BREAKING: จีนเจอปัญหา ขาดแคลนไฟฟ้าหนัก กระทบการส่งมอบ สินค้าทั่วโลก
จีนกำลังเจอกับวิกฤติด้านพลังงาน ที่ทำให้ประเทศขาดแคลนไฟฟ้า และส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมการผลิต และระบบซัปพลายเชนทั้งระบบ เนื่องจากจีนเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้ารายใหญ่ที่สุดของโลก
ซึ่งปัญหาดังกล่าวมีต้นตอมาจาก 2 ปัจจัยหลัก ๆ คือ
1) ทางการจีนต้องการลดมลพิษภายในประเทศ จึงได้ออกคำสั่งให้ 20 มณฑลของจีน จะต้องถูกตัดไฟบางส่วน เพื่อลดการใช้พลังงาน ซึ่งเป็นต้นเหตุของการสร้างมลพิษ
พร้อมกับขอให้ประชาชนช่วยกันประหยัดไฟ และลดการใช้ไฟฟ้า
ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว ที่ถูกสั่งให้ตัดไฟฟ้าบางส่วน ครอบคลุม GDP มากกว่า 66% ของประเทศ
และมาตรการนี้ ยังมุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น โรงงานผลิตสิ่งทอ, โรงงานอะลูมิเนียม
2) ราคาถ่านหินที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทำให้ต้นทุนการผลิตพลังงานไฟฟ้าสูงขึ้น โดยส่วนหนึ่งก็เพราะปัญหาที่จีนกับออสเตรเลียมีข้อพิพาทระหว่างกัน ซึ่งเดิมออสเตรเลียเคยส่งออกถ่านหินให้จีนเป็นจำนวนมาก แต่ในตอนนี้จีนต้องพยายามจัดหาถ่านหินจากแหล่งอื่นแทน
ในขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลด้านราคาไฟฟ้าของจีน ก็มีการควบคุมค่าไฟฟ้าสำหรับครัวเรือนและธุรกิจ ให้อยู่ในระดับต่ำ จึงทำให้โรงงานไฟฟ้าขึ้นราคาได้ไม่มาก
จนทำให้โรงงานไฟฟ้าประสบปัญหาขาดทุนในทุก ๆ หน่วยไฟฟ้าที่ผลิตออกมาได้
พอเรื่องเป็นแบบนี้จึงทำให้โรงงานไฟฟ้าเลือกที่จะชะลอการผลิตไฟฟ้า ซึ่งสวนทางกับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกที่ต้องการสินค้าจากจีนในช่วงนี้
และนั่นก็เป็นที่มาของการขาดแคลนไฟฟ้าในประเทศจีนตอนนี้
ซึ่งถ้าถามว่า พลังงานไฟฟ้าจากการเผาถ่านหิน สำคัญกับจีนมากแค่ไหน ?
ก็ตอบได้เลยว่า คิดเป็นการผลิตพลังงาน 2 ใน 3 ของพลังงานที่จีนใช้ทั้งประเทศ..
