📍 แบบ บอจ. เอกสารสำคัญที่ผู้ประกอบการควรรู้
👉 บอจ.1 คำขอจดทะเบียนบริษัท หรือหน้าหนังสือรับรอง
- คือ เอกสารที่รับรองว่าบริษัทหรือธุรกิจที่ดำเนินกิจการดังกล่าวนี้ ได้ทำการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
* ความพิเศษคือต้องพิมพ์เอกสารออกมาเป็นหน้าหลัง
👉 บอจ.2 หนังสือบริคณห์สนธิ
- คือ เอกสารที่ผู้เริ่มก่อการได้จัดทำขึ้นและได้ลงลายมือชื่อร่วมกันตามข้อกำหนดของกฎหมายในการจัดตั้งบริษัทจำกัด โดยมีข้อมูลที่สำคัญคือ
1. ชื่อของบริษัท ทั้งภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
2. จังหวัดที่ตั้งของบริษัท
3. วัตถุประสงค์ของบริษัท
4. รายละเอียดทุนของบริษัท
5. รายละเอียดและลายเซ็นของผู้เริ่มก่อการ ที่เข้าชื่อร่วมกัน
👉 บอจ.3 รายการจดทะเบียนจัดตั้ง
- คือ แบบที่แสดงให้เห็นถึงรายละเอียดทุนของบริษัท รายละเอียดหุ้นทั้งหมดของบริษัท จำนวนเงินที่ได้ใช้แล้วในแต่ละหุ้น จำนวนเงินที่บริษัทได้รับค่าหุ้น หรือชื่อกรรมการผู้ที่ลงลายมือชื่อผูกพันบริษัท
👉 บอจ.4 รายการจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติม และ/หรือ มติพิเศษ
- คือ เอกสารที่จะมีความสำคัญเฉพาะตอนที่ต้องการแก้ไขเพิ่มเติมหรือมีมติพิเศษอะไรบางอย่างในเรื่องการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ถ้าไม่มีการแก้ไขพิ่มเติมในเรื่องการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทหรือจดทะเบียนนิติบุคคลก็ไม่ต้องใช้
👉 บอจ.5 สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น
- คือ แบบที่แสดงให้เห็นว่าในบริษัทนี้มีใครเป็นผู้ถือหุ้นอยู่บ้าง โดยมีข้อมูลสำคัญ เช่น มูลค่าทุนจดทะเบียน จำนวนหุ้นและมูลค่าราคาพาร์ของหุ้น เลขหมายหุ้น และวันที่ลงทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้น เป็นต้น
🙏ฝากกดติดตามแฟนเพจ บัญชีอย่างง่าย
#เพื่อรับข่าวสารข้อมูลบัญชีภาษีทันต่อเวลา
Youtube : https://bit.ly/3lnhpBF
Line@ : https://bit.ly/2TI1mSr
Instagram : https://bit.ly/2Y05mzW
Twitter : https://bit.ly/3j1cGH5
Blockdit : http://bit.ly/3qRsmxt
Tiktok : http://bit.ly/2McBHR3
#บัญชีอย่างง่าย #ครูอัส #วางระบบบริษัท #วางระบบภาษี #SMEไทยยั่งยืน #ธุรกิจมั่นคง #เงินสดหมุนเวียนในกิจการ
同時也有9部Youtube影片,追蹤數超過19萬的網紅เรียนเหอะ อยากสอน,也在其Youtube影片中提到,other , others , the other , the others , another | ติว Tuesday by เรียนเหอะ อยากสอน ติว Tuesday วันนี้ครูอายจะมาสอนความแตกต่าง ระหว่างคำว่า other , ...
