#อาการบาดเจ็บที่มาจากการออกกำลังกาย
ถ้าเราไม่ออกกำลังกายจนเจ็บ เราก็ไม่ได้มาซึ่งสุขภาพดี จริงหรือ? (คล้ายๆ No pain No gain)
หลายคนคงได้ยินวลีที่ว่า "No pain No gain" กันบ้างแล้ว ถ้าจะแปลตรงตัวก็แปลว่า ถ้าไม่เจ็บ ก็ไม่เกิดการพัฒนา จนวลีนี้เป็นเป็นวลียอดฮิตของใครหลายคนที่เริ่มต้นออกกำลังกาย ฮึดสู้เพื่อสิ่งที่ดีงาม รวมทั้งคนที่เป็นนักกีฬาชื่อดังก็ยังใช้วลีนี้เป็นคติประจำใจ เพื่อสร้างกำลังใจให้ตนเอง
แน่นอนว่าเป็นแรงจูงใจที่ดีไม่น้อยเลยล่ะ แต่ในบางกลุ่มกลับใช้คำนี้ในทางที่ฝืนๆอยู่เยอะมาก แม้กระทั่งออกกำลังกายจนกระทั่งเจ็บตัวเช่นกัน
เอาล่ะ...วันนี้จะมาอธิบายการเจ็บจากการออกกำลังกายกันค่ะ ว่าอาการบาดเจ็บที่นิยมมักจะเจ็บตรงไหนบ้างที่เกิดขึ้นเนื่องจากการออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬา
1. ข้อเท้าแพลง (Ankle Sprain)
- อาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าซึ่งมักเกิดจากอุบัติเหตุที่ทำให้ข้อเท้าพลิก จนทำให้เอ็นช่วยยึดกระดูกระหว่างข้อเท้ากับกระดูกขาเกิดอาการยึดตึงเกินปกติหรือฉีกขาด เมื่อเกิดข้อเท้าแพลง จึงทำให้ร่างกายไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวช่วงข้อเท้าได้ตามปกติ
- สามารถเกิดได้ทั้งกับนักวิ่งบนลู่และนักวิ่งนอกอาคาร เพราะทันทีที่เราละการจดจ่อจากการเคลื่อนไหว อาจเผลอลงน้ำหนักหรือวางเท้าในองศาที่ผิดธรรมชาติได้ ดังนั้นจึงควรสังเกตเส้นทางอยู่ตลอดเวลา หรือหากชอบวิ่งชิลๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย
2. สะบ้าอักเสบ (Patellar Tendinitis)
- โรคเอ็นสะบ้าอักเสบ เกิดจากการบาดเจ็บของเอ็นที่ยึดกระดูกตั้งแต่บริเวณสะบ้าไปจนถึงบริเวณหน้าแข้ง ซึ่งทำหน้าที่ควบคู่ไปกับกล้ามเนื้อต้นขาส่วนหน้า ทำให้สามารถงอหรือยืดเข่าได้ โดยมักเกิดในนักกีฬาที่ต้องใช้กำลังกระโดดอยู่เสมอ เช่น นักบาสเก็ตบอล นักวอลเลย์บอล
- เป็นอาการที่พบบ่อยจากการวิ่ง กระโดด และทําท่าสควอต วิธีป้องกันคือการบริหารกล้ามเนื้อส่วนต้นขาส่วนหน้า (Quadriceps Muscle) ให้แข็งแรง ด้วยท่าง่ายๆคือ นั่งบนเก้าอี้แล้วเหยียดขาออกขนานกับพื้น จากนั้นลดขาลง ทําพร้อมกันทั้งสองข้างหรือสลับทําทีละข้างก็ได้
3. กล้ามเนื้อหน้าแข้งอักเสบ (Shin Sprint)
- อาการบาดเจ็บบริเวณด้านในของหน้าแข้งพบมากในนักวิ่งและคนที่ออกกําลังกายท่ากระโดดหรือกระทบกระทั่งอย่างหักโหม มักจะบาดเจ็บช่วงสันหน้าแข้ง (Tibialis Anterior)