ดังนั้น เรื่องนี้จึงกลายเป็นวิกฤติครั้งใหญ่ของจีน ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง
เพราะมีผลกระทบโดยตรงต่อผู้ผลิตในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมเสื้อผ้า, สิ่งทอ และของเล่น จะได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากในช่วงปลายปีนี้ เป็นฤดูแห่งการช็อปปิง
ซึ่งตามปกติแล้ว ตอนนี้ก็ควรมีการเร่งการผลิต เพื่อให้ผลิตสินค้าได้ทันเวลา และเพียงพอต่อความต้องการ
นอกจากนี้ ผลกระทบของวิกฤติขาดแคลนไฟฟ้านี้ ยังลามไปถึงโรงงานที่ผลิตสินค้าให้กับบริษัทระดับโลก อย่าง Apple และ Tesla ด้วย
โดยเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ได้มีข่าวออกมาว่า ลูกค้าที่สั่งจอง iPhone 13 กับทาง Apple อาจต้องรอนานกว่า 1 เดือน
เนื่องจากติดปัญหาในระบบซัปพลายเชน ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากโรงงานในจีน ที่ลดกำลังการผลิตลง ตามมาตรการของทางการจีน ที่ต้องการลดมลพิษ
ทั้งนี้ ด้านผู้ผลิตในจีน ได้ออกมาเตือนว่ามาตรการที่เข้มงวดดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมหาศาล
เพราะพื้นที่แค่ 3 มณฑล ซึ่งได้รับผลกระทบต่อมาตรการดังกล่าว เช่น เจียงซู, เจ้อเจียง และกวางตุ้ง รวมกัน
ก็คิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของ GDP ทั้งประเทศแล้ว
นอกจากนี้ การลดกำลังการผลิตของโรงงานในจีน จะทำให้ร้านค้าหลายแห่งทั่วโลก มีปัญหาในการจัดการสินค้าในสต็อก ทำให้ของขาดตลาด และอาจทำให้สินค้าแพงขึ้น จนเกิดเงินเฟ้อได้
ซึ่ง ณ ตอนนี้ ตลาดโลกก็จะเริ่มรู้สึกถึงการขาดแคลนสินค้าต่าง ๆ ตั้งแต่สิ่งทอ, ของเล่น, เสื้อผ้า ไปจนถึงชิ้นส่วนเครื่องจักร
เรียกได้ว่า ส่งผลกระทบต่อซัปพลายเชนทั้งระบบ ในหลาย ๆ อุตสาหกรรม
แน่นอนว่าพอเรื่องเป็นแบบนี้ หลายสถาบันการเงิน จึงได้ออกมาปรับลดการคาดการณ์ GDP ของจีน ในปีนี้
เช่น ทางด้าน Nomura สถาบันการเงินของญี่ปุ่น ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของ GDP ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ เป็น 3% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 4.4%
ที่สำคัญคือ เรื่องนี้อาจส่งผลกระทบและลามมาถึงประเทศไทยด้วย
เพราะหากไปดูในปี 2020 ที่ผ่านมา มูลค่าสินค้าที่ไทยนำเข้าจากจีน สูงถึง 1.7 ล้านล้านบาท
โดยสินค้าที่นำเข้ามากที่สุด คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักรต่าง ๆ
นอกจากนี้ ไทยยังมีสินค้าแฟชั่น ที่มีการนำเข้าจากจีนในปริมาณที่สูงมากเช่นกัน
ดังนั้น ถ้าโรงงานในจีนลดกำลังการผลิตลง จนสินค้าในตลาดมีน้อยลง หรือขาดตลาด
และราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ก็จะกระทบต่อการนำเข้าของประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
พอเห็นแบบนี้ ก็ยิ่งต้องลุ้นกันต่อไป ว่ารัฐบาลจีนจะแก้ปัญหานี้อย่างไรบ้าง
และประเทศไทย จะได้รับผลกระทบแค่ไหนจากวิกฤติไฟฟ้าของจีนในครั้งนี้..
