ประสบการณ์หาทำ หลังจากโดนป้ายยา เครื่องทำกาแฟ Staresso SP-300 ไม่พอ ยังจะโดนป้ายยาก้านชง และแท่นชงมาอีก งั้นก็ต้องเอามาลองทำกาแฟกันดูซักหน่อยครับ...
สัปดาห์ก่อนหลังจากที่ได้เครื่องทำกาแฟ Mirage Staresso SP-300 Gen3 มาทำกาแฟ Espresso ได้ถูกใจแล้ว ก็มีคนแนะนำก้านชงกาแฟ ซึ่งลองไปดูตามรีวิวแล้วมันก็สะดวกดีในการทำกาแฟ และไม่ต้องใช้อุปกรณ์เยอะ ถอดล้างได้สะดวก ก็เลยลองซื้อมาใช้ดูครับ...
แถมสั่งแท่นวางชุดก้านชงที่ทำจากไม้มาใช้งานด้วยเลย...
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าเครื่องทำกาแฟ Staresso SP-300 เป็นเครื่องทำกาแฟ Espresso แบบใช้มือกด ไม่มีระบบทำน้ำร้อนในตัว ดังนั้นเวลาทำกาแฟดื่มอาจจะต้องต้มน้ำร้อนไว้ก่อนเพื่อนำมารินใช้งานต่างหาก หรือถ้าใครมีตู้กดน้ำร้อนก็ประหยัดเวลาไปครับ...
หลัก ๆ อุปกรณ์ชุดก้านชง จะถูกนำมาใช้แทน ส่วนล่างของเครื่องชงกาแฟ Staresso SP-300 เลย ไม่ต้องใช้ของเดิม แม้แต่ตัวตะกร้าใส่กาแฟบด ก็ต้องเปลี่ยน เพราะตัวก้านชงจะมีหน้ากว้างรองรับแค่ 51 มิลลิเมตร จึงต้องใช้ Basket ขนาด 51 มิลลิเมตรด้วยนั่นเอง...
เพื่อความชัวร์ในการลองทำครั้งนี้ ผมก็เลยลองทำ 3 แบบ ก็คือ ใช้ส่วนแรกชงแบบ Original จาก Staresso SP-300, แบบที่ชงจากก้านชงและ Basket ที่ซื้อมาด้วยกัน และแบบสุดท้าย ใช้ Basket ที่มาจากเครื่อง Espresso Machine (พอดีมันมีขนาดหน้ากว้าง 51 มิลลิเมตรเท่ากันเลยเอามาลองให้หายคาใจ)...
ตัวกาแฟบดผมลองบดแบบพอประมาณไม่ได้บดหยาบมาก หรือบดละเอียดมากเกินไป เพราะแบบบดละเอียดมากเคยลองแล้วปรากฎว่ากดน้ำไปถึงระดับนึง กาแฟแทบไม่ออกเลย ลองทั้งแบบ Tamp (กดหน้ากาแฟให้เรียบ) เบา ๆ และ Tamp แน่น ๆ แล้ว ผลคือกดกาแฟออกมาได้ไม่ครบตามน้ำที่ใส่เข้าไป กดไม่ลงจริง ๆ ครับ...
ลองชงด้วยก้นของ Staresso SP-300 เดิม ๆ พบว่า กาแฟออกมาดี ฟองกาแฟด้านบนมีความหนาพอประมาณ กดไปจนเสร็จยกดื่มเลย อร่อยมาก ๆ ถือว่าอยู่ในระดับ Espresso Shot ที่พอใจและอยากทำดื่มเองที่บ้านแล้ว...
ถัดมาลองใช้ก้านชงแบบ Bottomless ข้อดีคือเวลาประกอบ ใช้เวลาน้อยมาก ๆ ตักกาแฟใส่ Tamp กาแฟแล้วก็ประกอบได้ทันที หมุนเข้าเครื่องได้ง่าย เพราะมีก้านจับถนัดมือ เวลาประกอบกับขาตั้งของ Staresso SP-300 จะต้องลอดด้านล่างประกอบซึ่งอาจดูยุ่งยากครั้งแรก แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการประกอบร่างเท่าไหร่นัก...
พอใส่น้ำร้อนลงไป กดออกมากาแฟไหลเร็วขึ้นกว่าตอนใช้ ก้นถ้วยกรองแบบเดิม ชั้นโฟมออกมาไว และก็หายไปไวมากเช่นกัน กดไปจนน้ำเริ่มไหลเบา ก็ยกมาดื่ม ได้รสชาติดี เพียงแต่ถ้าชอบจิบแรกด้วยชั้นโฟมของกาแฟอาจจะหายเร็วไปหน่อย ข้อดีคือหลังจากทำกาแฟเสร็จ สามารถปั๊มน้ำที่ค้างออกในเครื่องได้เลย ถอดฐานล่างง่ายมาก เอาถ้วยกรองกาแฟมาเคาะกากกาแฟก็แห้งสนิทจนเป็นก้อนคล้ายคุกกี้ถือไปทิ้งได้สะดวกไม่หกเลอะเทอะเลย...
แบบสุดท้าย ลองเอาถ้วยกรอง Basket แบบ 51 ม.ม. ที่อยู่ในเครื่องชงกาแฟ Espresso Machine มาใช้ ตัวถ้วยจะคล้าย ๆ แบบที่ซื้อมา แต่ก้นถ้วยจะเป็นรูเข็มเล็ก ๆ รูเดียวให้น้ำกาแฟออกมา...
