวางแผนอะไรทั้งนั้น ลองผิดลองถูกเอา คือ ตอนนั้นสั่งของมาทดลองใช้เอง ใช้แล้วผิวดีขึ้น ก็เริ่มโพสต์ขายเลย ดั้นด้นขายแบบออแกนิคมา 2 ปีค่ะ ขายใน Shopee เฟซบุ๊ก และ ไอจี ซึ่งตอนนั้นก็ทำแบบขำๆ ตัดภาพเองแบบตลกๆ ก็เลยไม่ค่อยน่าซื้อเท่าไหร่ และในช่วง 2 ปีนี้ ก็มีลองยิงแอดบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาได้ดีเท่าไหร่
.
จนมา ปีที่ 3 ปีนี้ (ปัจจุบัน) เป็นปีการเปลี่ยนแปลง ช่วง ต้นปี 64 เดือนมกราคม ก็ยังโพสต์ขายอยู่ แบบเรื่อยๆ เดือนมกราคมยอดไลค์ ยอดผู้ติดตามอันน้อยนิด แบบ 2 ปีที่ผ่านมาเลย
.
แต่พอได้มาเรียนในคอร์สนี้ แล้วลองทำ ลองโพสต์ และลองทำตามเทคนิคไปสักระยะ บวกกับมาลองยิงแอดอีกครั้ง คือ งง มาก มันปังค่ะพี่ เป็นครั้งแรกที่ได้แตะออเดอร์วันละ 100 บ้าน ด้วยงบยิงแอดแค่ 90 บาท พอรู้สึกว่ามันดี ก็เลยไปสอนตัวแทนขายต่อค่ะ สอนเค้าแบบบ้านๆ เลย .
.
สรุปคือ ตัวแทนทำตาม นางขายได้ แลดูจะเข้าใจง่ายด้วย คือ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
.
**ผลลัพธ์ในปัจจุบัน
.
2 ปีที่ ขายมา
ปีแรก 62 มีเงินเก็บแค่ 10,000 บาท/ปี
ปีสอง 63 มีเงินเก็บถึง 50,000 บาท/ปี
(ดั้นด้นเอง มึนๆ มั่วๆ)
.
ปีที่สาม (ปัจจุบัน 64) แค่ช่วง 5 เดือนนี้ มีเงินเก็บ เกือบ 1 ล้านบาท (ไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้ค่ะ)
.
**ความต่างที่ชัดคือ ในระยะ 5 เดือนนี้ ที่ตัดสินใจเติมความรู้ เหมือนได้เบิกเนตร คือ มันต่อยอดได้แบบสุดจริงค่ะ**
.
.
# อีกคนหนึ่งคือ น้องภัค สาวน้อยวัย 19 ปี ที่เข้ามาในคลาส Online Signature ทั้งที่ยังไม่ได้ทำธุรกิจใดๆ แต่เมื่อเรียนไปถึงบทที่ 3 ผมก็ให้ทุกคนทำ Workshop ชิ้นหนึ่ง คือ ให้ขายสินค้าของตัวเองโดยใช้เทคนิคที่สอนไป แต่ถ้าใครยังไม่มีธุรกิจของตัวเอง ก็ให้หยิบของในบ้านมาทำ Workshop ไปก่อน ซึ่งน้องภัคก็ไปหยิบสเปรย์ระงับกลิ่นกายของตัวเองมาขาย
.
ผลปรากฎว่ามีเพื่อนๆ ในคลาสดูการบ้านที่น้องภัคทำส่ง แล้วก็สั่งซื้อจริงๆ เธอก็เลยลองไปเปิดเพจขายจริงดู จนล่าสุดเธอมาบอกผมว่า “ลองเริ่มขายไปได้แค่เดือนเดียว ยอดขาย 5,000 บาท แล้วค่ะ ตอนนี้กำลังจะลองยิงแอดตามเทคนิคที่สอนในคลาสเพิ่ม เพื่อกระตุ้นยอดขายให้มากขึ้นอีก”
.
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพี่น้องอีกกว่า 300 คน เท่านั้น ที่ผมหยิบยกมาเล่าให้ฟัง ซึ่งถ้าจะให้ผมเล่าเคสทั้งหมดทุกคน ก็คงเขียนเป็นหนังสือเล่มนึงได้ เอาเป็นว่าหากคุณอยากจะรู้ว่าพี่น้องแต่ละคนในคลาสเขาเติบโตก้าวกระโดดขนาดไหน ก็เข้ามาลุยกับพวกเราในคลาส Online Signature ได้ครับ .
.
# โดย คลาส Online Signature Master Class 2021 จะลุยกันทั้งหมด 10 บทเรียน ประกอบด้วย
.
Module 1 : Overview เข้าใจภาพรวมการตลาดออนไลน์
Module 2 : กลยุทธ์สร้างความต่างทางธุรกิจ โดยไม่ต้องแข่งราคา
Module 3 : จิตวิทยาปิดการขาย
Module 4 : Inbound Content Marketing การตลาดคอนเทนต์แบบแรงดึงดูด
Module 5 : การเขียนโพสต์ขายแบบป้ายยา
Module 6 : ศิลปะการเขียนโพสต์ขายตรง ให้ทำเงินได้แบบ Passive Income (Copy Writing)
Module 7 : การตลาด เพิ่มยอดขาย 2-10 เท่า แบบยั่งยืน
Module 8 : เทคนิคสร้างเพจให้พรีเมี่ยมด้วย Canva
Module 9 : Data thinking
Module 10 : การยิง Ads ขั้นสูง
.
✅ Bonus class : วิธีสร้างธุรกิจ ทดลองตลาด โดยไม่ต้องใช้เงินทุน
✅ Bonus class : การบริหารเงินธุรกิจ
.
และผมจะอัพเดทเนื้อหาและเทรนด์การตลาดออนไลน์ใหม่ๆ แบบเรียลไทม์เป็น Bonus ให้ทุกเดือนจนถึงสิ้นปี 2021
.
ทั้งหมดนี้เราจะเรียนกันแบบออนไลน์ เรียนที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ และ สามารถเรียนซ้ำได้ตลอดชีพครับ
.
คอร์ส Online Signature Master Class 2021
จากปกติราคา 46,000 บาท
ช่วงโปรโมชั่นเหลือเพียง 18,000 บาท
.
แต่เดี๋ยวก่อน !! เฉพาะคนที่แชร์โพสต์นี้ และ สมัครเข้ามา 10 คนแรก
คุณสามารถเข้ามาลุยในคอร์สนี้ในราคาเพียงพิเศษ 10,860 บาท เท่านั้น !!
.
