關於 digital banking growth ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

เปิดวิธีคิดเศรษฐกิจจีน ถอยหลังเพื่อไปต่อจริงหรือ ?
EP.4>
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตลาดจีนในช่วงเวลานี้ มีหลายคำถามที่นักลงทุนกำลังรอฟังคำตอบ
ลงทุนแมน ได้ร่วมพูดคุยกับ 2 ผู้เชี่ยวชาญตลาดจีนของกองทุนบัวหลวง
นั่นคือ ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา ตำแหน่ง Chief Economist ของกองทุนบัวหลวง
และ คุณทนง ขันทอง ตำแหน่ง Head of Strategic Communications ของกองทุนบัวหลวง
ใน Clubhouse เมื่อวันพุธที่ 21 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา

ประเด็นสำคัญของตลาดจีนในช่วงเวลานี้ จะเป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

เริ่มต้นกันที่.. ภาพรวมเศรษฐกิจจีนที่ผ่านมา

ประเทศจีนมี GDP ไตรมาส 1 ปี 2564 อยู่ที่ 18.3% (YoY) โตขึ้นอย่างก้าวกระโดด
เป็นผลมาจากนโยบายการคลังแบบผ่อนคลายจากวิกฤติโควิด 19, การฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมช่วงปลายปี 2563 และภาคการค้าส่งออกตลอดช่วงต้นปี 2564

ขณะที่ล่าสุด GDP ไตรมาส 2 ปี 2564 อยู่ที่ 7.9% (YoY)
หากมองในแง่ของนักลงทุน ต้องยอมรับว่า เราผ่านช่วงเวลาที่เป็นจุดพีกของจีนกันไปแล้ว
แต่ในแง่ของพื้นฐานประเทศจีน ยังถูกมองว่าเป็น The Most Outstanding อยู่ดี

ที่น่าสนใจคือ ธนาคารกลางจีน (PBOC) พยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา
เช่น การปรับลดอัตราการดำรงเงินสำรอง (RRR) เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไปยังกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบ ให้ยังคงอยู่รอดต่อไปได้

ดังนั้น หากเราเห็นว่าจีนกำลังลดสภาพคล่อง ความจริงแล้วสภาพคล่องยังคงมีอยู่ในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก และบางกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าความท้าทายของจีน ยังมีอยู่อีกมาก
เช่น ปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดตลาด และปัญหาเรือ Ever Given ขวางคลองสุเอซ ที่ส่งผลกระทบต่อภาคการค้าส่งออกจีน หรือปัญหาการปรับตัวสูงของสินค้าโภคภัณฑ์ ที่ส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรมจีน

แล้วตอนนี้ ความท้าทายจากปัจจัยภายนอก เป็นอย่างไร ?

สิ่งที่ต้องจับตาเป็นพิเศษคือ เรื่องความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ที่เริ่มต้นมาจากการประชุม Alaska Summit ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ซึ่งนับว่าเป็นปัจจัยภายนอกที่กำลังคุกรุ่นต่อเนื่องมาจากสงครามการค้า และประเด็นด้านเทคโนโลยี ตั้งแต่สมัยที่ ดอนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดี ต่อเนื่องไปจนถึง สิทธิของแรงงานในซินเจียง

นอกจากนี้ ยังมีประเด็น Cyber Security ที่ทางสหรัฐอเมริกามีการอ้างว่าจีนได้ส่งแฮกเกอร์เข้าไปล้วงข้อมูลจาก Microsoft Exchange อีกด้วย

โดยทางกองทุนบัวหลวงมองว่าประเด็นทางด้าน Geopolitics เหล่านี้จะไม่กระทบกับภาคเศรษฐกิจจีน
เนื่องจากจีนพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นในเชิงด้านการลงทุนก็อาจกระทบกับตลาดการลงทุนได้บ้าง

ส่วนประเด็นสำคัญเรื่องความตึงเครียดระหว่างจีนกับประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ ในขณะนี้ คือ สหรัฐอเมริกามีการร่วมมือกับกลุ่มประเทศ G7 เพื่อสกัดกั้นการก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจโลกของจีน

เนื่องจากตอนนี้จีนกำลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทั้งในเรื่องขนาดเศรษฐกิจ เทคโนโลยี ปริมาณการค้าที่จีนเป็นคู่ค้าสำคัญของโลก และเมื่อตลาดเงินตลาดทุนใหญ่ขึ้น บทบาทของเงินหยวนก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งจะไปมีผลกับกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของโลกต่อไป เช่น ระบบชำระเงิน Digital Banking หรือสินทรัพย์ดิจิทัล