「แบบ ภาษาอังกฤษ」的推薦目錄:
- 關於แบบ ภาษาอังกฤษ 在 บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ Facebook 的最佳解答
- 關於แบบ ภาษาอังกฤษ 在 Dek Thai Klai Baan เด็กไทยไกลบ้าน Facebook 的最讚貼文
- 關於แบบ ภาษาอังกฤษ 在 BeamSensei Facebook 的最佳解答
- 關於แบบ ภาษาอังกฤษ 在 เรียนเหอะ อยากสอน Youtube 的最佳貼文
- 關於แบบ ภาษาอังกฤษ 在 ZeemUzma Youtube 的最佳貼文
- 關於แบบ ภาษาอังกฤษ 在 Goods Mystore15 Youtube 的最佳解答
- 關於แบบ ภาษาอังกฤษ 在 (Quiz) วิธีฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษไปเลย โดยไม่แปลเป็นไทยในหัวก่อน ... 的評價
- 關於แบบ ภาษาอังกฤษ 在 ทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง ภาษาอังกฤษ - Facebook 的評價
- 關於แบบ ภาษาอังกฤษ 在 วิธีตั้งชื่อเฟส น่ารักๆ ชื่อเฟสเท่ๆ ภาษาอังกฤษและภาษาไทยในปี 2022 的評價
แบบ ภาษาอังกฤษ 在 Dek Thai Klai Baan เด็กไทยไกลบ้าน Facebook 的最讚貼文
มาเรียนรู้คำศัพท์ยากๆ แบบ Academic English กันดูบ้างค่ะ ✌️คำนี้ส่วนใหญ่จะใช้ในความหมายที่ไม่ค่อยดี แปลว่ามีมากเกินไปค่า ยกตัวอย่างเช่น
I have a plethora of shirts, so I donate some.
The plethora of regulations is confusing.
ลองอ่านคำนิยามแล้วแต่งประโยคด้วยตัวเองดูนะ ^^
.
เราฝึกวันละนิดก็เก่งขึ้นทุกวัน ไม่มีคำว่ายากเกินไปหรือเป็นไปไม่ได้! อยากเก่งภาษาต้องให้เวลากับมันนะคะ ❤️
#ภาษาอังกฤษ #ศัพท์ภาษาอังกฤษ #เก่งอังกฤษ #dek65 #dek66
แบบ ภาษาอังกฤษ 在 BeamSensei Facebook 的最佳解答
Beam’s Story เรื่องของบีมและญี่ปุ่น (EP22)🌸⛩
【สอบเข้ามหาลัย เตรียมตัวยังไง เลือกมหาลัยอะไรบ้าง !!!】
ปล.นานแล้วนะ เกิน 10 ปี ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 📚
แต่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับน้องๆและผู้อ่านค่ะ 🏫
บีมเตรียมอ่านหนังสือสอบเข้ามหาลัยตั้งแต่ช่วงปิดเทอมเล็กม.4 แต่ตอนนั้นอ่านแต่ภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียวนะ คือมีเวลาว่างก็พยายามอ่านทบทวน ท่องศัพท์ เอาข้อสอบเก่าๆมาทำ ทำทุกปิดเทอมเลย
ก็ยอมรับว่าขยันมากมาย ที่ขยันไปก็ไม่ใช่อะไร
นอกจากภาษาญี่ปุ่นกับคอมพิวเตอร์คือบีมไม่มีอะไรเรียนได้ดีเลยอะ 555
จนประมาณปลายเทอมม.5มั้งถึงเริ่มเรียนพิเศษวิชาที่จำเป็นต้องใช้ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สังคม
ใจนึงบีมแอบเสียดายนะ กับความรู้(ที่ไม่ค่อยเข้าหัว555)ในสายวิทย์ที่บีมเรียนมา หลายๆคนคิดว่าถ้าบีมเรียนภาษาก็ได้ ไปทางสายวิทย์ก็ได้มันน่าจะต่อยอดออกไปได้หลายอย่าง ได้ทั้งวิชาสายวิทย์ แล้วก็ยังได้ภาษาอีก