- ดังนั้นสําหรับคนที่ชอบออกกําลังกาย ไม่ควรเพิ่มความเข้มข้นและความถี่ของกิจกรรมทันทีทันใด จะช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บประเภทนี้ได้
อาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ จากการออกกําลังกายส่วนใหญ่มาจากการเคลื่อนไหวซ้ำๆ
4. ปวดหลังช่วงล่าง (Lower Back pain)
- อาจมาจากการทําท่า Squat และท่า Deadlift หรือท่ายกเวตต่างๆ ที่ผิดวิธี ดังนั้นจึงควรจัดท่าทางให้ถูกต้อง เริ่มแรกอาจลอง Workout หน้ากระจกเพื่อสังเกตตัวเองก่อนก็ได้
5. เอ็นหัวไหล่บาดเจ็บ (Rotator Cuff tear)
- อาการสำคัญ มักจะปวดเวลานอน โดยเฉพาะตอนนอนตะแคงทับ ปวดเวลายกแขนขึ้นหรือลงในบางท่า อาจมีอาการอ่อนแรงในขณะยกหรือหมุนหัวไหล่ เสียงเสียดสีในขณะขยับบางท่าของไหล่
- พบบ่อยในผู้ที่ชอบว่ายน้ำ ขว้างลูกบอล ยกน้ำหนัก หรือทํากิจกรรมที่ต้อง ชูมือเหนือศีรษะส่วนใหญ่มาจากการทําท่าทางดังกล่าวซ้ำๆ จึงควรหลีกเลี่ยง หากยกเวตก็ควรเลือกน้ำหนักที่พอเหมาะ ไม่ฝืนจนเกินไป
6. กล้ามเนื้อหน้าอกบาดเจ็บ (Chest Muscle pain)
- อาจจะเกิดระหว่างการนอนยกน้ำหนักบนม้านั่ง (Bench Press) หรือการใช้น้ำหนักมากเกินไป อาจเป็นสาเหตุให้กล้ามเนื้อหน้าอกฉีกขาดได้ จึงควรแน่ใจทุกครั้งว่าเลือกน้ำหนักที่สามารถยกไหวและควบคุมได้ เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ หรือการบาดเจ็บ
- ถ้ายังไม่มั่นใจอย่าเพิ่งใช้ 1RM (One Repetition Maximum เป็นการยกได้หนักสุด สูงสุดตลอดช่วงการเคลื่อนไหว) เป็นวิธีใช้ในกลุ่ม Bodybuilder เท่านั้น เพราะในบุคคลทั่วไปเสี่ยงอันตรายมากๆ ทำให้เสี่ยงบาดเจ็บง่าย
7. เอ็นข้อศอกอักเสบ
- อาจเป็นได้ทั้งเอ็นข้อศอกด้านนอกอักเสบ (Tennis Elbow) เกิดจากการอักเสบของเส้นเอ็นกล้ามเนื้อ extensor carpi radialis brevis พบในคนที่เล่นเทนนิส แต่ออกกำลังกายที่เน้นจุดนั้นก็มีสิทธิ์บาดเจ็บได้ และเอ็นข้อศอกด้านในอักเสบ (Golfer Elbow) การอักเสบบริเวณด้านในข้อศอก (medial epicondylitis) ของกลุ่มกล้ามเนื้อ flexor group โดยมักเกิดการฉีกขาดของเส้นใยกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นเพียงเล็กน้อย และเมื่อผู้ป่วยยังคงทำกิจวัตรตามปกติทำให้เกิดการฉีกขาดมากขึ้น แล้วเกิดการอักเสบในที่สุด
- เมื่อเริ่มมีอาการปวดบริเวณหัวไหล่ด้านหน้าลงมาถึงช่วงต้นแขน และอาจเลยมาจนถึงข้อศอก อาจเป็นสัญญาณเตือนของอาการเอ็นข้อศอกอักเสบ วิธีป้องกันคือ ออกกําลังกายให้หลากหลายและหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องทําท่าทางซ้ำๆ เพื่อลดการบาดเจ็บในกล้ามเนื้อส่วนนั้น
.