References
-https://www.bloomberg.com/news/newsletters/2021-09-28/supply-chain-latest-china-s-power-curbs-to-hit-global-economy
-https://www.reuters.com/technology/many-apple-tesla-suppliers-halt-production-china-amid-power-pinch-2021-09-27/
-https://www.straitstimes.com/business/economy/chinas-electricity-shock-is-latest-supply-chain-threat-to-world
-https://tradingeconomics.com/thailand/imports/china
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「thailand economy 2021」的推薦目錄:
- 關於thailand economy 2021 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於thailand economy 2021 在 文茜的世界周報 Sisy's World News Facebook 的精選貼文
- 關於thailand economy 2021 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於thailand economy 2021 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的精選貼文
- 關於thailand economy 2021 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
- 關於thailand economy 2021 在 大象中醫 Youtube 的最佳解答
- 關於thailand economy 2021 在 How Thailand's Economy Is Bouncing Back From COVID-19 ... 的評價
- 關於thailand economy 2021 在 COVID-19 impact: Bangkok's iconic tourist sited are empty 的評價
- 關於thailand economy 2021 在 Thailand's economic growth will be 'lackluster' for some time ... 的評價
thailand economy 2021 在 文茜的世界周報 Sisy's World News Facebook 的精選貼文
0623紐約時報
*【Covid-19 實時更新】
#153名德州醫院工作人員因強制性疫苗政策被解僱或辭職。休士頓衛理公會醫院告訴員工,他們必須在6月7日之前接種疫苗,否則將面臨停學兩週。據醫院發言人Gale Smith稱,在被停職的近200名員工中,有153人於週二被醫院解僱或辭職。
#非洲的冠狀病毒病例激增。“我們並沒有忘記印度的例子。”醫療用品枯竭、疫苗稀缺、醫生感嘆身心疲勞以及醫院因床位或氧氣不足而拒絕患者,衛生官員表示,他們擔心像4月和5月席捲印度的浪潮,可能會在肯亞西部等地區重演。
#衛生官員表示,目前美國約有五分之一的Covid-19病例是超傳染性Delta變種引起,其流行率在過去兩週翻了一番。美國首席傳染病專家佛奇表示,Delta變種是目前美國消除Covid-19的最大威脅。
#白宮公開承認美國很可能會無法達到拜登7月4日接種目標。白宮公開承認,拜登總統預計不會在7月4日之前實現讓70%的成年人至少部分接種疫苗的目標,目前只可能讓27歲及以上的人達到目標。
#摩根士丹利表示,沒有疫苗,不能進入。摩根士丹利將要求員工和訪客在下個月進入其紐約辦事處時接種冠狀病毒疫苗。
#古巴報告稱其本土生產的 Abdala 疫苗成功率很高。古巴衛生當局表示,他們國家的三針Abdala疫苗在後期臨床試驗中證明對冠狀病毒的有效率為 92%。
#哥倫比亞疫情嚴重,死亡人數已逾100,000。根據《紐約時報》的數據庫,南美洲的危機嚴峻,在10個平均每日死亡人數最高的國家中,有7個國家位於南美洲。
#聯合國反飢餓機構表示,冠狀病毒的破壞加劇了數百萬人的飢荒風險。聯合國世界糧食計劃署表示,43個國家的數千萬人可能很快將面臨飢荒,部分原因是由於冠狀病毒大流行導致食品價格飆升。
https://www.nytimes.com/live/2021/06/22/world/covid-vaccine-coronavirus-mask
*【印度單日接種860萬劑新冠疫苗,創下該國最高記錄】
這是印度實施為所有成年人提供免費疫苗的新政策的第一天。有關官員表示,將在年底前為全國9.5億成年人完全接種疫苗。印度希望加快一項開展緩慢的疫苗接種運動,但由於國內製藥商疫苗產能面限制,這種提速可能是暫時的。
https://www.nytimes.com/2021/06/22/world/india-covid-vaccination.html
*【多個依賴中國疫苗的國家感染激增,再次引發有效性質疑】
在塞席爾、智利、巴林和蒙古,50%至68%的人口已完成疫苗接種,其來源主要依靠中國的國藥和科興,但這四個國家都在上周全球疫情最嚴重的10個國家之列。這表明,中國疫苗在阻止病毒傳播方面可能不是很有效,特別是新變種。專家指出,中國有責任對此進行補救。