# พร้อมรับของขวัญสุดพิเศษ เป็นคำเชิญเข้ากลุ่มลับ War Room ที่อาจารย์เจษแห่งสำนัก Ohmpiang นักขายมือโปร ที่สามารถขายของทุกอย่างที่อยู่ใกล้ตัว ในแบบที่เหมือนเพื่อนคุยกัน แต่ทุกคนที่ฟังต้องควักกระเป๋าเงินออกมาซื้อแบบ งงๆ ทุกที โดย อ.เจษ จะแอบมา Live เรื่อง “การขาย” ให้ฟังพร้อมเปิดรับคำถามและแจกสคริปต์การขายเรื่อยๆ แบบฟรีๆ
.
หากใครอยากจะลุยไปด้วยกัน ก็ทักไลน์มาได้ครับที่ @samounglai (ใส่ @ ข้างหน้าด้วย) จากนั้นบอกทีมงานว่า “ลุย OSM”
.
ปล1. ราคาพิเศษ 10,860 บาท และ คำเชิญเข้ากลุ่มลับ War Room นี้ เฉพาะ 10 คนแรก เท่านั้น !!
.
ปล2. สามารถชำระผ่านบัตรเครดิต หรือ ผ่อน 0% นาน 10 เดือนได้ (บัตรเครดิตที่ร่วมรายการ)
.
ปล3. เมื่อเข้ามาเรียนแล้วคิดว่าไม่คุ้ม ผมยินดีคืนเงินให้เต็มจำนวน ภายใน 7 วัน
ยอดขาย คือ 在 สมองไหล Facebook 的最佳解答
ถึงเจ้าของธุรกิจทุกคน ถ้าวันนี้คุณยังต้องใช้เวลา 80% ของชีวิต ไปกับการระแวงเรื่องค่าแอดว่ามันจะแพงจนเกินเพดานกำไรไหม และ ใช้เวลาอีก 20% ไปกับการเฝ้าสังเกตว่าวันนี้เฟซบุ๊ก จะปรับอัลกอริทึมหรือลดการมองเห็นยังไงบ้าง นี่คือ บทความที่ควรค่าแก่การตั้งใจอ่านอย่างยิ่งครับ
.
เพราะสิ่งที่ผมกำลังจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ จะเปลี่ยน “ค่าแอด” ที่คุณต้องเสียไป ให้กลายเป็น “กำไร” ที่คุณควรได้รับ และ จะทำให้การ ยิงแอด เป็นแค่ “ทางเลือก” ไม่ใช่ “ทางรอด” อีกต่อไป
.
.
นี่คือ เคล็ดลับที่ผมใช้กับการทำธุรกิจออนไลน์มาตลอด 2 ปี ซึ่งได้เปลี่ยนชีวิตของผม และ พี่น้องในคลาส Online Signature จากคนธรรมดา ให้กลายเป็นมนุษย์เงินล้านมานับไม่ถ้วนแล้ว
.
ที่สำคัญ คือ มันไม่ใช่เทคนิคยอดมนุษย์ใดๆ แต่มันเป็นเพียงวิธีการอันเรียบง่าย ที่ได้ผลลัพธ์โคตรทรงพลัง เพราะมันจะทำให้คุณไม่ต้องคอยนั่งระแวงเรื่องค่าแอด และ การปรับอัลกอริทึมของเฟซบุ๊กอีกเลย
.
.
ถ้าคุณติดตามเพจสมองไหลมาสักระยะ คุณจะไม่เคยเห็นผมออกมาบ่นเรื่องค่าแอด หรือ วิ่งตามการปรับอัลกอริทึมของเฟซบุ๊กเลย นั่นก็เพราะตลอดเวลา 2 ปีที่ผมทำธุรกิจออนไลน์มา ผมไม่เคยได้รับผลกระทบจากมันเลยสักครั้งเดียว ที่สำคัญคือ มันไม่ได้เกิดขึ้นกับผมแค่คนเดียว เพราะพี่น้องใน คลาส Online Signature ตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้นเช่นกัน
.
พวกเขาใช้เวลา 80% ของชีวิต ไปกับการคิดกลยุทธ์ในการต่อยอด และ แตกไลน์ธุรกิจ ว่าจะโตธุรกิจยังไง ให้ยอดขายแตะหลักล้านต่อเดือนได้ ส่วนอีก 20% คือ เวลาที่ใช้ไปกับการทำตามเคล็ดลับที่ผมกำลังจะนำมาเปิดเผยในบทความนี้
.
.
Seth Godin นักการตลาดชั้นนำของโลก ได้กล่าวเอาไว้ตั้งแต่ปี 2008 ว่า “Content Marketing จะเป็นการตลาดเพียงอย่างเดียวที่เหลืออยู่ต่อจากนี้” เพราะผู้คนจะวิ่งหนีโฆษณากันมากขึ้น ถ้าไม่เชื่อก็ลองมองย้อนดูตัวเองก็ได้ครับ ว่าทุกวันนี้เวลาคุณจะตัดสินใจซื้อสินค้าอะไรสักอย่าง คุณเชื่อโฆษณา หรือ เชื่อคอนเทนต์ เชื่อรีวิว มากกว่า ?
.
นั่นหมายความว่า ถ้าวันนี้ธุรกิจของคุณยังพึ่งยอดขายจากการยิงแอด ธุรกิจของคุณก็กำลัง “อ่อนแอ” ลงเรื่อยๆ
.
ดังนั้น สิ่งแรกที่คุณต้องทำ คือ การปรับหน้าเพจ จากที่เคยโพสต์รูปสินค้า เขียนแคปชั่น ร่ายคุณสมบัติ แล้วก็ยิงแอด (ซึ่งไม่ได้ผล) ให้อยู่ในรูปแบบนี้เฟซบุ๊กชอบและเปิดการมองเห็นแบบออแกนิคมากที่สุด โดยแบ่งเป็น
.
- คอนเทนต์ให้คุณค่า 80%
- รีวิว 15%
- และ โพสต์ขาย 5%
.
ถามว่าทำไมต้องเป็น 3 องค์ประกอบนี้ นั่นก็เพราะคุณต้องเข้าใจก่อนว่าหน้าที่เดียวของเฟซบุ๊ก นั่นก็คือ การคัดในสิ่งที่คนไม่ชอบทิ้ง แล้วนำส่งเฉพาะสิ่งที่คนชอบไปให้ผู้คนเห็น
.
และในเมื่อผู้คนกำลังหนีโฆษณาสินค้า จึงไม่แปลกที่เฟซบุ๊กจะต้องคัดคอนเทนต์ประเภทนี้ทิ้ง (ถ้าอยากให้คนเห็นก็ต้องจ่ายเงินยิงแอดมา) เพราะถ้าเฟซบุ๊กไม่ทำอย่างนี้ สุดท้ายผู้คนจะพากันเลิกใช้เฟซบุ๊กกันหมดเสียก่อน เพราะมันมีแต่สิ่งที่คนไม่ชอบเต็มไปหมด
.
เพื่อไม่ให้คุณถูกคัดทิ้งก่อนจะไปถึงสายตาของลูกค้า คุณจึงต้องทำแต่คอนเทนต์ที่เฟซบุ๊กเปิดการมองเห็น และ สนับสนุน ตั้งแต่แรก ดังนี้
.