พูดง่าย ๆ ว่าตอนนี้เหมือนเป็นการต่อสู้ระหว่าง “โลกทุนนิยมจากฝั่งตะวันตก” และ “โลกอำนาจนิยมจากจีน”
เพื่อแย่งชิงการเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ของโลก นั่นเอง

ขณะเดียวกัน จีนเองก็พยายามสร้างสัมพันธ์กับรัสเซียและประเทศกำลังพัฒนาอย่างเช่น ประเทศในกลุ่มแอฟริกา ลาตินอเมริกา และประเทศตามเส้นทางสายไหม
รวมไปถึงการพัฒนาภายในประเทศเองเพื่อให้คนในประเทศหลุดพ้นจากความยากจน

โดยความคาดหวังของจีนในระยะยาว คือ ต้องการให้ประเทศมีฐานะร่ำรวยปานกลาง (Moderately Prosperous Society) สร้างพลังการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น ให้คนในประเทศเป็นคนชนชั้นกลาง ส่วนภาคแรงงานจะมีค่าแรงเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักให้ประชากรจีนมีกำลังซื้อ มีความมั่งคั่ง กินดีอยู่ดีมากขึ้น และเติบโตได้ในระยะยาว

แล้วตอนนี้ ปัจจัยภายในจีน กำลังเจอความท้าทายใดบ้าง ?

จีนพยายามพัฒนาประเทศมาอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากแผนพัฒนาฯ ของจีน เช่น
- แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 11 เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ จนเกิดปัญหาการเก็งกำไรภาคอสังหาริมทรัพย์
- แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 การส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิต Made in China 2025 จนเกิดปัญหาสงครามการค้าจีน-สหรัฐอเมริกา ที่เรียกว่า Trade War

จะเห็นได้ว่า การเติบโตของเศรษฐกิจจีน มักจะตามมาด้วยปัญหาต่าง ๆ
ทำให้จีน เริ่มมองหาทางเดินใหม่ ๆ ด้วยการลดความสำคัญของตัวเลข GDP สูง ๆ
แต่จะเน้น “ความเป็นสังคมอยู่ดี กินดี ไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง” เข้ามาแทนที่

จึงมีความเป็นไปได้ว่า เส้นทางเดินใหม่ของจีนจะมุ่งไปสู่ 2 กลุ่มหลัก นั่นคือ
- กลุ่มการเติบโตแบบมีคุณภาพ (Quality Growth) เช่น ภาคธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ช่วยลดมลพิษ และทำให้ประเทศจีนมีคุณภาพที่ดีขึ้น
- กลุ่มเศรษฐกิจภายในประเทศ (Domestic Economies) เช่น ธุรกิจด้านการบริโภคภายในประเทศ

เราจึงเห็น แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 14 มียุทธศาสตร์วงจรคู่ขนาน (China’s Dual Circulation)
ที่คงความสำคัญของปัจจัยภายนอก เช่น การค้าส่งออก ไปพร้อมกับปัจจัยภายในประเทศ เช่น อุปสงค์การบริโภคภายในประเทศ

ดังนั้น ความท้าทายของปัจจัยภายในจีนก็คือ พลังของการบริโภคภายในประเทศ ที่จะมาจากการทำให้ประชากรจีนมีรายได้สูงขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างทั่วถึง นั่นเอง

อีกหนึ่งประเด็นก็คือ การเข้ามาควบคุมกิจการเทคโนโลยีของจีน
สาเหตุหลักเป็นเพราะ รัฐบาลจีนต้องการจะเป็นเจ้าของ Big Data ที่อยู่ในมือของธุรกิจภาคเอกชน
จึงทำให้ธุรกิจเอกชนยักษ์ใหญ่ที่มี Big Data อย่าง Ant Group ที่ให้บริการการเงินครบวงจร หรือ DiDi แอปพลิเคชันเรียกแท็กซี่ที่มีข้อมูลการเดินทางของคนจีนจำนวนมาก จึงถูกรัฐบาลจีนเข้ามาจัดระเบียบอย่างที่ทราบกัน

สรุปแล้ว ช่วงเวลานี้ ควรลงทุนในตลาดจีนอย่างไร ?