https://www.nytimes.com/2021/06/22/business/economy/china-vaccines-covid-outbreak.html
*【泰國允許已接種疫苗的國際遊客進入普吉島,以期提振旅遊業】
根據定於7月啟動的“普吉島沙箱”計畫,完全接種了WHO批准疫苗的遊客可以在普吉島自由活動而不必隔離,在兩周內經過多次核酸檢測後,來自中低風險地區的遊客還將被獲准前往泰國其他地區旅行。
https://www.nytimes.com/2021/06/22/world/thailand-phuket-sandbox-quarantine.html
*【菲律賓總統杜特蒂威脅稱,拒絕接種疫苗者將被送進監獄】
“如果你不想接種疫苗,我會讓人逮捕你,不要逼我做這種事,”杜特蒂說。當前該國正在與東南亞最嚴重的疫情之一作鬥爭。
https://www.nytimes.com/2021/06/22/world/philippines-duterte-jail-vaccines.html
*【紐約市長初選倒數選票爭奪戰】
誰將領導全美最大城市走出疫情、走向復甦?紐約市長初選于週二舉行,在紐約這樣一個深藍的城市,民主黨幾乎肯定會贏得11月的選舉,但當前選情激烈,排名隨時在發生變化。布魯克林區長Eric Adams、前環衛局局長Kathryn Garcia和市長白思豪的法律顧問Maya Wiley,還有前總統參選人楊安澤等均被認為是民主黨初選的最有力競爭者。
https://www.nytimes.com/2021/06/22/nyregion/nyc-mayor.html
*【共和黨人阻撓投票權法案,對拜登和民主黨人造成打擊】
50名共和黨參議員都反對全面的選舉改革,這對民主黨試圖反擊州級投票限制浪潮的努力造成了打擊。
https://www.nytimes.com/2021/06/22/us/politics/filibuster-voting-rights.html
*【Greg Abbott召集共和黨舉行特別會議推動投票限制法】
德州州長Greg Abbott召集共和黨人,將於7月8 日在州立法機構舉行特別會議,試圖重振共和黨人制定投票限制措施的努力。
https://www.nytimes.com/2021/06/22/us/politics/texas-voting-law-abbott-legislature.html
*【殺害卡舒吉的沙烏地特工曾在美國接受準軍事特種訓練】
根據一份得到美國國務院批准的合同,四名沙烏地人在一家安全公司進行了包括“安全射擊”和“反擊攻擊”在內的訓練。知情人士透露,其訓練內容還包括監視和近距離作戰。這一事實突顯出與專制政府建立軍事夥伴關係的危險性。
https://www.nytimes.com/2021/06/22/us/politics/khashoggi-saudi-kill-team-us-training.html
*【聯合國說大堡礁處於危險之中,澳洲對此表示強烈反對】
聯合國建議將大堡礁列入“瀕危”世界遺產名錄,引發澳洲政府激烈反應。聯合國教科文組織呼籲澳洲儘快緩解氣候變化對脆弱珊瑚礁的影響,但官員們表示,他們已經採取了很多措施,並為自己的運營管理進行了辯護。
https://www.nytimes.com/2021/06/22/world/australia/unesco-great-barrier-reef-danger.html
*【比特幣自1月以來首次跌破3萬美元關口】
比特幣一周內下跌30%,抵消了幾個月以來的大幅增長。此前,中國加大了對比特幣的打擊,中國央行週一表示,已就虛擬貨幣交易炒作等問題約談了多家銀行和支付寶等支付機構。
https://www.nytimes.com/2021/06/22/business/bitcoin-cryptocurrency-price-decline.html
*【朝鮮稱核談判時間表不取決於美國】
本周,拜登總統朝鮮事務特使Sung Kim)任後首次訪問朝鮮半島,他提議與朝鮮展開新一輪對話。朝中社週二發表金與正的聲明,稱美國“抱錯的期待,將會使自己大失所望”。
https://www.nytimes.com/2021/06/22/world/asia/north-korea-washington-talks.html
*【民間武裝組織與緬甸軍方在曼德勒爆發數小時槍戰】
自軍方2月1日發動政變以來,曼德勒一直是反軍事政變抵抗的中心。這是緬甸軍方與這支被稱為“人民國防軍”的武裝平民力量首次在主要城市地區發生衝突。槍戰于週二淩晨開始,雙方都聲稱對方有傷亡,並否認自己的部隊有傷亡。
https://www.nytimes.com/2021/06/22/world/asia/myanmar-army-clashes-mandalay.html
thailand economy 2021 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
วิกฤติตุรกี ค่าเงินอ่อน เงินสำรองหาย ไล่ผู้ว่าธนาคารกลาง /โดย ลงทุนแมน
วิกฤติในประเทศตุรกี ได้กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง
หลังจากที่ผู้ว่าธนาคารกลางถูกปลดแบบฟ้าผ่า