แล้วเราจะลดอาการบาดเจ็บเหล่านี้ได้ยังไง?
1. ควรมีเวลาให้พัก
- ถ้าคุณอยากให้กล้ามเนื้อพัฒนาควรพัก การเล่นซ้ำก็สามารถสร้างกล้ามเนื้อได้ แต่ในขณะเดียวกัน ถ้ายังมีอาการบาดเจ็บอยู่ จะเป็นการทำลายกล้ามเนื้อ ไม่ได้สร้างพัฒนาการเลย
- ถ้าเริ่มมีอาการบาดเจ็บอย่าฝืนเล่น เพราะยิ่งฝืนเล่น จะยิ่งเจ็บเพิ่มขึ้น เช่น เจ็บช่วงเอ็นที่ยึดกล้ามเนื้อกับกล้ามเนื้อ (Tendon) เอ็นที่เป็นกล้ามเนื้อกับกระดูกหรือระหว่างกระดูก (Ligament) หรือเจ็บจากเส้นประสาทบางส่วน แม้กระทั่งกระดูกก็ควรพักเพื่อรักษาตัว
- ควรพักขั้นต่ำ 3 วัน ถ้ายังไม่หายเจ็บดี ให้พักต่อไปจนกว่าจะหายครับ ปกติประมาณ 1 สัปดาห์ ถ้าไม่ทุเลาควรไปพบแพทย์
2. เมื่อพักแล้ว มันต้องดีขึ้นแน่นอน
- หลังจากพักหายดีแล้ว พอกลับไปออกกำลังกายอีกครั้ง เราจะรู้สึกได้ทันทีว่าแข็งแรงขึ้น ไม่เจ็บเหมือนเดิม และออกกำลังกายได้มากกว่าเดิม
- ขอแค่อย่าเพิ่งถอดใจ เพราะเป็นใครก็ต้องเจ็บเป็นธรรมดา เราแค่กลับมาเพื่อให้เวลาพักกับตัวเอง แล้วค่อยไปลุยต่อ
- อย่าคาดหวังสูง กดดันตัวเองจนเกินไปว่าจะต้องเป็นแบบนี้ ให้เน้นความพอดีๆ แต่สม่ำเสมอแทน เราจะประสบความสำเร็จในการออกกำลังกาย เพราะว่ากรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว สุขภาพที่แข็งแรงเช่นกัน
3. รู้จักวิธีปฐมพยาบาล
- รู้จักวิธีปฐมพยาบาลถือเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ที่เกิดอาการบาดเจ็บจะต้องหยุดวิ่งเพื่อพักทันที เพราะจะทำให้อาการบาดเจ็บนั้นรุนแรงขึ้นได้
- ทำการประคบเย็นโดยใช้ผ้าขนหนูห่อน้ำแข็ง หลังเกิดการบาดเจ็บประมาณ 15 นาที พักหยุด 10 นาที ภายใน 1 ชั่วโมงแรก
- รัดด้วยผ้ายืด(Bandage) อย่าให้แน่นจนเกินไป เพื่อป้องกันอาการชาและไม่ให้บวมมากขึ้น
- ถ้ามีอาการบาดเจ็บรุนแรงแล้วหลังปฐมพยาบาลยังไม่ดีขึ้น จะต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
4. อย่าลืม Warm Up กับ Cool Down
- ควรให้เวลาในการ Warm Up เพื่อเป็นการเพิ่มองศาการเคลื่อนไหวหรือ Range Of Motion และเพื่อเตรียมสภาพกล้ามเนื้อเพื่อลดการบาดเจ็บ