1) คอนเทนต์ให้คุณค่า
.
ถ้าเปรียบเหมือนร้านขายเสื้อผ้า คอนเทนต์ให้คุณค่าก็เหมือน เสื้อผ้าที่แขวนโชว์อยู่ในร้าน ให้ลูกค้าได้เดินเลือก เดินชม ตามใจชอบ
.
ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว เวลาที่เราตัดสินใจซื้อสินค้า เราก็มักจะตัดสินใจซื้อ เพราะได้เดินเลือกดูจนถูกใจด้วยตัวเอง ไม่ใช่ตอนที่พนักงานขายเดินตามหลังแล้วพยายามยัดเยียดขายสินค้าให้กับเราจริงไหม ?
.
แต่น่าแปลกที่พอมาอยู่บนออนไลน์ คนส่วนใหญ่มักชอบเอาแต่ทำโพสต์ขาย ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการส่งพนักงานไปเดินตามหลังลูกค้า จนสุดท้าย ลูกค้าก็ไม่ชอบ แล้วก็เดินหนีออกจากร้านไป
.
ดังนั้น สิ่งที่คุณต้องทำ คือ การสร้างคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ สามารถสร้างความอยาก และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เอาไว้หน้าเพจให้ลูกค้าเข้ามาเดินชม เลือกดู ด้วยตัวของเขาเอง แล้วเมื่อไหร่ที่ลูกค้าถูกใจ เขาก็จะทักแชทไปขอซื้อสินค้าเอง เหมือนกับการที่เขาหยิบเสื้อผ้าที่ชอบแล้วเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์นั่นแหละ
.
.
2) รีวิว
.
เหตุผลที่เราต้องทำคอนเทนต์ประเภทรีวิว ก็เพื่อให้คอนเทนต์คุณค่าที่เราทำไปแล้วนั้นมีน้ำหนักมากขึ้น เพราะสิ่งที่เราต้องไม่ลืมก็คือ คำพูดจากลูกค้าด้วยกัน มีน้ำหนัก มากกว่า คำพูดของเรา เสมอ
.
แต่คำว่า รีวิว ในที่นี้ ก็ไม่ได้หมายถึงการแคปเจอร์คำชมของลูกค้า แล้วไปโพสต์เฉยๆ นะครับ เพราะรีวิวแบบนั้นมันมีพลังในการโน้มน้าวที่น้อยมาก ถ้าคุณอยากจะให้รีวิวช่วยเพิ่มน้ำหนักความน่าเชื่อถือ และ โน้มน้าวลูกค้าได้จริงๆ คุณจำเป็นต้องทำคอนเทนต์รีวิวให้อยู่ในระดับที่เข้มข้นมากกว่านี้
.
โดยการทำคอนเทนต์รีวิวนั้นแบ่งออกเป็น 4 Level ตามความเข้มข้น คือ
.
Level 1 คือ รูปภาพ และ ข้อความ บอกสถานะต่างๆ เช่น ยอดขาย รูปส่งของ แชทการสั่งซื้อ
Level 2 คือ รูปภาพ และ ข้อความ ที่บ่งบอกถึงผลลัพธ์จากการใช้งานสินค้าหรือบริการจากลูกค้า
Level 3 คือ รูปภาพ และ ข้อความ ที่มีคำอธิบาย เรื่องราว ที่มาที่ไป และ อารมณ์ร่วม
Level 4 คือ วิดีโอ ที่มีคำอธิบาย เรื่องราว ที่มาที่ไป และ อารมณ์ร่วม พูดง่ายๆ ก็คือ เหมือน Level 3 แต่ทำมาในรูปแบบของ วิดีโอ
.
สาเหตุเพราะรีวิว ในรูปแบบของวิดีโอนั้นจะดูน่าเชื่อถือมากกว่า เพราะรูปภาพ หรือ ข้อความ สามารถที่จะปลอมแอคเคาท์กันได้ แต่สีหน้า แววตา และ คำพูด ของผู้ใช้งานจริงๆ มันหลอกกันยาก
.
ถ้าที่ผ่านมาคุณทำคอนเทนต์รีวิว แค่ Level 1 กับ 2 ก็ให้ลองทำแบบ Level 3 กับ 4 ดูครับ แล้วคุณจะพบว่าผลลัพธ์ของมันจะดีขึ้นมากกว่าอย่างสิ้นเชิง
.
.
3) โพสต์ขาย
.
พอพูดถึงโพสต์ขาย หลายคนอาจจะคิดว่ามันคือ การเอารูปสินค้า เขียนแคปชั่น บอกคุณสมบัติ เสนอโปรโมชั่น แต่ความจริงแล้ว มันไม่ใช่อย่างนั้นเลยครับ เพราะการเขียนโพสต์ขายที่ได้ผลมากที่สุด คือ ต้องเขียนโดยใช้ศาสตร์ Copy Writing หรือ ที่ผมมักจะเรียกว่า “การเขียนโพสต์ขายแบบป้ายยา”
.
อย่างไรก็ตาม อีกสิ่งหนึ่งที่คุณต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับโพสต์ขายก็คือ “โพสต์ขาย” ไม่ได้มีหน้าที่ “ขาย”
.
อ้าว !! ชื่อก็บอกอยู่ว่า “โพสต์ขาย” ถ้าไม่ได้มีหน้าที่ขาย แล้วมันมีหน้าที่ทำอะไร ?
.
คุณลองนึกภาพร้านเสื้อผ้าแบรนด์ใหญ่ๆ เวลาคุณไปซื้อเสื้อผ้า คุณตัดสินใจซื้อเพราะตัวเอง หรือ ตัดสินใจซื้อเพราะพนักงานขายครับ ?
.
ใช่ครับ !! ส่วนใหญ่ คือ คุณเดินเลือก (คอนเทนต์) และ ทดลองใส่ (รีวิว) จนกว่าจะถูกใจ แล้วก็เดินไปจ่ายเงินซื้อด้วยตัวเอง
.
เว้นเสียแต่ว่า พนักงานขายเขาเห็นคุณยืนเลือกนานไปหน่อย ไม่ยอมตัดสินใจซื้อสักที เขาก็เลยเดินมาบอกคุณว่า “ถ้าคุณซื้อภายในวันนี้ คุณจะได้รับโปรโมชั่นส่วนลด 30% หรือ ไม่ก็บอกคุณว่าสินค้ากำลังจะหมด ถ้าไม่รีบซื้อตอนนี้ คุณอาจจะไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของมันอีกแล้ว”
.
เมื่อได้ยินอย่างนั้น คุณก็เลยรีบหยิบเสื้อผ้าที่ยืนดูอยู่นานแสนนาน แล้ววิ่งไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ทันที
.