ซึ่งบีมก็เคยคิดแบบนั้นแหละ บีมถึงเลือกเรียนสายวิทย์มา แต่พอมาเทียบกับความสุขในอนาคตที่น่าจะไม่มี เพราะทรมานกับการเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบแล้ว
ก็เลยตัดสินใจ "เท" ทุกอย่างไปหมด เป้าหมายอย่างเดียวคือ “ฉันต้องเข้ามหาวิทยาลัยภายได้ภาควิชาเอกภาษาญี่ปุ่นให้ได้”
สมัยรุ่นที่บีมสอบเป็นรุ่นที่เรียกว่า Admission โดยใช้ผลสอบ Anet-Onet +คะแนน Gpax ที่โรงเรียนรวมกัน บอกตรงๆว่าคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่องจริงๆ คุยกับใครไม่รู้เรื่องด้วย เพราะรอบตัวเราไม่มีใครเป็นเหมือนเราเลย เพราะเราตัดใจแบบทิ้งทุกสิ่งอย่างแล้วเบนไปสายภาษา 100%
อาจารย์แนะแนวก็ช่วยแนะนำมากไม่ได้ นอกจากบอกว่าให้พยายามเข้านะ เธอน่าจะทำได้แหละ
สุดท้ายก็ช่วยกันดูกับแม่อย่างเดียวว่าเราจะเลือกที่ไหนบ้าง ใช้คะแนนสอบของอะไรบ้าง สรุปก็คือ เอกภาษาญี่ปุ่นที่บีมจะเลือกมี
1.อักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย
2.ศิลปศาสตร์ ธรรมศาสตร์
3.มนุษย์ศาสตร์ เกษตร
4.อักษรศาสตร์ ศิลปากร
สมัยบีมให้เลือกได้ 4 อันดับค่ะ ซึ่งบีมเลือกตามนี้ เรียงลำลับตามนี้เลย วิชาที่ใช้สอบคือ
A-net ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ภาษาญี่ปุ่น
O-net ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สังคม
บีมถึงได้เทเลขกับวิทย์ได้ด้วยประการฉะนี้ 555
เทนี่คือ เทหมดหน้าตักนะคะ คือไม่แตะ ไม่อ่าน ไม่ทบทวน ไม่อะไรทั้งสิ้น
บีมขอไม่พูดถึงมหาลัยอื่นเพราะบีมจำข้อมูลไม่ได้ 555 จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า บางมหาลัยทุกคนต้องเริ่มเรียนนับ 1 ใหม่หมด บางมหาลัยต้องใช้คะแนนญี่ปุ่นเท่านั้นถึงเข้าได้ สามารถเข้าไปเรียนต่อระดับกลางได้เลย ซึ่งบีมขอยกตัวอย่างธรรมศาสตร์
ธรรมศาสตร์ในตอนนั้นหากจะเข้าเอกญี่ปุ่นรับ 2 แบบ คือ
1. มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นมาก่อน ใช้คะแนนญี่ปุ่นยื่น ถ้าติดก็เข้าไปเลย 25 คนของประเทศ
2. ไม่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นมาก่อน ใช้คะแนนอื่นที่ไม่ใช่ญี่ปุ่นยื่น ห้ามมีคะแนนญี่ปุ่น เข้าไปเอกรวม ลงเรียนวิชาญี่ปุ่นแล้วไปแข่งกันเข้าเอกทีหลัง
ซึ่งบีมเลือกแบบแรก บีมก็ใช้คะแนนญี่ปุ่นยื่นไปเลย แต่มาคิดย้อนหลังก็ใจกล้ามากนะ ไม่ได้เรียนศิลป์ญี่ปุ่นมาด้วย เรียนพิเศษเป็นงานอดิเรก แต่ประเมินตัวเองจากเพชรยอดมงกุฎที่ผ่านมา ถ้าพยายามมากขึ้นก็น่าจะติดจุฬาได้อยู่
พูดตามตรงว่า คณะที่บีมใฝ่ฝันคืออักษรศาสตร์จุฬา เพราะด้วยความที่เราได้รับอิทธิพลจากสังคมรอบข้าง ใครๆก็พูดว่าจุฬาๆๆๆ บีมต้องเข้าจุฬาให้ได้
