ทำไม อิตาลี จึงเป็นประเทศแห่ง แฟชั่นและดีไซน์? / โดย ลงทุนแมน
รสนิยมด้านศิลปะของอิตาลีคือความเป็นเลิศ
ทั้งความสง่างาม เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ และเต็มไปด้วยทักษะในงานฝีมือ
ทั้งหมดล้วนถ่ายทอดผ่านแบรนด์เครื่องแต่งกายอิตาลีที่คนทั้งโลกรู้จัก
Giorgio Armani คือนิยามของความเรียบหรูที่มีสไตล์
Prada เป็นต้นตำรับของคำว่า “น้อยแต่มาก”
ส่วนความฉูดฉาด และเซ็กซี่คือเสน่ห์อมตะของ Versace
แต่เอกลักษณ์ที่ทุกแบรนด์อิตาลีล้วนมีเหมือนกัน
ก็คือ การทำให้จินตนาการสามารถนำมาสวมใส่ได้ในโลกแห่งความเป็นจริง
ชาวอิตาลีมีความพิถีพิถันในการแต่งกายอยู่ในสายเลือด
ฟลอเรนซ์เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมการแต่งกายของโลกตะวันตกในยุคเรอแนซองซ์
และปัจจุบัน มิลานคือ 1 ใน 4 เมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดของวงการแฟชั่นระดับโลก
อะไรที่ทำให้งานออกแบบของอิตาลีอยู่ในระดับแถวหน้าของโลกแห่งเครื่องแต่งกาย?
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ซีรีส์บทความ “Branding the Nation” ปั้นแบรนด์ แทนประเทศ
ตอน ทำไม อิตาลี จึงเป็นประเทศแห่ง แฟชั่นและดีไซน์?
╔═══════════╗
ชอบบทความแบบนี้ ต้องอ่านหนังสือเล่มนี้
เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี พิมพ์ครั้งที่ 6
อยากรู้ความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก ต้องเข้าใจอดีต
หนังสือเล่มนี้จะพูดถึงประวัติเศรษฐกิจโลกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1100 ไล่ยาวไปจนถึง ค.ศ. 2019
สั่งซื้อได้ที่ (ซื้อตอนนี้มีส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท)
Lazada : https://www.lazada.co.th/products/1000-i714570154-s1368712682.html
Shopee : https://shopee.co.th/product/116732911/6716121161
╚═══════════╝
แฟชั่นอิตาลีถือกำเนิดก่อนที่อิตาลีจะก่อตั้งเป็นประเทศ..
ในยุคเรอแนซองซ์ นครรัฐฟลอเรนซ์ที่ตั้งอยู่ ณ ใจกลางคาบสมุทรอิตาลี
ทำให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการค้าขนสัตว์ของยุโรป
Arte della Lana หรือสมาคมค้าขนสัตว์แห่งฟลอเรนซ์ถูกก่อตั้งในศตวรรษที่ 15 ซึ่งก่อให้เกิดการค้าขายที่คึกคัก ผลักดันให้เมืองแห่งนี้เติบโตจนกลายเป็นศูนย์กลางการเงินของโลกตะวันตก
ภายใต้การอุปถัมภ์ของตระกูลเมดิชี ฟลอเรนซ์รุ่งเรืองจนพ่วงตำแหน่งศูนย์กลางศิลปะ เป็นแหล่งรวมช่างฝีมือสาขาต่างๆ ทั้งสถาปัตยกรรม ประติมากรรม รวมไปถึงเครื่องแต่งกาย
มีช่างเทคนิคที่เชี่ยวชาญการผสมสีและทอผ้าเฉพาะตัว ไปจนถึงเทคนิคการฟอกหนังที่ไม่เหมือนใคร และขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในโลก
แคทเทอรีน เดอ เมดิชี ชาวฟลอเรนซ์ที่ต่อมากลายมาเป็นราชินีของฝรั่งเศส เป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวดีที่สุดในยุคเรอแนซองซ์
แต่แฟชั่นคือกิจการของชนชั้นสูง เมื่อนครรัฐบนคาบสมุทรอิตาลีเริ่มเสื่อมถอย และความเจริญเคลื่อนย้ายไปยังยุโรปเหนือ แฟชั่นของอิตาลีก็ค่อยๆ เลือนหายไป โดยมีแฟชั่นฝรั่งเศสก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในโลกตะวันตกแทน
เวลาผ่านไปจนเข้าสู่ศตวรรษที่ 19 นครรัฐน้อยใหญ่บนคาบสมุทรอิตาลีก็รวมประเทศสำเร็จในปี ค.ศ. 1861 พร้อมรับอิทธิพลการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรป โดยมีเขตอุตสาหกรรมหนาแน่นในที่ราบตอนเหนือ
แต่ผลของการรวมประเทศ กลับทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ
รัฐทางภาคเหนือของอิตาลี ซึ่งมีเมืองใหญ่อย่าง มิลานและตูริน
ที่ร่ำรวยจากการเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมเหล็กกล้า ต่อเรือ สิ่งทอ และผลิตอาหาร
ในขณะที่รัฐทางภาคใต้ ยังคงเป็นเขตเกษตรกรรม ประชากรส่วนใหญ่จึงยังคงมีฐานะยากจน
