ถ้าหาเงินจนไม่มีเวลาเหลือ แต่ก็ยังไม่ได้จำนวนเงินที่ต้องการ
แนะนำให้เพิ่ม #รายได้ต่อชั่วโมง หรือ #รายได้ต่อวัน ให้มากขึ้น เช่น
1. พัฒนาตัวเองให้มีความสามารถมากขึ้น
2.ใช้เทคโนโลยี เช่น ใช้อินเทอร์เน็ต ใช้โปรแกรมต่างๆ
3. ออกแบบระบบทำงาน ให้คนอื่นเข้ามาช่วย
เป็นต้น
-วรัทภพ รชตนามวงษ์-
รายได้ต่อชั่วโมง 在 สาระศาสตร์ Facebook 的最讚貼文
ตัวคุณพฤติกรรมแบบไหนบ้างที่คุณทำเป็นประจำ และ พฤติกรรมเหล่านี้จะพอบอกได้ว่าคุณเป็นเก็บเงินอยู่หรือไม่อยู่
#1. เล่นโซเชี่ยลมีเดียบ่อยๆหรือไม่ค่อยได้เล่น
เรามักเห็นบ่อยๆ เวลาขึ้นรถไฟฟ้าคือคนที่กำลังจดจ่อกับโซเชียลมีเดียต่างๆ รู้หรือไม่ว่าเมื่อมองจากมุมมองเรื่องเงิน เรื่องนี้ถือเป็นการใช้เงินอย่างสิ้นเปลืองพอสมควรเลย
รู้หรือไม่ครับว่าคนไทยใช้เวลาเฉลี่ยไปกับโซเชียลมีเดียมีเพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจุบันอยู่ที่ 6-7 ชั่วโมงต่อวัน
เมื่อลองนึกถึง “รายได้ต่อชั่วโมง” เช่น คุณได้ค่าจ้างชั่วโมงละ 100 บาท คุณหมดเวลากับโซเชียลมีเดียไป 5 ชั่วโมงกับ เรื่องดราม่า ตามส่องคนอื่น ดูข่าวซุบซิบ เท่ากับเป็นการสิ้นเปลืองเวลาและเงินไปถึง 500 บาท โดยที่คุณไม่ได้อะไรกลับมาเลย
ยาวเกิน 7 บรรทัดไม่อยากอ่าน ไม่เป็นไรผมทำ วิดีโอให้แล้วที่ https://www.youtube.com/watch?v=CUWwosZaWKs
#2. คุณชอบซื้อตุนคราวละมากๆ หรือซื้อทีละนิด
แค่ดูตู้เย็น ก็จะรู้ทันทีว่าคุณเป็นคนใช้เงินสิ้นเปลืองโดยไม่รู้ตัวหรือไม่
ข้อสังเกตแรก ตู้เย็นที่มีของกินอัดแน่นเต็มตู้จนแทบไม่มีที่ว่างคือ “ตู้เย็นของคนมักเก็บเงินไม่เก่ง” เพราะการมีอาหารเต็มตู้ทำให้ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในตู้บ้าง และ น่าจะมีอาหารที่หมดอายุแล้ว ซึ่งเท่ากับทิ้งเงินไปเปล่าๆ นอกจากนี้ก็ยังต้องจ่ายค่าไฟเพื่อแช่ของที่กินไม่ได้อีกด้วย
คนที่ขาดทุนได้ง่ายคือคนที่ชอบ “ซื้อของตุน” คุณอาจจะคิดว่าการซื้อของกินมาตุนไว้ตอนลดราคาดูเหมือนจะได้กำไร แต่การซื้อของในปริมาณมากทำให้จัดการตู้เย็นลำบาก และเป็นการสะสมของในตู้เย็น ยิ่งเป็นคนขี้เกียจเก็บกวาด จัดระเบียบด้วยแล้ว ยิ่งควรหลีกเลี่ยงการซื้อของมาตุนจะดีกว่า
#3. เวลาได้ใบเสร็จ คุณทิ้งหรือเก็บไว้
คงเคยได้ยินมาบ้างว่าคนที่เก็บใบเสร็จไว้เต็มกระเป๋าสตางค์คือคนที่เก็บเงินไม่ได้ ไม่สามารถจัดระเบียบหรือจัดการสิ่งต่างๆ ได้ จึงมีแนวโน้มสูงที่จะเป็นคนหละหลวมเรื่องเงิน
ถ้าอย่างนั้น การไม่เก็บใบเสร็จเลยเท่ากับจะเป็นคนเก็บเงินเก่งใช่หรือเปล่า ?