- การ Warm Up เป็นการอบอุ่นร่างกายเพื่อให้พร้อมก่อนที่จะออกกำลังกาย ซึ่ง Static Stretching หรือแบบนิ่งอยู่กับที่ ควรทำในแต่ละท่าท่าละ 30-45 วินาที และ Dynamic Stretching หรือเป็นแบบเคลื่อนที่ 5-10 นาที
- การ Cool Down เป็นการฟื้นตัวสภาพร่างกายหลังการออกกำลังกาย เพื่อกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ให้ทำแบบ Static Stretching ในแต่ละท่าค้างไว้ 5-10 นาที
5. ปรับเทคนิคการเล่น
- การเล่นเวทเทรนนิ่งจะต้องล็อกสะบัก(Scapula) เพื่อให้ท่าทางของหลังตรง ไม่เกิดช่วงโค้งของสันหลัง จะได้ไม่ต้องเจ็บช่วงหลังส่วนล่างมากเกินไป และควรงอเข่า เพื่อป้องกันการบาดเจ็บช่วงเอ็นข้อเข่าไม่ให้ฉีกขาดหรือเกิดการอักเสบ
- ถ้ารู้สึกหน้ามืดเกินไปขณะออกกำลังกาย ให้นั่งพักเพื่อให้ตัวเองได้ผ่อนคลาย แต่ถ้าไม่ทุเลาควรหยุดออกกำลังกายทันทีเพื่อความปลอดภัย จนกว่าจะดีขึ้นจนสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ
- การปรับในเทคนิคกีฬาขึ้นอยู่กับทักษะกีฬานั้นๆ ควรปรับเทคนิคการเล่นเพื่อประสิทธิภาพในการเล่นกีฬาดีขึ้น ลดผลกระทบการบาดเจ็บที่เกิดจากเทคนิคผิดพลาดได้
ทุกๆ บทเรียนย่อมต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดอยู่เสมอ แต่เราไม่จำเป็นต้องดันทุรังให้เจ็บเลย ถ้าเรารู้จักถนอมตัวเอง นึกถึงสมดุลของตัวเองให้เป็น เรามีสิทธิ์เลือกที่จะไม่เจ็บก็ได้ ถ้าเรารู้จักที่จะเล่นให้เป็น รู้จักที่จะลดความเสี่ยงของตนเอง แต่ในขณะเดียวกัน เราต้องมีความคิดให้มากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของตนเองมากที่สุด เพราะว่าการที่เราไม่เจ็บ เราสามารถออกกำลังกายได้ต่อเนื่องขึ้น ตามวลีนี้ว่า "No Pain You Gain" ไม่เจ็บตัว ย่อมเกิดขึ้นดีกว่า แล้วเราจะสนุกไปกับมัน จริงไหม?
♥️
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過3,920的網紅關掉8點的鬧鐘,也在其Youtube影片中提到,常常蹦蹦跳跳的人一定感同身受! 髕腱炎就跟阿罵的裹腳布一樣又臭又長! 難以解決又時時刻刻提醒你它的存在!! 今天就來教大家幾個簡單針對腱腱炎的運動!!! 如果有任何問題或對內容有疑問,都歡迎在下面留言喔! 當然啦!這邊無法提供『隔空抓藥』喔!有膝蓋痛的問題,必要時還是得要去找醫生喔!!!! ✔運...