และล่าสุดก็ได้มีประเด็นเพิ่มเติมเรื่องทุนสำรองระหว่างประเทศมูลค่ากว่า 4 ล้านล้านบาทหายไป
ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่
เพราะมันเริ่มเป็นประเด็นมาตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว
และยังทวีความรุนแรงขึ้นมาถึงปัจจุบัน ทางเลือกที่ประเทศตุรกี
จะนำมาใช้ต่อสู้เพื่อยื้อสถานการณ์ ก็เหลือน้อยลงไปทุกที
แล้วตลอด 3 ปีมานี้ มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เราลองมาดูสถานการณ์ของตุรกีตั้งแต่ปี 2018 จนถึงตอนนี้
การเติบโตของ GDP ลดลงจาก 7.5% ในปี 2017 มาเหลือ 1.8% ในปี 2020
ในขณะที่ ประเทศตุรกีมีอัตราเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้นมากกว่า 12% ต่อปี ติดต่อกัน มาตั้งแต่ปี 2018
นั่นจึงทำให้ค่าเงินลีรา อ่อนค่าอย่างรุนแรงกว่า 115% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
ทุนสำรองระหว่างประเทศก็ได้ลดลงไปเกินกว่าครึ่งหนึ่ง
จนเหลือน้อยที่สุด ในรอบ 18 ปี
จากตัวเลขที่เห็นคงพอบอกได้ว่า ประเทศตุรกี ไม่ได้อยู่ในภาวะปกติ
ซึ่งจริง ๆ แล้ว วิกฤติในลักษณะนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นกับตุรกีเป็นประเทศแรก
เพราะมันมักจะเกิดขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา ที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
อย่างเช่น อาร์เจนตินา บราซิล และแอฟริกาใต้ เมื่อปี 2018
ที่แม้บริบทในแต่ละประเทศจะต่างกัน แต่รูปแบบและสาเหตุมีความคล้ายคลึงกัน
จุดร่วมที่สำคัญของประเทศเหล่านี้ก็คือ “การใช้เงินเกินตัวของรัฐบาล”
หรือก็คือ งบประมาณที่ขาดดุลอย่างหนัก เพื่อต้องการเร่งให้เศรษฐกิจโตได้เร็วภายในระยะเวลาอันสั้น
เมื่อต้องการใช้เงินเยอะ จึงต้องตามมาด้วยการก่อหนี้มหาศาล
ที่นอกจากจะกู้ยืมจากภายในประเทศแล้ว ประเทศเหล่านี้ก็ยังกู้ยืมจากต่างประเทศด้วย
นั่นจึงทำให้หนี้สินส่วนใหญ่ เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งการกระตุ้นให้เศรษฐกิจโตเร็วภายในเวลาอันสั้นที่มาจากการก่อหนี้จำนวนมาก
มักเป็นการเติบโตที่คงอยู่ได้แค่ชั่วคราว และถ้าอยากให้เศรษฐกิจเติบโตเพิ่มขึ้นอีก
ก็ต้องก่อหนี้เพิ่มตามไปด้วย
และเมื่อเศรษฐกิจโตได้เร็ว แน่นอนว่าเงินเฟ้อก็จะเพิ่มขึ้นเร็วตามไปด้วย
ตรงนี้จะเป็นหน้าที่ของธนาคารกลาง ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อควบคุมระดับเงินเฟ้อ
เพราะถ้าเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเร็วจนคุมไม่อยู่ ก็เท่ากับว่ามูลค่าของเงินจะยิ่งด้อยค่าเร็วขึ้น
และใครที่มีสกุลเงินนั้นอยู่ก็คงอยากขาย จนทำให้สกุลเงินนั้นอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น
โดยท้ายที่สุดแล้ว กลไกทั้งหมดนี้ ก็ส่งผลกลับไปที่ภาระหนี้สินของรัฐบาลเอง
เพราะเมื่อดอกเบี้ยในประเทศเพิ่มขึ้น ต้นทุนทางการเงินก็สูงขึ้น รวมถึงต้นทุนของหนี้ที่รัฐบาลกู้ยืมด้วย