เห็นไหมครับว่า พนักงานขายของร้านเสื้อผ้าแบรนด์ใหญ่ๆ ที่มียอดขายหลักล้าน เขาไม่ได้มายืนตะโกนขายของให้คุณเหมือนในตลาดนัด แต่เขาแค่มา “กระตุ้น” ให้คุณรีบ “ตัดสินใจซื้อ” ก็เท่านั้น
.
โพสต์ขายก็เช่นกันครับ มันไม่ได้มีหน้าที่ขายเหมือนแม่ค้าที่ตะโกนใส่ลูกค้า แต่โพสต์ขายมีหน้าที่ “กระตุ้น” ลูกค้าที่มี “ความต้องการ” อยู่แล้ว แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ (ซึ่งเกิดจากการที่ลูกค้าได้เข้ามาอ่านคอนเทนต์ ดูรีวิว ก่อนหน้านี้) ให้รีบตัดสินใจซื้อทันทีนั่นเอง
.
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมพยายามบอกว่า อย่าเอารูปภาพมาโพสต์ขายแห้งๆ ตรงๆ เพราะมันก็เหมือนการไปยืนตะโกนใส่หูลูกค้า สุดท้ายลูกค้าก็มีแต่จะเดินหนีไปเปล่าๆ
.
.
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงจะพูดขึ้นมาในใจว่า “ก็รู้แหละ ว่าต้องทำคอนเทนต์ ต้องทำรีวิว ต้องทำโพสต์ขาย แต่ปัญหา คือ มันคิดไม่ออกว่าจะทำคอนเทนต์ยังไง แต่ถึงจะคิดออก แล้วทำออกมาได้ ก็ไม่มีใครทักมาซื้ออยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้น บางคนทักมาถามราคา พอบอกก็เงียบหายไปเลยก็มี”
.
สาเหตุที่เป็นอย่างนั้น ก็เพราะหลายคนรู้แต่เพียงโครงสร้างการทำคอนเทนต์ แต่ไม่รู้วิธีทำให้คอนเทนต์นั้นทำงานได้ยังไงล่ะครับ ซึ่งมันก็ไม่ต่างอะไรกับรถยนต์ที่มีแต่โครงสวยงาม แต่ปราศจากเครื่องยนต์ที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้คุณไปถึงที่หมาย
.
หากคุณอยากให้คอนเทนต์สามารถทำงานหาเงินให้กับคุณได้ ประดุจมีท็อปเซลล์มือทองอยู่ข้างกาย คุณจำเป็นต้องนำจิ๊กซอว์อีก 3 ชิ้น มาเติมเต็มให้สมบูรณ์เสียก่อน
.
.
# จิ๊กซอว์ตัวแรก คือ การขาย
.
คุณอาจจะแปลกใจ ว่าการขายมันเกี่ยวอะไรกับการทำคอนเทนต์ การรีวิว และ โพสต์ขาย เพราะนี่มันในออนไลน์ เราไม่ต้องไปเดินขายลูกค้าแล้วหนิ แค่เรียนการทำคอนเทนต์ก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่หรอ
.
ผมบอกเลยครับว่ามันเกี่ยวข้องกันเต็มๆ และนี่คือ เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ไปเรียนเขียนคอนเทนต์มาเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถทำให้คนซื้อผ่านคอนเทนต์ได้สักที
.
สาเหตุก็เพราะคอนเทนต์มันก็เหมือนกับเซลล์แมนที่คุณฝึกให้มันออกไปขายของแทนคุณ แต่คำถาม คือ ถ้าตัวคุณเองยังขายไม่เป็น แล้วคุณจะฝึกเซลล์แมนของคุณให้ขายเป็นได้ยังไง
.
ดังนั้น ถ้าวันนี้คุณยังขายของต่อหน้าไม่ได้ ก็อย่าหวังเลยครับว่าจะเขียนคอนเทนต์ให้คนอยากซื้อได้ เพราะขนาดต่อหน้ายังขายไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับการขายผ่านตัวอักษรล่ะ จริงไหม ?
.
คุณอยากรู้ไหม ว่าคนที่เขียนคอนเทนต์แค่โพสต์เดียว แต่สามารถทำยอดขาย 7 หลักต่อเดือนได้ โดยไม่ต้องไปตามง้อลูกค้า แถมยังใช้คอนเทนต์เดียวทำเงินให้เรื่อยๆ แบบ Passive Income ได้อีก 5 ปี เขามีเคล็ดลับยังไง ผมบอกเลยครับว่าความจริงแล้วมันเป็นเพียงจิตวิทยาง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ฝึกฝนกันได้
.
เมื่อคุณได้เรียนรู้กระบวนการของมันจริงๆ ละก็ คุณจะมีทรัพย์สินที่คอยทำเงินให้กับคุณไปแบบยาวๆ โดยที่คุณไม่ต้องออกแรงทำงานเลย
.
.
# จิ๊กซอว์ตัวที่สอง คือ การตลาดแบบสมองไหล
.
แม้ว่าจะทำทุกอย่างที่ผมกล่าวมาข้างต้นจนหมดแล้ว แต่สิ่งที่มักจะทำให้หลายคนมาตายตอนจบ ก็คือ การโดนคู่แข่งตัดราคา จนหลายคนถึงกับคิดว่าตลาดออนไลน์มันแดงเดือนจนเกินไป จะเข้ามาทำตอนนี้ก็มองไม่เห็นกำไร และ ถึงแม้จะพอขายได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็สู้ราคาคู่แข่งไม่ได้อยู่ดี
.
หากคุณติดตามเพจสมองไหลมาสักระยะ คุณจะพบว่าผมไม่เคยลดราคาหนังสือแข่งกับใครเลย แถมยังคิดค่าส่งแพงอีกต่างหาก แต่ทำไมยอดขายยังเพิ่มขึ้นทุกเดือน ทั้งที่ไม่ได้มีเพจสมองไหลเพจเดียว ที่ทำคอนเทนต์แนวนี้ และ ไม่ใช่เพจเดียวที่ขายหนังสือ ที่สำคัญ คือ ลูกค้าก็รู้ทั้งรู้ว่าที่อื่นขายถูกกว่า แต่ทำไมเขาถึงยังยอมจ่ายแพงกว่าให้ผม
.
ผมบอกเลยครับว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันเกิดจากการวางกลยุทธ์และรากฐานมาอย่างเป็นระบบแล้ว ที่สำคัญ คือ กระบวนการของมันไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด จะเรียกว่าเส้นผมบังภูเขาเลยก็ว่าได้ เพราะมันเป็นเรื่องง่ายๆ แต่น้อยคนนักที่จะมองเห็นแล้วใช้ประโยชน์จากมัน
.
ซึ่งผมได้เปิดเผยเรื่องนี้กับพี่น้องในคลาส Online Signature แบบหมดเปลือกไปแล้ว และ ทันทีที่พวกเขารู้เรื่องนี้ ปัญหาคู่แข่งล้นตลาด และ การโดนตัดราคา ก็ไม่ใช่ปัญหาโลกแตกของพวกเขาอีกต่อไป
.