แต่บีมไม่ได้คิดว่ามหาลัยอื่นไม่ดีนะ เพียงแต่ไม่มีข้อมูลในหัวเลยตอนนั้น ไม่มีอิมเมจเลยว่ามหาลัยอื่นเป็นยังไง รู้จักแค่อักษรจุฬาจริงๆ บีมอยากจะไปยืนจุดที่บีมคิดว่าบีมน่าจะพอใจถ้าบีมทำได้
จะพูดเรื่องการเตรียมตัวสอบ ทำไมมันยาวขนาดนี้ได้ 555
บีมค่อนข้างเป็นเด็กที่มีระเบียบกับชีวิต นอกจากการเขียนบันทึกแล้วบีมจะตั้งเวลาและตารางไว้เลยว่าวันนี้บีมจะทำอะไรบ้าง ต้องเสร็จกี่โมง และบีมจะภูมิใจมากถ้าวันนั้นการใช้ชีวิตของบีมเป็นไปตามตารางที่บีมตั้งไว้ ซึ่งทุกวันนี้บีมก็ยังมีนิสัยอย่างนั้นอยู่นะ 555 มันถึงทำเพจมาได้นานขนาดนี้อะทุกคนนน
ตั้งแต่เด็กๆพ่อแม่ไม่เคยบังคับให้บีมอ่านหนังสือเลย บีมจะอ่านเอง คือเป็นคนไม่เครียดเรื่องอะไรในชีวิตเลย ยกเว้นอย่างเดียวคือเรื่องเรียน เกรดบีมจะตกกว่า 3.8 ไม่ได้ เคยแค่เทอมเดียว ได้ 3.76 บีมร้องไห้ไม่หยุดเลย 555555 บ้าบออออออออออออออ
คือเราก็มีเป้าหมายของเราอะเนอะ เราเป็นคนที่มีนิสัยตั้งเป้าหมายของตัวเองไว้สูงมากตั้งแต่ตอนเด็กๆ เป้าหมายสูงๆเพื่อทำให้ตัวเราพยายามก้าวไปให้ถึง แต่พอร่วงนี่เจ็บปวดรวดร้าวมากจ้า
ที่บ้านไม่เคยพูดว่าถ้าแกสอบไม่ได้เกิน 3.8 จะไม่ได้ค่าขนมไรงี้ ไม่มีเลย เป็นคนที่กดดันตัวเองเอง ทำตัวเองล้วนๆ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
ดังนั้นตอนปลายๆม.5 บีมก็เริ่มจริงจังละ บีมตั้งไว้เลยว่าวันนี้บีมจะอ่านทบทวนวิชาอะไร กี่โมงถึงกี่โมง ต้องนอนกี่โมงตื่นกี่โมง
บีมวางหนังสือเรียงไว้เลย ทำตารางไว้เลยของทั้งปี คนส่วนมากทำตารางเป็นวันเป็นสัปดาห์เนอะ ของบีมคือ มีเขียนไว้ตั้งแต่ วัน สัปดาห์ เดือน ปี บ้าไปแล้ว
วางหนังสือเรียงไว้เต็มห้อง
อันนี้สำหรับอ่านวันนี้ อันนี้พรุ่งนี้ แยกชัดเจน แบ่งเวลาชัดเจน เทคนิคของบีมคือ
1. ใช้เวลาครึ่งปีอ่านทบทวนทั้งวิชาที่จะใช้ทั้งหมดก่อน ให้มีข้อมูลวนไปวนมาให้อยู่ในหัว
2. ไปอ่านที่ไหนมาไม่รู้ว่าไม่ควรอ่านหนังสือดึกๆ ควรอ่านเช้าๆเพราะจะจำได้ดี บีมทำขนาดที่ว่าบีมนอนสอง-สามทุ่ม แล้ว ตื่นตี3 ตี4 ทุกวันเพื่ออ่านหนังสือ 555 แล้วพอตี 5 ก็แต่งตัวไปโรงเรียน บังคับให้พ่อซื้อแบรนด์ซื้อวีต้ามากินด้วย ทำแบบนี้อยู่หลายเดือนเลยนะ
จริงๆบีมว่าอาหารเสริมไม่น่าช่วยอะไรหรอกมั้ง แต่ช่วยทางจิตใจได้มากเลย 55555555
3. หลังจากอ่านทบทวนทุกอย่างเสร็จ ก็เริ่มทำข้อสอบเก่าย้อนหลัง 10 ปี ของทุกวิชาที่ต้องใช้
4. การทำข้อสอบของบีมบีมไม่ได้ทำในหนังสือเลย บีมซื้อกระดาษคำตอบมาแบบที่ใช้สอบที่โรงเรียน อิใบเขียวๆอะ 555