ซ้ำยังต้องเสียภาษีเพื่อนำไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเขตภาคเหนือ
ความเหลื่อมล้ำนี้ ทำให้ในช่วงปี ค.ศ. 1890 - ค.ศ. 1910 ชาวอิตาลีหลายล้านคน ที่อาศัยอยู่ทางภาคใต้ ตัดสินใจอพยพหนีความแร้นแค้นไปตั้งถิ่นฐานยังสหรัฐอเมริกา
แต่การรวมชาติก็ทำให้เกิดค่านิยมในการต่อต้านสินค้าแฟชั่นจากฝรั่งเศส และหันมาใช้เสื้อผ้าที่ผลิตภายในอิตาลีมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่อิตาลีเข้าสู่การปกครองในระบอบเผด็จการฟาสซิสต์
เหล่านักออกแบบของอิตาลีจึงเริ่มสร้างสรรค์ “แบรนด์” เป็นของตัวเอง
โดยมีเวทีแห่งแรกก็คือ ฟลอเรนซ์ ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านเครื่องหนังและการฟอกหนังมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15
Gucci
หลังจากทำงานที่โรงแรมในกรุงลอนดอน และได้สัมผัสกระเป๋าของนักเดินทางมากมาย Guccio Gucci ได้กลับมาเปิดร้านเครื่องหนังที่ฟลอเรนซ์บ้านเกิดในปี ค.ศ. 1921 โดยมีสินค้าหลักคือกระเป๋าหนัง
ด้วยคุณภาพของเครื่องหนัง Gucci จึงสามารถตั้งราคาให้สูงขึ้น และวางตำแหน่งให้กลายเป็นสินค้าสำหรับชนชั้นสูง ก่อนจะขยายสินค้าไปทำถุงมือ เข็มขัด และเครื่องหนังสำหรับการขี่ม้าในเวลาต่อมา
Salvatore Ferragamo
นอกจากกระเป๋า อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ใช้เครื่องหนัง ก็คือ “รองเท้า”
หลังจากเรียนกายวิภาคศาสตร์และใช้ชีวิตในสหรัฐอเมริกาเป็นเวลานับสิบปี ช่างทำรองเท้า Salvatore Ferragamo ก็ได้กลับมาเปิดร้านรองเท้าของตัวเองที่ฟลอเรนซ์ในปี ค.ศ. 1927
และเป็นผู้ริเริ่มการออกแบบรองเท้าส้นเตารีด
หลายร้อยปีหลังจากยุคเรอแนซองซ์ ฟลอเรนซ์ก็ก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางแฟชั่นของอิตาลีอีกครั้ง และยังเป็นศูนย์กลางของห้องเสื้อชั้นสูงของอิตาลี หรือเรียกในภาษาอิตาลีว่า Alta Moda
แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ห่างไกลจากเขตอุตสาหกรรมทางตอนเหนือของประเทศ ทำให้การคมนาคมขนส่งไม่สะดวกเท่าที่ควร อีกทั้งยังห่างไกลจากลูกค้านักธุรกิจ ทำให้บรรดาดีไซเนอร์ต่างเริ่มย้ายโชว์รูมแฟชั่นไปตั้งยังเมืองทางตอนเหนือ คือ “มิลาน”
มิลาน ตั้งอยู่ใจกลางที่ราบกว้างใหญ่ทางตอนเหนือของอิตาลี รายล้อมด้วยเขตอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดของประเทศ มีระบบโครงข่าย ทั้งรถไฟ ถนน และแม่น้ำ และที่สำคัญ มิลาน เป็นที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์แห่งเดียวของอิตาลี สำนักของสื่อมวลชน และสถาบันการเงินมากมาย
มิลานยังเป็นที่ตั้งของสถาบันศิลปะและการออกแบบมากมาย ที่ถ่ายทอดความสามารถด้านศิลปะสืบต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น ทั้ง Brera Academy สถาบันศิลปะที่มีอายุมากกว่า 200 ปี
Domus Academy มีชื่อเสียงในด้านการออกแบบแฟชั่น
และ University of Milan มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในมิลาน ซึ่งมีศิษย์เก่าคือ Giorgio Armani และ Miuccia Prada
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้อิตาลีจะบอบช้ำจากสงคราม แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากสหรัฐอเมริกาผ่านแผนการมาร์แชลล์ ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจอิตาลีเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษ 1950s-1970s
เมื่อมีทั้งเงิน ลูกค้า และสถาบันการออกแบบ เศรษฐกิจของมิลานก็โตวันโตคืน
อุตสาหกรรมที่ถูกวางให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอิตาลีก็คือ “อุตสาหกรรมแฟชั่น”
โดยหนึ่งในแรงผลักดันสำคัญ ก็คือ ชาวอิตาลีที่อพยพไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาหลายล้านคน..
เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ที่อพยพจากอิตาลีไปอยู่ในสหรัฐอเมริกาก็เติบโตเป็นพ่อค้าหรือนักธุรกิจ
อุปนิสัยที่โดดเด่นของชาวอิตาลี ก็คือการคงความสัมพันธ์กับเครือญาติอย่างแน่นแฟ้น
ถึงแม้จะมาเป็นผู้อพยพในทวีปใหม่ ก็ยังคงไปมาหาสู่ ให้ความช่วยเหลือญาติในบ้านเกิดอยู่เสมอ และพร้อมสนับสนุนสินค้าจากอิตาลี บ้านเกิดของตนเองอย่างเต็มที่
ในฟลอเรนซ์ มีการจัดงานแฟชั่นโชว์เสื้อผ้าชั้นสูงในระดับนานาชาติเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1951
ส่วนในมิลาน ความเฟื่องฟูของเศรษฐกิจยุคหลังสงคราม ดึงดูดให้เหล่าดีไซเนอร์พากันมาเปิดโชว์รูมแห่งแรกของแบรนด์ที่นี่ นำมาสู่การจัดตั้งหอการค้าแฟชั่นแห่งชาติอิตาลี หรือ Camera Nazionale della Moda Italiana ซึ่งเป็นผู้ผลักดันให้เกิด Milan Fashion Week เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1958
ด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น
ไม่นาน มิลานก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้กำหนดเทรนด์แฟชั่นโลกในช่วงทศวรรษ 1970s
ด้วยการนำเสนอเสื้อผ้าสำเร็จรูป (Ready-to-wear) หรือศัพท์ในวงการแฟชั่นว่า Prêt-à-porter ที่มีความสวยงาม สะดวก ราคาถูกลง แต่ยังคงความโก้หรู นับเป็นการปฏิวัติวงการแฟชั่นครั้งสำคัญ และแจ้งเกิดแบรนด์เนมอิตาลีชื่อดัง
Giorgio Armani
หลังจากเป็นดีไซเนอร์ฟรีแลนซ์มาหลายปี Giorgio Armani ได้ตัดสินใจขายรถเพื่อก่อตั้งแบรนด์ของตัวเองในปี ค.ศ. 1975
ด้วยสไตล์ที่เรียบง่าย แต่ชัดเจน
เลือกใช้สีกลางๆ แต่ทำให้เสื้อผ้างามสง่า
เมื่อได้ถูกเผยแพร่มายังสหรัฐอเมริกา ผ่านการออกแบบเสื้อผ้าให้ดาราฮอลลีวูดอย่าง Richard Gere แบรนด์ Giorgio Armani ก็ได้รับความนิยมอย่างสูง และก้าวสู่จุดสูงสุดด้วยชุด “Power Suit” ในช่วงทศวรรษ 1980s
Versace
นักออกแบบจากอิตาลีตอนใต้ Gianni Versace ก่อตั้งแบรนด์ตัวเองในปี ค.ศ. 1978
โดยมีการนำสีสันที่อบอุ่นจากตอนใต้ และการใช้คู่สีที่สะดุดตามาผสมผสานในงานออกแบบเสื้อผ้า ทำให้ได้เสื้อผ้าที่ฉูดฉาดและเซ็กซี่
Prada
จุดเริ่มต้นของ Prada ย้อนไปไกลถึงปี ค.ศ. 1913 จากการก่อตั้งโรงงานเครื่องหนังของ Mario Prada แต่ผู้ที่ทำให้ Prada โด่งดังไปทั่วโลก คือหลานสาว Miuccia Prada
Miuccia Prada เป็นผู้ที่เลือกผ้าไนลอนมาทำเป็นกระเป๋าถือแทนการใช้หนังสัตว์ จนทำให้กระเป๋าสีดำ Black Nylon Backpack โด่งดังไปทั่วโลกในช่วงปี ค.ศ. 1985 และเปลี่ยนโฉมหน้าของ Prada ให้มีสินค้าอื่นๆ นอกจากกระเป๋า ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องประดับ ซึ่งภายหลัง Miuccia ก็ได้ตั้งแบรนด์ลูกขึ้นมาภายใต้ชื่อ “Miu Miu”
ด้วยความสามารถในการออกแบบของดีไซเนอร์อิตาลี
นอกจากเสื้อผ้าแล้ว เหล่าแบรนด์เนมต่างก็ต่อยอดไปสู่สินค้าและบริการอื่นๆ
ทั้ง Giorgio Armani ที่มีกิจการร้านอาหารและโรงแรมหรู
ส่วน Versace มีกิจการโรงแรม เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ในครัวเรือน
อิตาลี คือดินแดนแห่งอารยธรรมล้ำค่า นับตั้งแต่จักรวรรดิโรมัน นครรัฐในยุคเรอแนซองซ์ มาจนถึงยุครวมชาติอิตาลี
ถึงแม้อารยธรรมจะรุ่งเรืองและเสื่อมสลาย