พอลองทำดูพบว่าชั้นโฟมกาแฟออกมาเหมือนแบบแรก แต่มีความเยอะกว่า ถ้ากดเร็วไปจะกลายเป็นฟองะเยอะเกิน ลดความเร็วในการกดลงโฟมออกมาดูดีมากขึ้น ทำเสร็จยกขึ้นมาดื่มแล้วโอเคมีความคล้ายแบบแรก ที่ใช้ก้นของเครื่อง Staresso SP-300 เลย แต่ได้ความถอดไปเคาะกากกาแฟทิ้งได้ง่ายเหมือนกับใช้แบบที่ 2 เอาไปล้างต่อง่ายด้วย...
ส่วนตัวฐานชงที่เป็นไม้ เท่าที่ลองใช้ดู มันช่วยให้การประกอบกับก้านชงง่ายขึ้นมาก ไม่ต้องสอดไปหมุนเกลียวใต้ฐานแบบ ฐานเดิม ประกอบง่าย ถอดง่าย ฐานยกสูง ใส่แก้วที่สูงอย่างแก้วนม ทำกาแฟใส่นมหรือใส่ฟองนมได้สบาย ๆ ไม่ต้องห่วงว่ามันจะติดแก้วแต่อย่างไร...
หลังจากลองใช้งานทั้งก้านชง และฐานชง ที่เป็นอุปกรณ์เสริมของ Staresso SP-300 แล้ว พบว่าในเรื่องของรสกาแฟนั้นผมไม่ขอฟันธงเสียทีเดียว เพราะปัจจัยของรสชาติกาแฟนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับที่อุปกรณ์ทำกาแฟแค่อย่างเดียว ยังขึ้นอยู่กับชนิดของเมล็ดกาแฟ, วิธีคั่ว, วิธีเก็บรักษา, วิธีบด ฯลฯ อีกมากมายที่จะทำมา...
แต่เอาเป็นว่า ถ้าใครไม่อยากงอกอุปกรณ์เยอะ และมีเวลาทำกาแฟแค่ตัว Staresso SP-300 ก็เพียงพอที่จะทำกาแฟ Espresso Shot ได้ดีและอร่อยได้แล้ว ส่วนใครใคร่งอกอุปกรณ์เพิ่ม ก็จะทำให้การทำกาแฟสนุกหรือสะดวกขึ้นครับ แต่แน่นอนว่า มันใช้งบมากขึ้นไปด้วย...
ส่วนในมุมเรื่องของการทำกาแฟดื่มในบ้าน ผมมองว่า มันคือความชอบของแต่ละคนไม่ได้มีลิมิต บางคนชอบกาแฟบดต่างกัน, เครื่องทำกาแฟระดับความดันควบคุมได้ตามจังหวะที่ต่างกัน ซึ่งมันมีวิธีและรูปแบบกระบวนการหลากหลาย ที่จะได้มาซึ่งกาแฟ 1 ช็อต...
บางทีการทำกาแฟสนุก ๆ ที่บ้านได้ดื่มรสชาติที่พอใจนั่นก็พอแล้ว ส่วนถ้าชอบความสุดจริง ๆ ผมก็ยังคงแนะนำให้ไปอุดหนุนร้านกาแฟที่เขาลงทุนเครื่องและอุปกรณ์ดี ๆ เลย เพราะเขาลงทุน ทั้งเรื่องของความรู้ในการหาเมล็ดกาแฟที่ดีและเหมาะสมจากแหล่งกาแฟต่าง ๆ , เครื่องบดที่บดควบคุมได้เหมาะสมตามชนิดของเมล็ดกาแฟ และแน่นอนว่าเราสามารถชิมกาแฟที่สกัดออกมาจากเครื่องชงที่มีราคาหลักแสน ด้วยงบแค่ 65 - 120 บาท รวมถึงบรรยากาศร้านที่ตกแต่งดี ๆ เหมาะสมกับการนั่งดื่มกาแฟด้วยครับ...
เครื่องชงกาแฟ Staresso SP-300 Mirage Gen 3 ผมสั่งจาก Shopee วันเดียวส่งถึงบ้านเลย...
> https://shp.ee/7pbgcx7 (1.769.-) แต่ตอนนี้ของก็ยังหมดอยู่ครับ...
เลยมีร้านอื่น ๆ ที่ยังมีฟีดแบคที่ดีมาให้เพิ่มเติม...
> https://shp.ee/nzcctih (1,878.-)
> https://shp.ee/7r6fvfh (1,819.-)
> https://shp.ee/wyz7pth (1,770.-)
> https://shp.ee/srkffyh (1,690.-)
บน Lazada มีร้านที่ฟีดแบคดี ๆ พอควรเช่นกัน...
> https://bit.ly/3zbHZDH (1,824.-)
> https://bit.ly/3nmmKMU (1,817.-)
> https://bit.ly/2X9Qyl2 (1,799.-)
ส่วนอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ถ้าใครอยากลอง ก็ลองไปตามร้านที่ผมซื้อมาแล้วกันครับ...
ชุด SP-300 Bottomless ผมโดนป้ายยาจากนี้และสั่งมา มีอุปกรณ์ครบตั้งแต่ ก้านชง, Basket และ Dosing Ring เลย...
https://shp.ee/iac2fbr (ก้านชง 580.- Basket 51mm 125.-)
แท่นชงกาแฟ ผมโดนป้ายยาจากอันนี้ มีตั้งแต่จากไม้สนและจากไม้สัก หลายขนาดและความหนา...
> https://shp.ee/u7rjj3j (320 - 650.-) ผมซื้อแบบไม้สัก หนา 20 มิลลิเมตรมาครับ...
*Disclosure: เนื้อหานี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และไม่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานใด ๆ ...
bottomless 在 Bottomless - Home | Facebook 的推薦與評價
Bottomless. 816 likes · 39 talking about this. Doom metal from Italy - the ancient way. ... <看更多>