แล้วเขียนชื่อวิชา เขียนปีของข้อสอบ แล้วกาในกระดาษคำตอบเลย (บีมยังเก็บซากไว้อยู่นะ)
5. ข้อสอบฉบับเดียวไม่ได้ทำครั้งเดียว เพื่อไม่ให้เบื่อ บีมทำสลับไป สามวิชา อังกฤษไทยสังคม ย้อนหลังประมาณ 10 ปี ข้อไหนผิดเราก็ไปอ่านเฉลยดูว่าผิดได้ยังไง จำที่เราผิดพลาด แล้ววนทำใหม่อีกนะ
สุ่มเอาว่าจะได้ทำฉบับไหน
6. ภาษาญี่ปุ่นก็เช่นกัน บีมท่องศัพท์ในหนังสือได้ทุกคำ เพราะบีมคิดว่าเรียนมาแล้วมันไม่ควรลืม โอ๊ย 555
แล้วบีมเรียนด้วยหนังสือ Minna no Nihongo นะตอนนั้น ซึ่งเด็กที่เรียนศิลป์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่เรียนด้วย Akiko to Tomodachi
ด้วยความที่บีมคิดว่าบีมอาจจะสู้เด็กศิลป์ญี่ปุ่นไม่ได้ เพราะหนังสือแบบเรียนสองอย่างนี้ไม่เหมือนกัน บีมไปหาซื้อ Akiko to Tomodachi มาหมด 6 เล่มเลย แล้วอ่านตั้งแต่แรกยันจบ ลิสต์คำศัพท์และรูปไวยากรณ์ที่ไม่มีในหนังสืออีกเล่มที่บีมใช้เรียน
7. ในส่วนของข้อสอบชุดนึงบีมทำหลายรอบเหมือนกัน ทำวนไปโดยการสุ่ม จะได้จำไม่ได้ว่าทำไปแล้วหรือยังไม่ได้ทำ พยายามดูว่าเราผิดตรงไหน ต้องหาคำตอบให้ได้ บีมตั้งเป้าไว้ว่าบีมต้องทำคะแนนภาษาญี่ปุ่นให้ได้เกิน 90 เต็ม 100 ทุกฉบับย้อนหลัง (ตอนทำก็ได้บ้างไม่ได้บ้างนะ แต่ไม่เคยได้ 100 เต็ม ฮ่าๆๆ)
8. สามเดือนหลังบีมก็เลิกอ่านหนังสือแล้ว ทำข้อสอบเก่าๆอย่างเดียว อันไหนไม่เข้าใจค่อยไปเปิดอ่านทบทวน ซึ่งชีวิตม.6 บีมก็วนอยู่แค่นี้แหละ จนถึงวันสอบ
------------------------
เป็นไงสาวอึดมั้ย
ยอมรับว่าเป็นคนมีวินัยในตัวเองมากจริงๆ
ใครมาชมก็คือจะไม่ถ่อมตัวเลย เพราะเรารู้ว่าตัวเองมีนิสัยแบบนั้น
ก็ภูมิใจว่าความมีวินัยของเราคือสิ่งที่ทำให้เรามีวันนี้นะ ควรภาคภูมิมากกว่าถ่อมตัว 555555555555555555
อยากรู้แล้วใช่มั้ยวันสอบเป็นยังไง
น้ำตาแตกหลายรอบเลยจ้า
รออ่านตอนต่อไปนะ
*ตอนเก่าๆไถหาเอานะ*
BeamSensei
แบบ ภาษาอังกฤษ 在 เรียนเหอะ อยากสอน Youtube 的最佳貼文
other , others , the other , the others , another | ติว Tuesday by เรียนเหอะ อยากสอน
ติว Tuesday วันนี้ครูอายจะมาสอนความแตกต่าง ระหว่างคำว่า other , others , the other , the others , กับ another ว่าใช้ต่างกันยังไง แปลว่าอะไร
other แปลว่า อื่น ๆ
other กับ the other ใช้ต่างกันยังไง
other แบบไม่มี the คือ อื่น ๆ ทั่วไปแบบไม่เจาะจง
the other คือ อื่น ๆ แบบเจาะจง หรือ "อันอื่นที่เหลือ"
other ต้องมีคำนามตามไหม
other ใช้ได้ 2 แบบ คือ
1. มีคำนามตาม ( ใช้เป็น determiner หรือคำนำหน้านาม )
2. ไม่มีคำนามตาม ( ใช้เป็น pronoun หรือคำสรรพนาม )