.
# จิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย คือ ดาต้า
.
หากวันนี้คุณทำธุรกิจออนไลน์แล้วไม่เคยเอาดาต้ามาใช้ประโยชน์ บอกเลยครับว่าคุณกำลังนั่งทับทรัพย์สมบัติมูลค่ามหาศาลอยู่ เพราะข้อมูลต่างๆ ที่ลูกค้าให้คุณมา ทั้งข้อความในแชท รายชื่อลูกค้า ที่อยู่การจัดส่ง รายการสินค้า ยอดโอน ฯลฯ ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่นำมาใช้เพิ่มยอดขาย 2-10 เท่าได้สบายๆ ขอแค่รู้จักนำมันมาใช้ประโยชน์ก็พอ
.
และความลับอีกข้อหนึ่งที่ผมจะบอกก็คือ ดาต้า เหล่านี้สามารถนำมายิงแอดแบบเฉพาะเจาะจงได้ นั่นหมายความว่าการยิงแอดของคุณจะตรงกลุ่มเป้าหมายในระดับบุคคลที่เป็นลูกค้าจริงๆ ไม่มีการสุ่มยิงทิ้งยิงขว้างอีกต่อไป ที่สำคัญ คือ ในยุคนี้การใช้ดาต้ามันง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปาก ใครๆ ก็ทำได้ถึงแม้จะเป็นคนที่ไม่เคยมีความรู้ด้านนี้มาก่อนเลยก็ตาม
.
.
ซึ่งทั้งหมดนี้ผมได้เปิดเผยแบบหมดเปลือกในคลาส Online Signature Master Class 2021 จนล่าสุดมีนักเรียนหลายคนทักมาบอกผมว่า...
.
.
# “ผมใช้วิธีการขายแบบเสียงย่างเนื้อ ก็สามารถทำยอดขายประกันได้ 3 ล้านภายในเดือนเดียว ซึ่งทั้งหมดนี้มาจากช่องทางออนไลน์ทั้งหมด”
.
คุณอานนท์ ซึ่งทำอาชีพขายประกัน ทักมาบอกผมทันทีที่เรียนจบคอร์สไปเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์
.
.
# คนต่อมาที่เติบโตแบบก้าวกระโดดไม่แพ้กัน คือ คุณชมพู เจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายตัวหนึ่ง เธอบอกกับผมว่า
.
“ตอนเริ่มต้นทำแบรนด์ คือ ตอนอายุ 20 ค่ะ แต่ตอนนั้น ทำไปเพราะแค่อยากมีรายได้ ไม่มีทุนโปรโมต ไม่มีการวางแผนอะไรทั้งนั้น ลองผิดลองถูกเอา คือ ตอนนั้นสั่งของมาทดลองใช้เอง ใช้แล้วผิวดีขึ้น ก็เริ่มโพสต์ขายเลย ดั้นด้นขายแบบออแกนิคมา 2 ปีค่ะ ขายใน Shopee เฟซบุ๊ก และ ไอจี ซึ่งตอนนั้นก็ทำแบบขำๆ ตัดภาพเองแบบตลกๆ ก็เลยไม่ค่อยน่าซื้อเท่าไหร่ และในช่วง 2 ปีนี้ ก็มีลองยิงแอดบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาได้ดีเท่าไหร่
.
จนมา ปีที่ 3 ปีนี้ (ปัจจุบัน) เป็นปีการเปลี่ยนแปลง ช่วง ต้นปี 64 เดือนมกราคม ก็ยังโพสต์ขายอยู่ แบบเรื่อยๆ เดือนมกราคมยอดไลค์ ยอดผู้ติดตามอันน้อยนิด แบบ 2 ปีที่ผ่านมาเลย
.
แต่พอได้มาเรียนในคอร์สนี้ แล้วลองทำ ลองโพสต์ และลองทำตามเทคนิคไปสักระยะ บวกกับมาลองยิงแอดอีกครั้ง คือ งง มาก มันปังค่ะพี่ เป็นครั้งแรกที่ได้แตะออเดอร์วันละ 100 บ้าน ด้วยงบยิงแอดแค่ 90 บาท พอรู้สึกว่ามันดี ก็เลยไปสอนตัวแทนขายต่อค่ะ สอนเค้าแบบบ้านๆ เลย .
.
สรุปคือ ตัวแทนทำตาม นางขายได้ แลดูจะเข้าใจง่ายด้วย คือ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
.
**ผลลัพธ์ในปัจจุบัน
.
2 ปีที่ ขายมา
ปีแรก 62 มีเงินเก็บแค่ 10,000 บาท/ปี
ปีสอง 63 มีเงินเก็บถึง 50,000 บาท/ปี
(ดั้นด้นเอง มึนๆ มั่วๆ)
.
ปีที่สาม (ปัจจุบัน 64) แค่ช่วง 5 เดือนนี้ มีเงินเก็บ เกือบ 1 ล้านบาท (ไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้ค่ะ)
.
**ความต่างที่ชัดคือ ในระยะ 5 เดือนนี้ ที่ตัดสินใจเติมความรู้ เหมือนได้เบิกเนตร คือ มันต่อยอดได้แบบสุดจริงค่ะ**
.
.
# อีกคนหนึ่งคือ น้องภัค สาวน้อยวัย 19 ปี ที่เข้ามาในคลาส Online Signature ทั้งที่ยังไม่ได้ทำธุรกิจใดๆ แต่เมื่อเรียนไปถึงบทที่ 3 ผมก็ให้ทุกคนทำ Workshop ชิ้นหนึ่ง คือ ให้ขายสินค้าของตัวเองโดยใช้เทคนิคที่สอนไป แต่ถ้าใครยังไม่มีธุรกิจของตัวเอง ก็ให้หยิบของในบ้านมาทำ Workshop ไปก่อน ซึ่งน้องภัคก็ไปหยิบสเปรย์ระงับกลิ่นกายของตัวเองมาขาย
.
ผลปรากฎว่ามีเพื่อนๆ ในคลาสดูการบ้านที่น้องภัคทำส่ง แล้วก็สั่งซื้อจริงๆ เธอก็เลยลองไปเปิดเพจขายจริงดู จนล่าสุดเธอมาบอกผมว่า “ลองเริ่มขายไปได้แค่เดือนเดียว ยอดขาย 5,000 บาท แล้วค่ะ ตอนนี้กำลังจะลองยิงแอดตามเทคนิคที่สอนในคลาสเพิ่ม เพื่อกระตุ้นยอดขายให้มากขึ้นอีก”
.
.
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพี่น้องอีกกว่า 300 คน เท่านั้น ที่ผมหยิบยกมาเล่าให้ฟัง ซึ่งถ้าจะให้ผมเล่าเคสทั้งหมดทุกคน ก็คงเขียนเป็นหนังสือเล่มนึงได้ เอาเป็นว่าหากคุณอยากจะรู้ว่าพี่น้องแต่ละคนในคลาสเขาเติบโตก้าวกระโดดขนาดไหน ก็เข้ามาลุยกับพวกเราในคลาส Online Signature ได้ครับ
.