แต่สิ่งที่ผ่านกาลเวลามาได้คือศิลปะและความคิดสร้างสรรค์
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร กลับไม่สามารถทำลายคุณค่าของดีไซน์อิตาลี
แม้เหล่าสินค้าแฟชั่นจะเจอความท้าทายจาก Fast Fashion
แต่ด้วยการออกแบบที่เปี่ยมไปด้วยรสนิยม และคุณภาพที่สั่งสมมานาน
แฟชั่นของอิตาลีจึงยังคงครองใจผู้คนทั้งโลก อย่างที่สินค้าเทคโนโลยีล้ำสมัยก็ทำอะไรไม่ได้
เทคโนโลยีผ่านเข้ามาและผ่านไป แต่ดีไซน์อิตาลีก็น่าจะยังคงยืนหยัดตั้งตระหง่าน ไม่แพ้เสาโรมัน ที่เห็นทันทีก็รู้ว่า ต้นแบบแห่งการดีไซน์ ได้ถือกำเนิดขึ้น ที่ดินแดนแห่งนี้..
อ่านซีรีส์บทความ “Branding the Nation” ปั้นแบรนด์ แทนประเทศ
ในตอนก่อนหน้าทั้งหมดได้ที่แอป Blockdit blockdit.com/download
╔═══════════╗
ชอบบทความแบบนี้ ต้องอ่านหนังสือเล่มนี้
เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี พิมพ์ครั้งที่ 6
อยากรู้ความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก ต้องเข้าใจอดีต
หนังสือเล่มนี้จะพูดถึงประวัติเศรษฐกิจโลกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1100 ไล่ยาวไปจนถึง ค.ศ. 2019
สั่งซื้อได้ที่ (ซื้อตอนนี้มีส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท)
Lazada : https://www.lazada.co.th/products/1000-i714570154-s1368712682.html
Shopee : https://shopee.co.th/product/116732911/6716121161
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-Fashionary, The Live of 50 Fashion Legends
-https://www.researchgate.net/profile/Simona_Segre_Reinach/publication/318591733_The_meaning_of_%27Made_in_Italy%27_in_fashion/links/59fadce7458515d20c7d962b/The-meaning-of-Made-in-Italy-in-fashion.pdf?origin=publication_detail
-https://www.crfashionbook.com/fashion/a26330899/history-of-italian-fashion-designers/
-https://www.metmuseum.org/toah/hd/itfa/hd_itfa.htm
-https://fashionweekweb.com/milan-fashion-week
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「fashionary」的推薦目錄:
- 關於fashionary 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於fashionary 在 林作 Facebook 的最讚貼文
- 關於fashionary 在 Garytu's Fashion Illustration Facebook 的最佳解答
- 關於fashionary 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最讚貼文
- 關於fashionary 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
- 關於fashionary 在 大象中醫 Youtube 的最讚貼文
- 關於fashionary 在 fashionary - Facebook 的評價
- 關於fashionary 在 Fashionary - YouTube 的評價
- 關於fashionary 在 190 Fashionary Sketches ideas - Pinterest 的評價
fashionary 在 林作 Facebook 的最讚貼文
我基本上不買名牌,深信商業化的產業只是用來騙土豪的。但我尊重三樣東西:歷史、品味和上乘用料。
所以即使我從來不買 Dior, 但它用 Super 130’s 羊毛在義大利手工做一套classic西裝出來,那麼我就欣賞。
我知道已經有連登仔串我打算寫書講西裝、講男士衣著,但只要看過此書就明白,每一名時裝設計師都有他的獨特未必為大眾所接受之處。
我賣衣服和買衣服多了後,認為必須認識品牌背後的人,做一個精明的消費者。有多少人真的明白牌子的歷史,為什麼會如此有名?你知道其實LV只是個做皮箱的牌子嗎?你知道Chanel是如何大起大落嗎?你知道Prada其實從歷史上完全沒法和一些歷史悠久牌子相比嗎?你知道 Balmain 和 Dior 原本是同事嗎?