other กับ others ต่างกันยังไง
the other กับ the others ต่างกันยังไง
ถ้าจะใช้แบบไม่มีคำนามตาม
ต้องดูด้วยว่าเป็นเอกพจน์ หรือพหูพจน์
ถ้าเป็นพหูพจน์ ต้องเติม -s ด้วย เป็น others หรือ the others
other กับ another ต่างกันยังไง
other แปลว่า อื่นๆ
another แปลว่า อีกอันนึง
1. มีอยู่แล้วอันนึง ขอเพิ่ม"อีกอันนึง"
2. ไม่เอาอันนี้ ขอ"อีกอันนึง"
each other แปลว่าอะไร
each other แปลว่า กันและกัน
one another แปลว่าอะไร
one another แปลว่า กันและกัน
each other กับ one another ใช้ต่างกันยังไง
each other คือ กันและกันแบบ 2 คน
one another คือ กันและกันแบบ 3 คนขึ้นไป
เจอกันกับ ติว Tuesday ทุกวันอังคาร
และ พักกลางวัน ทุกวันศุกร์นะคะ
เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองฟรี กับครูอาย เรียนเหอะ อยากสอน ได้ที่ไหนบ้าง?
▸ Youtube : https://www.youtube.com/เรียนเหอะอยากสอน
▸ Facebook : https://www.facebook.com/reanher
▸ Instagram : https://www.instagram.com/reanher.ig
กดที่นี่เพื่อ Subscribe ช่องนี้กันได้นะคะ ^^
https://www.youtube.com/channel/UCRX0VwKduaOHqlGeIdeOAUg?sub_confirmation=1
ติดต่อสปอนเซอร์
▸ Email : reanher@gmail.com
ครูอาย สอนภาษาอังกฤษ #เรียนเหอะอยากสอน #ติวTuesday
แบบ ภาษาอังกฤษ 在 ZeemUzma Youtube 的最佳貼文
วันนี้มาพร้อมกับสาระ... หรือเปล่า 5555
ชวนมาจัดห้องนอนใหม่กันจ้า ส่วนตัวพี่คิดว่าการจัดห้องจัดโต๊ะมันเป็นเหมือน meditation อย่างนึงคือเหมือนจัดจิตใจเราไปด้วย พอจัดห้องเสร็จจะรู้สึก in control แบบ เอ้อ ชีวิตชั้น ชั้นสุขสงบไม่วุ่นวาย ไม่รู้คนอื่นเป้นหรือเปล่านะ 5555
แต่เอาจริงๆ จัดห้องมันดีมากๆๆ เลย ใครลองจัดแล้วถ่ายรูปหลังไมค์มาให้ดูกันได้น้า พี่ชอบดู อิอิ อันนี้พี่ถ่ายไว้นานแล้วแต่ยังไม่ได้ตัด ตั้งแต่ก่อนที่จะทำชั้นหนังสือใหม่นะค้า ตอนนี้ห้องนอนเปลี่ยนไปนิดนึงละ เดี่ยววันหลังทำวิดิโอให้ดูกันใหม่นะ อิอิ
ใครอยากได้ไอเดียจัดห้องสวยๆ ไปดูได้เลย
https://spiceee.net/th/articles/2943
Easter Egg Question
"ถ้าให้เลือกเปลี่ยนอะไรในห้องนอนตัวเองได้หนึ่งอย่าง อยากจะเปลี่ยนอะไร แล้วทำไมถึงเลือกสิ่งนี้"
คอมเมนต์ตอบด้านล่างนี้ก่อนวันที่ 31 ธันวาคม เพื่อลุ้นรับรางวัลจากเด็กไทยไกลบ้านจ้า รออ่านคอมเมนต์ทุกคนเล้ย
อย่าลืมช่วยกัน Share, Like, Subscribe นะค้าเราจะได้อยู่ด้วยกันไปนานๆ
ขอบคุณที่ติดตามเด็กไทยไกลบ้านค่ะ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Hi! I am Zeem! :) Thanks for watching the video.