เพราะที่นี่เราอยู่กันแบบสังคมที่สนับสนุนการเติบโตซึ่งกันและกัน ไม่มีใครในคลาสนี้บั่นทอนความฝันของคนอื่น ไม่มีใครหัวเราะหากมีเด็กคนหนึ่งประกาศกร้าวว่าจะทำเงินล้าน มีแต่เชียร์ว่า “ลุยเลย !! เอาเลย !! ” เพราะการทำเงินหลักล้านในสังคมแห่งการเติบโตนี้มันเป็นเรื่องปกติมากๆ
.
ทุกคนในนี้พร้อมที่จะเติบโตสวนกระแสท่ามกลางคนภายนอกที่เอาแต่บ่นว่าเศรษฐกิจไม่ดี จะไปทำอะไรได้...
.
แต่พี่น้องชาว Online Signature คิดเสมอว่า “ในเวลาที่คนอื่นหยุด คุณแค่เดินไปช้าๆ ก็ยังนำหน้าเขาไปได้ตั้งหลายก้าว เพราะถึงจะอยู่ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจทรุด แต่เรายังโอกาสพัฒนาตัวเองและธุรกิจให้ก้าวหน้าได้ และเมื่อไหร่ที่เศรษฐกิจกลับมาสู่สภาพเดิม เราจะกลายเป็น ผู้นำ ทันที”
.
.
และสุดท้าย แอบกระซิบบอกสำหรับคนที่อยากจะเข้ามาลุยด้วยกันว่า “ผมมีสอนสูตรลับการยิงแอดร้อยให้ได้ล้าน ที่ใครได้เรียนไปแล้ว ก็ไม่เคยกลับมาบ่นเรื่องค่าแอดแพงอีกเลย” อันนี้เอาไว้เป็นทางเลือกถ้าอยากจะเพิ่มยอดขายให้มากขึ้นอีก (แต่หลายคนแทบไม่ได้ใช้ เพราะขนาดไม่ยิงแอดยอดขายก็รับไม่ทันแล้ว)
.
ที่สำคัญ สำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ ผมเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการทำรูปคอนเทนต์แบบง่ายๆ จากมือถือด้วย Canva มาสอนให้ด้วย จะได้ไม่ต้องกังวลว่า “ทำไปแล้วจะไม่มีรูปพรีเมี่ยมใช้”
.
.
# คอร์ส Online Signature Master Class 2021 จากปกติราคา 46,000 บาท ช่วงโปรโมชั่นเหลือเพียง 18,000 บาท
.
แต่เดี๋ยวก่อน !! เฉพาะคนที่แชร์โพสต์นี้ และ สมัครเข้ามา 20 คนแรก คุณสามารถเข้ามาลุยในคอร์สนี้ในราคาเพียงพิเศษ 10,860 บาท เท่านั้น !!
.
.
# พร้อมรับคำเชิญเข้ากลุ่มลับ War Room ที่อาจารย์เจษแห่งสำนัก Ohmpiang นักขายมือโปร ที่สามารถขายของทุกอย่างที่อยู่ใกล้ตัว ในแบบที่เหมือนเพื่อนคุยกัน แต่ทุกคนที่ฟังต้องควักกระเป๋าเงินออกมาซื้อแบบ งงๆ ทุกที โดย อ.เจษ จะแอบมา Live เรื่อง “การขาย” ให้ฟังพร้อมเปิดรับคำถามและแจกสคริปต์การขายเรื่อยๆ แบบฟรีๆ
.
.
สมัครเรียน แอดไลน์ @samounglai (ใส่ @ ด้วย) จากนั้นบอกทีมงานว่า “ลุย OSM”
.
แล้วพบกันในคลาสนะครับ ^^
.
.
ปล1. ราคาพิเศษ 10,860 บาท และ คำเชิญเข้ากลุ่มลับ War Room นี้ เฉพาะ 20 คนแรก เท่านั้น !!
.
ปล2. สามารถชำระผ่านบัตรเครดิต หรือ ผ่อน 0% นาน 10 เดือนได้ (บัตรเครดิตที่ร่วมรายการ)
.
ปล3 ราคาอาจจะดูแรง แต่ผลตอบแทนที่ได้ แพงกว่าแน่นอน ถ้าเข้ามาเรียนแล้วคิดว่าไม่คุ้ม ผมยินดีคืนเงินให้ ภายใน 7 วัน
ยอดขาย คือ 在 CarDebuts Youtube 的最佳解答
ยอดขายรถยนต์ รถกระบะปิกอัพ ประเทศออสเตรเลีย เดือนพฤษภาคม 2021 / 2564 Isuzu D-MAX ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 แซง Mitsubishi Triton โดยมี Toyota Hilux Revo และ Ford Ranger เป็นอันดับ 1 และ 2 ในตลาดรถกระบะปิกอัพ
หอการค้าอุตสาหกรรมยานยนต์ออสเตรเลีย ได้เผยแพร่รายงานยอดขายรถยนต์ประจำเดือนพฤษภาคม ปี 2021 ซึ่งในภาพรวม ถือว่าสถานการณ์ยอดขายดีขึ้น หลังจากที่โดนมรสุมโรคระบาดโควิด 19 โหมกระหน่ำมานานแรมปี ซึ่งยอดขายรวมในเดือนนี้ อยู่ 100,809 คัน เพิ่มขึ้นถึง 68.3% เมื่อเทียบกับเดียวเดือนกันของปีก่อน และเดือนพฤษภาคม เป็นเดือนที่ 2 ในปีนี้ ที่มียอดขายรถยนต์เกิน 1 แสนคัน
สิ่งที่น่าสนใจในเดือนนี้ก็คือ การขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในด้านยอดขายอีกครั้งของ Toyota Hilux ซึ่งในเดือนเมษายน พลาดท่าให้กับ Ford Ranger และตกลงไปเป็นที่ 3 โดยในเดือนนี้ Toyota สามารถจำหน่าย Hilux ไปได้ 4402 คัน ตามมาด้วยอันดับ 2 Ford Ranger ที่ตัวเลขไม่ห่างกันนัก คือ 4254 คัน แต่ที่น่าเซอร์ไพรซ์ก็คือ Isuzu D-MAX ที่เดือนนี้ สามารถก้าวขึ้นมาจากอันดับ 10 ในด้านยอดขายรวมรถยนต์ทุกประเภท มาเป็นอันดับ 4 หรืออันดับ 3 ในประเภทรถกระบะปิกอัพ ซึ่งสามารถเบียดรถกระบะอันดับ 3 ในเดือนก่อน อย่าง Mitsubishi Triton ให้ตกลงไปเป็นอันดับ 4 แทน โดย D-MAX มียอดขายเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ถึง 1000 คัน คืออยู่ที่ 3058 คันในเดือนพฤษภาคมนี้ ทิ้งห่าง TRITON ถึง 700 กว่าคัน แต่ก็ยังตามหลัง 2 เจ้าตลาด ถึง 1,000 กว่าคัน แต่เมื่อมองจากการเติบโตเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาแล้ว D-MAX มีการขยายตัวถึง 202.8% ในขณะที่ Toyota Hilux และ Ford Ranger มียอดขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เพียง 24.8% และ 59.7% เท่านั้น นั่นจึงเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับ D-MAX ในตลาดแห่งนี้
ที่มา: https://www.caradvice.com.au/957832/vfacts-may-2021-toyota-hilux-ford-ranger-and-isuzu-d-max-take-out-the-top-four-drive-record-ute-sales/
ติดตามช่องของเราทาง Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/CarDebuts-891205251089964
หรือเว็บไซต์ https://cardebuts.com/
ยอดขาย คือ 在 DroidSans Youtube 的最佳解答
อัปเดตวงการไอทีรอบโลก #หิวข่าว ep.96 ประจำวันที่ 15 พฤษภาคม 2564
:
อัปเดตข่าวสารฝั่งไอที ประจำสัปดาห์กับดรอยด์แซนส์ ที่เก่า เวลาเดิม เล่าให้ฟังครบทุกเหตการณ์ใน 7 วันที่ผ่านมา และ ถ้ายังไม่จุใจสามารถกดกดอ่านข่าวทั้งหมด และ ข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็บ droidsans.com เลยครับผม ข่าวแน่นๆ มีให้อ่านทุกวัน แต่ถ้าใครอ่านไม่ทัน ก็มาเจอกันได้ที่นี่ กับ หิวข่าว ทุกสัปดาห์น้าาา~~
.