ต้องยอมรับว่า การลงทุนในประเทศจีนช่วงนี้ อาจให้ผลตอบแทนได้ดีไม่เท่ากับตลาดอื่น ๆ
แต่ถ้าตาม Seasonal Pattern แล้ว ตลาดหุ้นจีนจะกลับมา Perform อีกครั้งในตอนช่วงท้ายปี

ประเด็นสำคัญที่นักลงทุนมักจะให้น้ำหนักต่อการเคลื่อนไหวของตลาดจีนก็คือ นโยบายของภาครัฐ ที่จะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจระยะยาว รวมทั้งจุดเด่นของจีนที่มักจะพูดจริง ทำจริง เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งประเทศที่ทำตาม KPI ของตัวเองได้ดี

ดังนั้น หากนักลงทุนเชื่อมั่นในประเทศจีนในภาพระยะยาว
จังหวะที่ตลาดหุ้นจีนลงมามาก ๆ ก็น่าจะเป็นจังหวะที่ดีในการเก็บสะสมหุ้นจีนแบบระยะยาวได้

ซึ่งหนึ่งวิธีที่จะลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดจีนตอนนี้ ก็คือการลงทุนแบบ DCA
เป็นการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ทำให้นักลงทุนไม่ต้องสนใจภาวะตลาด ณ ตอนนั้น เนื่องจากเป็นการทยอยเข้าไปลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการลงทุนแบบนี้จะฝึกให้นักลงทุนมีวินัยในการลงทุนมากขื้น

ส่วน Theme การลงทุนที่น่าสนใจ ควรสอดคล้องกับนโยบาย Dual Circulation Economic
อย่างในกลุ่ม Domestic Play ที่จะได้ประโยชน์จากจำนวนประชากรจีนที่จะมีกำลังซื้อมากขึ้น ซึ่งจะกลายเป็นการเติบโตรอบใหม่ของจีน

เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว, ธุรกิจกีฬา, ธุรกิจการศึกษา, ธุรกิจเครื่องดื่ม

สรุปได้ว่า ช่วงเวลานี้ หากจะลงทุนระยะยาวในตลาดจีน ก็เป็นจังหวะที่ดีให้นักลงทุนได้เลือกลงทุนในบริษัทพื้นฐานดีที่มีราคาถูกกว่ามูลค่าจริง นั่นเอง

ในส่วนของกองทุนบัวหลวง มีกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ) ซึ่งมีนโยบายการลงทุนเป็นแบบ Dynamic โดยส่วนหนึ่งได้มอบหมายให้ Allianz Global Investors Asia Pacific Limited เป็นผู้รับดำเนินงานการลงทุนในต่างประเทศของกองทุน (Outsourced Fund Manager) ซึ่งในส่วนนี้ก็มีการลงทุนผ่านกองทุน 2 กองทุน คือ กองทุน Allianz China A-Shares และกองทุน Allianz All China Equity และยังมีอีกส่วนที่กองทุนบัวหลวงคัดเลือกลงทุนหุ้นรายตัวเอง

นั่นก็หมายความว่า กองทุน B-CHINE-EQ ไม่ได้อิงผลตอบแทนของดัชนีประเทศจีน
แต่ยังมีการลงทุนธุรกิจพื้นฐานดีรายตัวในประเทศจีน ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยง และเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาวให้กับนักลงทุนได้ นั่นเอง

MALAYSIAN PLAYING THE ROLE MODEL

https://techwireasia.com/2019/06/how-can-malaysia-shape-the-islamic-digital-economy/

*How can Malaysia shape the Islamic digital economy?*

FIFTEEN of the 195 countries in the world follow Sharia Law in some shape or form.

Together, however, they command trillions of dollars in investment and trade and influence decisions across the globe.

And although this “economy” is still in its infancy, it’s growing rapidly with the help of digital tools and technologies — which creates a fantastic opportunity for Malaysia — a torch-bearer in the world of Islamic finance.

In an exclusive interview with Tech Wire Asia ahead of Malaysia Tech Week, Bank Negara Malaysia’s (Central Bank of Malaysia) Shariah Advisory Council (SAC) Chairman Mohd Daud Bakar shed light on the future of the Islamic digital economy and how Malaysia can gear up to play a big role in this exciting new world.

“Malaysia has been at the forefront of championing Islamic banking and finance for the last three decades. By the way, Malaysia is also in advance stage of building IT infrastructure.

“Thus, it is a natural call for Malaysia to once again take the leading role in driving Islamic digital economy as Malaysia has many in-house talents on both Shariah knowledge and IT and smart technology.

“We just need a special task force at the government level or perhaps a dedicated department at Malaysia Digital Economy Corporation (MDEC) to coordinate the infusion of Shariah knowledge on digital economy activities. Malaysia needs to play the role model function to make this happen in no time.”

*Malaysia has a finger on the pulse of the Islamic digital economy*
The Malaysian government has a dedicated agenda and budget for the digital economy because it plays a key role in building the nation’s GDP.

Through MDEC, the government is making significant efforts to embed Islamic digital economy in the grand design of the digital economy in the country.

MDEC has introduced the Islamic Digital Economy Guide (Mi’yar), a reference for startups, venture capital and supporting ecosystem players who wish to explore and understand its various components.

“I believe the establishment of this guide is the right step for the growth of Malaysia’s Islamic digital economy.