และค่าเงินที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ก็ทำให้หนี้ที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ มีมูลค่ามากขึ้นทันที
ซึ่งมูลค่าหนี้สินของภาครัฐที่เพิ่มขึ้นนี้ ก็ยิ่งทำให้ความน่าเชื่อถือของประเทศนั้นลดลง
กลายเป็นปัจจัยเร่งให้สกุลเงินนั้นอ่อนค่าเร็วขึ้นไปอีก วนเวียนไปเหมือนเป็น “งูกินหาง”
เหตุการณ์ลักษณะนี้ที่เกิดขึ้น
ก็จะถูกนักลงทุนที่มองเห็นโอกาสในการทำกำไรเข้ามาร่วมโจมตีให้ค่าเงินประเทศนั้นอ่อนลงไปอีก
และในปี 2018 ประเทศที่ถูกโจมตีค่าเงินรุนแรงที่สุด ก็คืออาร์เจนตินาและตุรกี
โดยค่าเงินเปโซของอาร์เจนตินา อ่อนค่าลงกว่า 100% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ภายในเวลา 4 เดือน
ในขณะที่ค่าเงินลีราของตุรกี อ่อนค่าลงกว่า 80% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ภายในเวลา 5 เดือน
อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ประเทศนี้ เลือกตอบสนองด้วยแนวทางที่ต่างกัน
สำหรับประเทศอาร์เจนตินา
เลือกที่จะยอมเจ็บ เพราะอยากให้จบ
โดยยอมเจ็บในที่นี้ก็คือการที่ธนาคารกลาง ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ที่จากเดิมก็สูงมากอยู่แล้ว
ให้สูงขึ้นไปอีกเพราะต้องการชะลอการอ่อนค่าของเงินเปโซให้ได้เร็วที่สุด
จึงได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก 28.75% ไปสูงสุดที่ 85.75% ภายในเวลา 1 ปี
จนสามารถทำให้ค่าเงินเปโซผันผวนน้อยลงได้
แต่ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงขนาดนี้ ก็ต้องแลกมากับการที่รัฐบาลแบกรับภาระหนี้สินต่อไปไม่ไหว
ซึ่งทางออกเดียวที่เหลือ ก็คือการขอกู้เงินจาก IMF และเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้
รวมทั้งใช้มาตรการรัดเข็มขัด นั่นคือรัฐบาลต้องลดการใช้จ่ายลง
เพื่อทำให้งบประมาณที่ขาดดุลมหาศาล กลับสู่ภาวะปกติ
แต่สำหรับประเทศตุรกี ก็ได้เลือกวิธีที่จะยื้อสถานการณ์และยอมเหนื่อยต่อ
ในปี 2018 ธนาคารกลางตุรกีได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก 8% ไปที่ 24%
แต่ประธานาธิบดีตุรกี Recep Tayyip Erdoğan กลับแสดงความไม่พอใจอย่างมาก
เพราะเขามีความเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยสูง เป็นต้นเหตุของเงินเฟ้อ ซึ่งสวนทางกับทฤษฎี หรือที่เรียกว่า “Unorthodox”
ผู้ว่าการธนาคารกลางตุรกีดังกล่าว จึงถูกไล่ออก
และล่าสุด เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตุรกีก็ต้องเผชิญกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอีกครั้งจากการอัดฉีดเงินเพื่อสู้กับโควิด 19
ธนาคารกลางจึงจำเป็นที่จะต้องปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็เหมือนกับการฉายหนังซ้ำนั่นคือ
ผู้ว่าการธนาคารกลางตุรกีคนใหม่ก็ถูกไล่ออกอีก..