คำตอบคือ “ไม่ใช่” เพราะการไม่เก็บใบเสร็จจะยิ่งทำให้เข้าใกล้ลักษณะความเป็นคนเก็บเงินไม่อยู่มากขึ้นไปอีก วิธีที่จะทำให้เก็บเงินได้คือ เก็บใบเสร็จและตรวจสอบรายละเอียดเหล่านั้นต่างหาก คุณแยกเก็บใบเสร็จที่ได้มาแบ่งตามหมวดหมู่ ของกิน ของใช้จำเป็น ของไม่จำเป็น เสื้อผ้า ฯลฯ เพื่อควบคุมบัญชีรายรับ-รายจ่ายให้สมดุลกัน รวมไปถึงจัดการเงินเก็บด้วย
#4. คุณพกเงินไว้ใช้เท่าไหร่ 300 บาทหรือ 3,000 บาท
มีคนจำนวนมากที่ใส่เงินไว้ในกระเป๋าสตางค์เพียง 300 บาทด้วยเหตุผลว่าไม่อยากใช้เงินสิ้นเปลือง เคล็ดลับของการไม่ใช้เงินคือการไม่พกเงินเกินจำเป็น ในแง่หนึ่งวิธีนี้ก็เป็นวิธีที่ถูกต้อง
แต่อีกด้านก็มีความเป็นไปได้สูงที่คุณจะค่อยๆ ขาดทุนทีละน้อยในส่วนที่มองไม่เห็น
เวลาคุณพกเงินในกระเป๋าเพียง 300 บาท แต่ละครั้งที่เงินไม่พอ คุณก็ต้องเดินวุ่นหาตู้เอทีเอ็มใกล้ๆ ซึ่งถ้าเป็นตู้ของธนาคารอื่นก็ต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นไปอีก ( อย่าลืมว่าตู้ ATM กดเงินต่ำสุดคือ 100 บาท โดนค่าธรรมเนียม 10 บาท เหลือเงิน 90 บาทก็กดเอามาใช้ไม่ได้แล้ว )
จำนวนเงินที่ควรมีไว้ในกระเป๋าสตางค์อยู่ที่ประมาณ 3,000 บาทอาจมากหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้ในชีวิตประจำวันเท่าไหร่ เช่น ในหนึ่งสัปดาห์ใช้เงินค่ารถ ค่ากิน รวมทั้งหมด 2,000 บาท เราก็พกเงินไว้ 3,000 บาทเผื่อเวลาฉุกเฉิน
และการใช้เงินเป็นรายสัปดาห์ยังช่วยฝึกคุณให้รู้จักบริหารเงินไปในตัวอีกด้วยครับ
#5. คุณเป็นทาสการตลาดหรือเปล่า
หลายคนคงคิดว่า “ควรซื้อของช่วงลดราคาสิ จะได้ช่วยลดรายจ่าย ได้ของแพงในราคาถูกกว่าคนอื่นดีจะตาย” ว่าแต่ว่า คนที่ซื้อของช่วงลดราคาบ่อยๆ เป็นคนเก็บเงินเก่งจริงหรือ…
คำตอบคือ “ไม่ใช่” เพราะยิ่งชอบซื้อของช่วงลดราคามากเท่าไร ประเภทเห็นของถูกเมื่อไรตาจะเป็นประกายทันที เหตุผลคือ ช่วงลดราคาจะกระตุ้นพฤติกรรม “ซื้อเยอะเกินไป” ได้ง่ายนั่นเอง ป้าย SALE มีมนตร์สะกดให้คนซื้อกระทั่งของที่ไม่ได้วางแผนจะซื้อหรือของที่ไม่จำเป็นต้องใช้เลยก็มี ( ไม่เชื่อลองถามแฟนหรือเพื่อนผู้หญิงของคุณดู คำว่า Sale ส่งผลกับพวกเธอมากแค่ไหน )
แต่ช่วงลดราคาก็มีข้อดีคือ เราสามารถซื้อของในราคาถูกกว่าราคาป้าย แต่ขอเสียคือคุณมักจะซื้อของที่ไม่ได้อยู่ในรายการที่จะซื้อด้วย เพราะฉะนั้น คุณต้องควบคุมความอยากให้อยู่ด้วยนะครับ
#6. คุณซื้อก่อนคิดหรือคิดก่อนค่อยซื้อ
คนส่วนใหญ่ที่ติดนิสัยซื้อของที่ตัวเองอยากได้ทันทีมักเป็นคนเก็บเงินไม่อยู่ เพราะการ “รอคอย” เป็นกุญแจสำคัญในการเก็บเงิน แต่ถ้าคิดว่า จะต้องซื้อเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นของจะหมดแล้วต้องรอนาน เลยตัดสินใจใช้เงินในอนาคตไปก่อนด้วยการจ่ายผ่านบัตรเครดิต ชีวิตคุณก็จะตกอยู่ในวังวนของการตามใช้หนี้ตลอดไป
มีอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้แน่ใจว่าเราอยากได้ของชิ้นนั้นจริงๆ หรือเปล่าคือการไปดูของที่ร้าน 3 ครั้ง และเมื่อไปดูครั้งที่ 3 แล้วยังรู้สึกอยากได้จริงๆ ค่อยตัดสินใจซื้อ แต่มีข้อแม้ว่าเราต้องมีเงินเพียงพอที่จะซื้อแล้วเท่านั้นนะครับ
ที่ต้องคิดก่อนซื้อ เพราะบางครั้งสิ่งที่เราอยากได้นั้นอาจจะเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ เห็นนางแบบในรูปใส่แล้วสวยจัง ซื้อมาใส่บ้างดีกว่า แต่พอได้มาจริงๆ กลับใช้เพียงครั้งสองครั้งแล้วก็ไม่ใช้อีก เป็นการเสียเงินอย่างเปล่าประโยชน์
รายได้ต่อชั่วโมง 在 ค่าแรงขั้นต่ำ 492 บาทเป็นไปได้? ค่าครองชีพสูง รายได้ไม่พอรายจ่าย 的推薦與評價
แบงก์ทั่วโลกระส่ำ! แห่ปลดพนักงาน เซ่นพิษเศรษฐกิจถดถอย I TNN ชั่วโมง ทำเงิน I 26-06-66. TNN Online. ... <看更多>
รายได้ต่อชั่วโมง 在 ทำงาน 1 ชั่วโมง 10 ประเทศที่มีค่าแรงขั้นต่ำสูงที่สุด เขาได้เงินเท่าไร ... 的推薦與評價
หากเทียบค่าแรงขั้นต่ำไทยกับฝรั่งเศสไม่ได้ต่างกั นมากนะคะ ... ฝรั่งเศสเก็บภาษีรายได้ส่วนบุคคลโหดมาก ... ค่าแรงขั้นต่ำคือ $25.51 = 612 บาทต่อชั่วโมง. ... <看更多>