“What is needed in the near future is a bolder statement and narrative on Islamic digital economy as a new and standalone pillar to drive and perhaps its impact on the GDP of the nation.

“This will make all agencies and ministries in Malaysia aware of this new growth area and it is envisaged that this new push will generate a greater level of interest and coordination amongst all stakeholders.”

*Opportunities and challenges for the Islamic digital economy*
“The challenges are always vested with the mindset and the talent, or rather, the skillset.”

According to Daud, many segments, especially in the Islamic community, tend to undermine the powerful impact of a digital economy vis-a-vis a brick and mortar economy.

Some of them may even have doubt on the Shariah compliance aspect of the digital economy “which is quite unfortunate as technology has been neutral in the Shariah mindset all the way”.

As much as these pose the challenges, they also create new opportunities for many service providers.

“Surely, it will create a first mover advantage for any company that embraces the vision and has the skillset to champion this young but promising industry.”

As with many other new things in this world, the Islamic digital economy will definitely take time to get the traction and buy-in it needs, but once it has achieved critical mass with regards to awareness and support, it is expected to soar high.

Daud points out that government agencies and the private sector must work hand-in-hand to persevere and sustain the momentum.

“As a global Shariah scholar, I can only say that smart technology, which underlies the digital economy, will make Shariah compliance more visible, tangible and impactful. This is why the Islamic digital economy is expected to have a bright future.”

“The global Islamic market is full of potential and more needs to be done to educate the world of Malaysia’s potential in Islamic digital economy,” concluded Daud.

(This is copied from an article of Tech Wire Asia which was published earlier)

MDB

Islamic Digital Economy Track

https://www.dealstreetasia.com/stories/islamic-digital-economy-malaysia-139726/

*Minimal state support needed to boost Malaysia’s Islamic digital economy agenda*

Malaysia needs to develop a vibrant and holistic blueprint at the national level to build a successful Islamic finance-based digital economy in the country, according to Mohd Daud Bakar, executive chairman of global shariah advisory firm Amanie Group and chairman of the Shariah advisory council for Malaysia’s central bank.

As digital economy encompasses activities that cut across all ministries and agencies, a national-level comprehensive approach would act as an enabler for the sector.
There needs to be a special task force or a dedicated agency transcending all agencies to play the agenda of Islamic digital economy across the board, he noted.

“As much as we would like to see bottom-up approach, we need a kind of intervention – though on a minimalist level – from the government to put this agenda on the map of new economic growth as we have done tremendously in the space of Islamic finance and banking,” Daud told DEALSTREETASIA in an interaction.

Malaysia set a precedent in the Islamic digital economy when MDEC (Malaysia Digital Economy Corporation) launched the world’s first dedicated framework for the sector – Islamic Digital Economy (IDE) Mi’yar in late 2017.

There are over 1.8 billion Muslims across the world, providing vast opportunities for the Islamic economy. By 2030, the Muslim population is estimated to make up 27 per cent of the global population. Moreover, the overall Islamic economy is expected to grow to $3 trillion by 2021.

Hence, the global Islamic market is full of potential and more needs to be done to educate the world of Malaysia’s potential in Islamic digital economy, said Daud.

In the venture capital sector, Kuala Lumpur and Shanghai-based VC firm Gobi Partners had coined a new segment since 2016 that aims to tap into faith-based ventures called ‘TaqwaTech’.

“There is a big opportunity there (TaqwaTech). A lot of people do not realise how big that market is. It is a standalone sector where we can cater to countries like Malaysia, Indonesia, even the Middle East, India, Pakistan, Bangladesh,” said Gobi’s managing partner Thomas Tsao.

One of Gobi’s portfolio companies – Malaysia-based travel startup Tripfez had merged with Middle East online travel agency Holidayme last November to form one of the world’s largest Muslim-focused online travel agencies.
The launch of IDE was a humble beginning for Malaysia, said Daud, who will be speaking at Malaysia Tech Week 2019 in Kuala Lumpur on June 17 to 21.

“It was not meant to be exclusive and ultimate. But, to a large extent, it helped everyone to understand the essence of doing Islamic digital economy. This may be useful in the initial phase of the launching any new concept to the market,” he said.

Considering Indonesia has a significantly larger Muslim population than Malaysia, one may wonder how could the latter emerge as the global leader in the Islamic digital economy space.

At the end of day, the success of Islamic digital economy depends on critical success factors under the new economic landscape, said Daud.
“What is more relevant is the legitimacy or perhaps the quality of Shariah parameters being adopted by Malaysian players so that the global Muslim community are in the position to embrace them without having any hesitation, thus the importance of cutting-edge knowledge in Shariah knowledge in relation to all digital-based products and services,” he noted.

MDB