Don't forget to subscribe and FOLLOW ME! XD
Facebook : Dek Thai Klai Baan เด็กไทยไกลบ้าน
YouTube : https://www.youtube.com/user/dekthaiklaibaan
Instagram: dekthaiklaibaan
Twitter: dekthaiklaibaan
Blog : http://dekthaiklaibaan.blogspot.com/
https://dekthaiklaibaan.wordpress.com/
Email: dekthaiklaibaan@gmail.com
Line: @nri0129q
Credit: Music from iMovie and Kevin MacLeod (Royalty-Free Music http://incompetech.com)
FAQ
- Camera: Canon T3i
- I'm a Muslim from Thailand.
- I was an exchange student with AFS and went to college in the US as well.
Help us caption & translate this video!
https://amara.org/v/da30/
แบบ ภาษาอังกฤษ 在 Goods Mystore15 Youtube 的最佳解答
การทักทายภาษาอังกฤษนั้น โดยปกติเค้าจะเรียกนามสกุล หากวัฒนธรรมตะวันตก อย่างพิมชื่อ Pim Petersen เค้าจะเรียก Mrs. Petersen
บทสนทนา
A: Hello/Hi My name is Pim. How are you? สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ พิม คุณสบายดีไหม
B: I am fine. And you? ฉันสบายดี แล้วคุณล่ะ
A: I am fine. thank you ฉันสบายดี ขอบคุณค่ะ/ครับ
ประโยคคำว่า My name is Pim = I am Pim
ประโยคถามว่าสบายดีไหมถามได้ 3 แบบ
็How are you ?
How are you doing?
How do you do?
แบบ ภาษาอังกฤษ 在 ทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง ภาษาอังกฤษ - Facebook 的推薦與評價
01:49. ฝึกออกเสียงคำศัพท์ ภาษาอังกฤษ. 20 ธ.ค. 2565 · ดู 9 พัน ครั้ง. ... <看更多>
แบบ ภาษาอังกฤษ 在 วิธีตั้งชื่อเฟส น่ารักๆ ชื่อเฟสเท่ๆ ภาษาอังกฤษและภาษาไทยในปี 2022 的推薦與評價
ตั้งชื่อเฟสแบบไม่มีความหมายอะไรเลย – แค่เอาประโยคที่คิดขึ้นมาได้ตั้งชื่อแค่นั้นเลยไม่มีอะไรมาก คิดอะไรได้ก็ตั้งไปเลย ถึงแม้ว่าจะไม่มีความหมายกับใครเลยก็ตาม ซึ่ง ... ... <看更多>
แบบ ภาษาอังกฤษ 在 (Quiz) วิธีฝึกคิดเป็นภาษาอังกฤษไปเลย โดยไม่แปลเป็นไทยในหัวก่อน ... 的推薦與評價
ASMR | ทายศัพท์จนหลับไป EASY- อังกฤษ -ไทย แบบ คล้องจอง (Tokyo Rain V.) | คำนี้ดี SLEEPY EP.18B ... THE STANDARD. THE STANDARD ... 428K views 2 years ... ... <看更多>