เมื่อการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางตุรกีขัดกับความเชื่อของประธานาธิบดี
ธนาคารกลางตุรกีจึงต้องพึ่งพาอีกเครื่องมือหนึ่งแทนดอกเบี้ย นั่นก็คือ “ทุนสำรองระหว่างประเทศ”
โดยทุนสำรองระหว่างประเทศ จะถูกเก็บอยู่ในหลายรูปแบบ และส่วนใหญ่จะเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งปกติแล้ว ธนาคารกลางจะใช้เครื่องมือนี้ในการดูแลเสถียรภาพของค่าเงิน เมื่อยามจำเป็นเท่านั้น
สำหรับกลไกการนำไปใช้ก็คือ
ธนาคารกลางจะนำทุนสำรองที่อยู่ในรูปดอลลาร์สหรัฐนี้ ไปแลกซื้อเงินสกุลตัวเอง
เพื่อช่วยให้สกุลเงินของตัวเองแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
แต่การที่ตุรกีขึ้นดอกเบี้ยได้อย่างจำกัด ทำให้เครื่องมืออย่างทุนสำรองระหว่างประเทศต้องรับบทหนัก
สะท้อนได้จากปริมาณทุนสำรองระหว่างประเทศ ที่ลดลงไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ภายในเวลา 3 ปี
และยังมีการประเมินว่า ปี 2020 เพียงปีเดียว ตุรกีใช้เงินกว่า 3 ล้านล้านบาท ในการแทรกแซงค่าเงิน
เพื่อประคองให้ลีราไม่อ่อนค่าอย่างรุนแรง
ซึ่งทำให้ในตอนนี้ ทั้งพรรคฝ่ายค้านและประชาชน
ต่างร่วมกันถามหาทุนสำรองระหว่างประเทศ
ที่หายไปกว่า 4 ล้านล้านบาท เพื่อใช้ในการพยุงค่าเงินตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
สิ่งที่สำคัญก็คือ ต้องไม่ลืมว่าทุนสำรองระหว่างประเทศที่ตุรกีใช้ประคองสถานการณ์มาจนถึงตอนนี้
หากยังลดลงอย่างรวดเร็วต่อไป ก็อาจถึงวันที่ทุนสำรองเหลือน้อยมาก จนประเทศต้องยอมแพ้
คล้ายกับที่ประเทศไทยเคยเจอ เมื่อตอนวิกฤติต้มยำกุ้ง
ถึงตรงนี้ ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า
เงินสำรองของตุรกีจะพอสู้กับวิกฤติค่าเงินได้หรือไม่
แต่ดูแล้วอนาคตต่อจากนี้ ประเทศตุรกีน่าจะเหนื่อยไม่น้อยเลย..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
วิกฤติค่าเงินของตุรกี ทำให้ประชาชนบางส่วนเลือกที่จะซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลมาเก็บไว้เพื่อรักษาความมั่งคั่ง ไม่ให้ลดลงจากเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ตามในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ตลาด Exchange ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีชื่อ Thodex อยู่ ๆ ก็ปิดตัวลง โดยผู้ก่อตั้งได้หนีออกนอกประเทศ พร้อมทิ้งให้ผู้ใช้งาน 3.9 แสนราย ไม่สามารถนำเงินออกจากระบบได้
เรียกได้ว่า คนตุรกี 3.9 แสนรายนี้ กำลังหนีเสือปะจระเข้ เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-04-21/erdogan-says-turkey-used-165-billion-of-reserves-in-two-years
-https://www.bloomberg.com/opinion/articles/2021-04-22/question-over-128-billion-in-foreign-exchange-reserves-rattles-turkey-s-erdogan
-https://edition.cnn.com/2021/03/22/economy/turkey-lira-erdogan-central-bank-intl-hnk/index.html
-https://money.cnn.com/2018/08/12/investing/turkish-lira-currency-crisis/index.html
-https://www.reuters.com/article/turkey-cenbank-goldmansachs-int-idUSKBN27L258
-https://www.reuters.com/article/turkey-cenbank-reserves-int-idUSKBN2BV1P6
-https://www.reuters.com/article/us-argentina-debt-idUSKBN20630Y
-https://tradingeconomics.com/turkey/foreign-exchange-reserves
-https://tradingeconomics.com/thailand/foreign-exchange-reserves
thailand economy 2021 在 Thailand's economic growth will be 'lackluster' for some time ... 的推薦與評價

... <看更多>
thailand economy 2021 在 How Thailand's Economy Is Bouncing Back From COVID-19 ... 的推薦與評價
... <看更多>