00:00 หิวข่าว
00:54 IBM เปิดตัวคอนเซปท์ชิปเซ็ตสถาปัตยกรรม 2 นาโนเมตร แรงกว่าเดิม แต่กินไฟน้อยลง 75%
01:55 Sony เตือน… PlayStation 5 อาจขาดตลาดยาวไปจนถึงปีหน้า เพราะความต้องการสูงมาก และปัญหาขาดแคลนชิป
02:47 ภาพหลุดชุดใหม่ Sony WF-1000XM4 แบบชัด ๆ มีสองสี คือ เงินแพลทินัม และดำ
03:31 พบช่องโหว่บนชิป Qualcomm ข้อมูลประวัติการโทรและข้อความเสี่ยงโดนแฮก กระทบ Android ทั่วโลก
05:02 กำลังผลิต iPhone 12 ในโรงงานอินเดียลดฮวบกว่า 50% หลังพบพนักงานกว่าร้อยคนติดโควิด
05:40 มีผู้ใช้งาน iOS 14.5 เพียง 12% เท่านั้นที่ยอม “อนุญาตให้ติดตามข้อมูล”
06:35 MacBook Air รุ่นใหม่ อาจมาพร้อมชิป M2 และมี 7 สี คล้าย iMac M1
07:05 Apple ซุ่มพัฒนาเครื่องเกมแบบพกพาสไตล์ Switch ใช้ชิปตัวใหม่เพิ่มประสิทธิภาพ GPU ให้ทรงพลังกว่าเดิม
07:46 ประธาน Nintendo ยอมรับ Switch อาจขาดตลาดอีกครั้งในปีนี้ จากปัญหาขาดแคลนชิปทั่วโลก
09:00 เปิดตัว ASUS ZenFone 8 มือถือเรือธงตัวเล็ก สเปคแรง พร้อม ZenFone 8 Flip มือถือกล้องหลังพลิกได้
10:18 หลุดสเปค OPPO Reno6 Pro และ Reno6 Pro+ จะมากับจอ AMOLED และ Snapdragon 870
10:58 OPPO Smart TV K9 สมาร์ททีวีรุ่นใหม่จาก OPPO ภาพสวย สีตรง ความละเอียดสูงสุด 4K พร้อมอุปกรณ์อื่นๆ เพียบ
12:36 OPPO ยืนยัน อัปเดต Security Patch ให้ Find X3 Series ยาวนานถึง 3 ปี
13:09 Vivo ประกาศอัปเดต Android ให้กับมือถือบางรุ่น ยาวนาน 3 ปี
13:47 Vivo V21 5G มือถือเอาใจสายเซลฟี่ กล้องหน้า 44MP พร้อมกันสั่น OIS และแฟลชคู่ เปิดราคาในประเทศไทยเริ่มต้น 12,999 บาท
14:35 รัฐบาลสหรัฐฯ ปลดแบน Xiaomi แล้ว นักลงทุนกลับมาถือหุ้นได้เหมือนเดิม
15:20 Xiaomi ยอดขาย Q1 2021 ในไทย โตกว่าเดิม 328% ขึ้นเบอร์สอง ขณะที่ Samsung ยังแชมป์ ส่วน OPPO และ Vivo ตก
16:20 Xiaomi เปิดตัว FlipBuds Pro หูฟังไร้สาย In-ear พร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน ANC และแบตใช้ต่อเนื่อง 7 ชม.
17:05 เผยเรนเดอร์ Official ของ HUAWEI P50 โมดูลกล้องเป็นเอกลักษณ์
18:55 HUAWEI เตรียมเปิดตัวมอนิเตอร์ซีรีส์ MateView วันที่ 19 พ.ค. 2564 อาจมีอุปกรณ์อื่นโผล่มาแจมด้วย
19:41 หลุดภาพมือถือเรือธง SHARP AQUOS R6 ดีไซน์แปลกตาด้วยกล้องหลัง LEICA ขนาดยักษ์
20:15 Exynos 2200 เตรียมมากับ GPU Radeon จาก AMD ใช้งานได้ทั้งบน Mobile และ PC
21:06 เผยสเปคกล้อง Samsung Galaxy Z Fold 3 จะมีเซลฟี่อยู่บนหน้าจอ 1 ตัว และใต้หน้าจอ 1 ตัว
22:11 ผู้ใช้บ่น Galaxy Buds Pro ออกแบบจุกหูฟังใหญ่เกิน ใส่แล้วปวดหู บางรายหนักจนถึงขั้น “หูอับเสบ”
23:16 Nokia ประเทศไทย บอกใบ้เตรียมเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ แบตใหญ่จุใจ อาจเป็น G10 และ G20
ยอดขาย คือ 在 วรัทภพ รชตนามวงษ์ WARATTAPOB Youtube 的最佳貼文
?แจกหนังสือฟรี?" เงิน มา ง่ายๆ" เขียนโดย อ.วรัทภพ รชตนามวงษ์ มีเนื้อหามากถึง 357 หน้า รับหนังสือฟรี! กดลิงก์นี้ด่วน ของมีจำนวนจำกัด ? https://get.moneyeasybook.com/
เมื่อก่อนเวลาจะทำธุรกิจอะไร คุณจำเป็นต้องมี "เงินในการลงทุน" แต่ถามว่า เงินลงทุนนั้นมาจากไหน?