patellar tendon 在 相太醫的復健門診-陳相宏醫師 Facebook 的最佳解答
👨⚕️分享一下最近臨床治療的案例
🏸40幾歲男性因為打羽球,在一次殺球下造成左側髕骨肌腱部分撕裂傷(patellar tendon partial tear),病患經過3個月復健,但並無太大改善。
👨⚕️🖥來我門診檢查,在超音波下診斷發現左側髕骨肌腱裂痕有0.5cm,在建議PRP施打3個療程下,3個月後髕骨肌腱的撕裂傷已明顯修復,配合我建議的運動處方,病患順利的回到球場。
💪每次看到病人興奮的跟我說"他不痛了"可以去運動了"
都是當醫生的我最開心的時候。
圖一:髕骨肌腱patellar tendon 解剖位置
圖二:初診時髕骨肌腱裂痕約0.5cm
圖三:施打3次PRP療程,裂痕明顯修補
#超音波導引注射
#PRP注射
#髕骨肌腱部分撕裂傷(patellar tendon partial tear)
patellar tendon 在 物理治療師 胡逸惟 Kiwi Hu Facebook 的最佳貼文
過度使用症候群
(二)、跳 躍 者 膝 (Jumpers' Knee)
所謂『跳躍者的膝痛』,指的是發生在膝蓋肌腱(patellar tendon)及其附著在膝蓋骨下緣的疼痛。常見於經常跑跳躍的運動員,因此被稱為”Jumper’s knee”。但是這種毛病不僅只是出現在跳躍項目的運動員,舉凡跳躍、踢球及其他須用力使用膝蓋的運動員都可能發生這種疼痛。
成因:
由於膝蓋肌腱反覆拉扯或過度運動所造成,但也可能由於一次不當的跳躍或局部的撞擊而引起症狀。學者認為,導致『跳躍者膝痛』的原因可能有下列三種:
1.由於一次或多次過度的牽引性作用力造成膝蓋肌腱的受傷。
2.由於膝蓋肌腱的局部循環不良。
3.膝蓋肌腱受傷後所引起的不良免疫性或代謝性的反應而發生發炎的現象。
病理變化:
反覆微小的長期損傷,造成膝蓋肌腱的局部黏液樣退化變性、磨損及肌腱纖維束的斷裂現象。它會使肌腱纖維失去連續性,然後造成局部的組織退化、壞死,並產生結節狀的瘢痕,使肌腱纖維的彈性及強度都減少。
臨床症狀:
第一期:只有在運動後才出現症狀,不影響其運動表現。
第二期:在運動中即出現症狀,停止運動後仍會疼痛,但不是很厲害,仍有運動的能力。
第三期:在運動中即出現症狀,停止運動後仍會疼痛,且疼痛程度嚴重到無法維持原有的運動水準。
第四期:膝蓋肌腱斷裂。 大多數患者皆在第三期才求診,若於該其仍為治療或治療不當,就會演變成第四期的嚴重後果。
#膝蓋痛 #髕骨疼痛 #物理治療 #徒手治療
#jumpersknee
#physiotherapy
patellar tendon 在 關掉8點的鬧鐘 Youtube 的最讚貼文
常常蹦蹦跳跳的人一定感同身受!
髕腱炎就跟阿罵的裹腳布一樣又臭又長!
難以解決又時時刻刻提醒你它的存在!!
今天就來教大家幾個簡單針對腱腱炎的運動!!!
如果有任何問題或對內容有疑問,都歡迎在下面留言喔!
當然啦!這邊無法提供『隔空抓藥』喔!有膝蓋痛的問題,必要時還是得要去找醫生喔!!!!
✔運動傷害小教室
什麼是運動防護員 https://youtu.be/Rwh5_YyOJmY
膝蓋痛-跑者膝 https://youtu.be/Xt5odBxI6uo
膝蓋痛-跳耀膝 https://youtu.be/RYSmT-wx39M
足底筋膜炎 https://youtu.be/lLKU_guveZc
腰痠背痛 https://youtu.be/YNfWPrxKe9A
運動猝倒 https://youtu.be/fUucw53atIE
腳踝扭傷 https://youtu.be/FIb0bm7k9Yw
核心運動 https://youtu.be/K36oZ822F_w
✔社群媒體
Instagram https://www.instagram.com/if8sleep/
E-Mail alaki25977919@gmail.com
✔音樂來源
Epidemic Sound https://www.epidemicsound.com

patellar tendon 在 Patellar tendon - Wikipedia 的相關結果
The patellar tendon is the distal portion of the common tendon of the quadriceps femoris, which is continued from the patella to the tibial tuberosity. ... <看更多>
patellar tendon 在 Patellar Tendonitis (Jumper's Knee) | Johns Hopkins Medicine 的相關結果
Jumper's knee, also known as patellar tendonitis, is a condition characterized by inflammation of your patellar tendon. This connects your kneecap (patella) ... ... <看更多>
patellar tendon 在 Patellar Tendon Tear - OrthoInfo - AAOS 的相關結果
The tendons of the knee. Muscles are connected to bones by tendons. The patellar tendon attaches the bottom of the kneecap (patella) to the top of the shinbone ... ... <看更多>