我一直認為從人的角度入手才是好的學習歷史故事的角度。這本書十分適合不會閱讀的人看,因為圖很多。他告訴我牌子其實就是設計師的理念。你欣賞這個設計師才會真正喜歡那個牌子。例如 Jil Sander 代表的簡約主義是我欣賞的,所以我買。一些其他的設計師是我完全理念上不同意的,我不會買他在位的任何牌子。
我還會閱讀一些再深入點的關於大牌子時尚的書籍,這本書最後面也有介紹。基本上我就是求知慾強,喜歡閱讀各種各樣的書。這本書帶給我的啟發,是條條道路通羅馬 - 設計師們的背景五湖四海,其中半打最大牌人,竟然大學是讀政治(Dior, Prada)、法律(Yamamoto)、歷史(Lagerfeld)甚至醫科(Armani) 出身。另外設計師們的那種忠於自己、不理世俗眼光,敢冒險甚至勇於製造爭議的人生態度,和我自己的特別相配。
我閱讀到最後才發現原來此書是香港人撰寫和出版的,絕對是香港人驕傲。我只有一點不滿:此書沒有進行過 proofread, 每三頁就會出現錯別字。
我在近月開展了為求職人士和所有非教育目的英語的修改服務,私底下生意量不菲,應接不暇。此書的作者和出版社,看到我的這個post後請盡快和我聯絡,我提供優惠價為你修改,保證第二版在我的加持下,會成為香港乃至世界的暢銷書。香港人,英文不可以不好。
#作哥哥閱讀報告
#thelivesof50fashionlegends
#fashionary
fashionary 在 Garytu's Fashion Illustration Facebook 的最佳解答
【得獎公布】2019 聖馬丁藝術學院Connie Lim 國際時尚藝術工作坊
感謝大家的熱烈支持與參與,截至今日已有316位參與此抽獎活動,在這邊公布三位得獎者,將獲得「Fashionary- Poses for fashion illustration」,我們也將以簡訊與Email儘速與您聯繫寄送!
1. 王O富 0958XXX310
2. 林O娟 0975XXX080
3. Feronia 0938XXX129
欲參與講座與工作坊的同學,目前台北C已滿班囉!台北D也即將額滿,台中還有少數名額哦!若台北班未報名成功,也可考慮安排台中,學習進修之餘也可在欣賞台中之美與特色小吃!
課程報名:https://cashier.ecpay.com.tw/store/connielimxtoner
fashionary 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最讚貼文
fashionary 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
fashionary 在 大象中醫 Youtube 的最讚貼文
fashionary 在 Fashionary - YouTube 的推薦與評價
Fashionary Channel demonstrate the fashion sketching skills with Fashionary products- dedicated to help fashion designers to speed up their drawing & design ... ... <看更多>
fashionary 在 190 Fashionary Sketches ideas - Pinterest 的推薦與評價
Nov 20, 2018 - Fashionary sketches from all over the world! Thank you so much for the support! . See more ideas about sketches, fashion sketches, ... ... <看更多>
fashionary 在 fashionary - Facebook 的推薦與評價
insights together on the denim culture & community. Shop our THE DENIM MANUAL here- fashionary. org/products/denim-manual #Fashionary ... <看更多>