หลายๆคนก็ต้องบอกว่า ต้องกู้เงินจากธนาคาร หรือ ยืมเงินคนอื่นมาลงทุนแทน
แล้วถ้าเกิดธุรกิจไปไม่รอด บางคนต้องเป็นหนี้สินถึงขั้นล้มละลายเลยก็มี
ผมได้ความรู้มาใหม่ครับว่า ก่อนที่คุณจะหาเงินมาลงทุนทำธุรกิจนั้น คุณจะต้อง "หาเงินด้วยตัวเองก่อน" ครับ แล้วค่อยเก็บเงินมาลงทุน ซึ่งย่อมดีกว่าต้องมาเสี่ยงที่จะกู้เงินอีกครับ
วิธีนี้หลายๆคนอาจรู้จักแล้ว แต่บางคนยังไม่รู้จัก มันคือวิธีอะไรนั้น ติดตามคลิปนี้เลยครับ
? พบกับวิดีโอใหม่ทุกวัน ? ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จและรวย "เร็วขึ้น"
จากประสบการณ์การทำธุรกิจไทย-จีน มาแล้ว 14 ธุรกิจของผม
? คลิกลิงก์แล้วกด “SUBSCRIBE - ติดตาม และกดกระดิ่งแจ้งเตือน ตอนนี้เลย!! ?
https://www.youtube.com/channel/UC6GkGouzOitA6vUzOEBEqwA?sub_confirmation=1
—
// ดูวิดีโอของ "วรัทภพ" ตามเพลย์ลิสต์
? คลิปใหม่ล่าสุด (มีคลิปใหม่ทุกวัน) https://bit.ly/2OCDdvb
========================
?ลงทุนอะไรดี https://bit.ly/2kH0Lm0
?วิธีขายของ LAZADA https://bit.ly/2TUxuRn
?วิธีขายของ SHOPEE https://bit.ly/2lJ5LHe
?วิธีสั่งสินค้าจากจีน https://bit.ly/2IERdmE
?วิธีสร้างรายได้บน YOUTUBE https://bit.ly/2NT8l8L
?การทำตลาดจีน และส่งออกจีน https://bit.ly/2GWdITq
?วิธีขายสินค้าแบบ ดรอปชิป https://bit.ly/2x2sOPf
?WARATTAPOB PODCAST https://bit.ly/2SBlrHR
?วิธีทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ https://bit.ly/2lRZuZn
?วิธีปลดหนี้ https://bit.ly/2PKNplE
========================
??VLOG IN CHINA ชีวิตในจีนของผม https://bit.ly/2AqaFNB
??VLOG IN THAILAND ชีวิตในไทยของผม https://bit.ly/2AUvnWf
========================
?แกะคำคม ข้อคิด นักปราชญ์ และนักธุรกิจ https://bit.ly/2SDzHjh
?5 นาที หาเงินแบบมหาเศรษฐี https://bit.ly/2k9oyuu
?รีวิวหนังสือที่ผมชอบ http://bit.ly/2lRZJnf
?วิธีเริ่มต้นธุรกิจ ในปัจจุบัน https://bit.ly/2ChCNT7
?ความรู้ หาเงิน เพิ่มรายได้ ที่จะทำให้คุณรวยเร็วขึ้น https://bit.ly/2CR2Jqc
?เคล็ดลับ การตลาดและการขาย https://bit.ly/2M8P7cV
?ไอเดียธุรกิจเงินล้าน https://bit.ly/2TrY2IT
?พัฒนาตัวเอง เพื่อความสำเร็จในด้านที่ต้องการ https://bit.ly/2LTPms2
?แรงบันดาลใจและกำลังใจ ในการใช้ชีวิต https://bit.ly/2TKQAbW
?รีวิว ธุรกิจจีนและเศรษฐกิจจีน https://bit.ly/2M8Phkx
?ความรู้ไทย-จีน อื่นๆ http://bit.ly/2kIZaMn
—
// วรัทภพ รชตนามวงษ์ คือ ใคร?
ผม "วรัทภพ รชตนามวงษ์" เป็นคนไทย เกิดที่จังหวัดเชียงใหม่
เป็นผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจมาแล้ว 14 ธุรกิจ
ทั้งในประเทศไทย และ จีน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 จนถึงปัจจุบัน
ผมตั้งใจทำสื่อเพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์
ให้คนรุ่นใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จในชีวิตและรวย “เร็วขึ้น”
?คุณสามารถดูคลิปจากลิงก์ล่างนี้ ว่าผมมีประสบการณ์ธุรกิจอะไรบ้าง?
http://bit.ly/2kHDgt4
—
// ติดตาม วรัทภพ รชตนามวงษ์ เพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.warattapob.com
?SOCIAL
Instagram : https://www.instagram.com/warattapob_rachatanamwong
Facebook : https://fb.me/WarattapobRachatanamwong
YouTube: https://www.youtube.com/c/WarattapobRachatanamwong
Line official : http://line.me/ti/p/~@warattapob
Twitter : https://twitter.com/warattapob
Tiktok : https://www.tiktok.com/@warattapob
?PODCAST
--สำหรับ Android
Soundcloud : https://bit.ly/2QjfVYm
Spotify : https://spoti.fi/2Jcwh6Y
--สำหรับ iOS
Apple Podcast : https://apple.co/2QjW5fM
—
#WARATTAPOB #หาเงินด้วยตัวเอง #วิธีเริ่มต้นธุรกิจ
วิดีโอนี้เกี่ยวกับ วิธีหาเงินด้วยตัวเอง เพื่อสร้างธุรกิจ ลงทุนแค่ 0 บาท | วิธีเริ่มต้นธุรกิจ สำหรับผู้ประกอบการ
LINK https://youtu.be/r1gQA732hgs
LINK https://youtu.be/r1gQA732hgs
ยอดขาย คือ 在 การคิดอัตรากำไรจากต้นทุน และยอดขาย - Facebook 的推薦與評價
การคิดอัตรากำไรจากต้นทุน และ ยอดขาย การคิดอัตรากำไรจะบอกถึงความสามารถในการตั้งราคาสินค้า ในราคาที่เหมาะสมกิจการและผู้ประกอบการพึงพอใจ #repost... ... <看更多>
ยอดขาย คือ 在 7 ขั้นตอน เพิ่มยอดขาย 2-10 เท่า ด้วยจำนวนลูกค้าเท่าเดิม - YouTube 的推薦與評價
7 ขั้นตอน เพิ่ม ยอดขาย 2-10 เท่า ด้วยจำนวนลูกค้าเท่าเดิม | High Ticket Market | iClass University. 118K views · 1 year ago ...more ... ... <看更多>