@barnstormer.chinos 1101P NOP Dress Chino
The brand has been making authentic chino trousers that were deeply rooted in the Ivy League style, 1101 flat front dress chino was design based on the 1940s cotton slacks worn by the U.S military officers.
Pairs with brown suede A1 bomber jacket by @valstarofficial and @kamakurashirts Vintage Ivy pink button-down Oxford shirt.
.
.
.
#barnstormer #usarmy #military #militarystyle #chino #armychino #valstar #valstarino #a1 #bomberjacket #Vintageivy #ivyleaguestyle #ivyleaguelook #ivystyle #tradstyle #takeivy #classicmenswear #menswear #mensfashion #mensstyle #menslook #mensweardaily #sartorial #tailoring #sprezzatura #dapper #styleforum #styleformen #classicstyle #unclejudes
同時也有20部Youtube影片,追蹤數超過16萬的網紅フミ/にじさんじ,也在其Youtube影片中提到,本日の主なラインナップ ・ボラさんに聞く!日本語勉強の極意 など 毎週月曜と金曜の朝7時30分から!にじさんじライバーに起きたことを紹介する配信です。 タレコミ募集中♪ https://docs.google.com/forms/d/1Xjq4OhC7tWEct3DpHYgU5IDWtjvdU...
1940s 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
J.W. Marriott ผู้ก่อตั้งเชนโรงแรมใหญ่สุดในโลก ที่เริ่มจากร้านขายรูตเบียร์ /โดย ลงทุนแมน
“Marriott” เป็นเชนโรงแรมที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกและมีโรงแรมในเครือกว่า 30 แบรนด์
แต่รู้หรือไม่ว่าอาณาจักร Marriott ที่ก่อตั้งโดยคุณ J.W. Marriott ไม่ได้เริ่มต้นจากธุรกิจโรงแรม แต่เขากลับมีจุดเริ่มต้นมาจากร้านขายรูตเบียร์ A&W
จากร้านขายรูตเบียร์มาเป็นเชนโรงแรมที่ใหญ่สุดในโลก
Marriott ผ่านอะไรมาบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เชนโรงแรมขนาดใหญ่ ที่มีโรงแรมอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก จะมีชื่อที่เราคุ้นเคย เช่น Marriott, Hilton, InterContinental และ Hyatt
ซึ่ง Marriott ถือได้ว่าเป็นเชนโรงแรมที่ใหญ่สุดในโลก ทั้งในด้านมูลค่าตลาดที่มากที่สุดราว 1.46 ล้านล้านบาท รวมถึงในด้านจำนวนห้องพัก ที่ Marriott มีให้บริการราว 1.4 ล้านห้องพัก ในกว่า 130 ประเทศทั่วโลก
Marriott มีโรงแรมในเครือกว่า 30 แบรนด์ ซึ่งก็เป็นแบรนด์ดังที่คนส่วนใหญ่คุ้นหู อย่างเช่น JW Marriott, St. Regis, The Ritz-Carlton, Sheraton และ Renaissance
โดยผู้ก่อตั้งอาณาจักร Marriott คือคุณ John Willard Marriott หรือ “J.W. Marriott”
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ธุรกิจดั้งเดิมที่เขาเริ่มต้นขึ้นไม่ใช่ธุรกิจโรงแรม
คุณ John เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1900 ที่รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในครอบครัวที่ทำฟาร์มแกะเล็ก ๆ ซึ่งมีฐานะค่อนข้างยากจน
เขาเริ่มค้าขายตั้งแต่อายุ 13 ปี จากการปลูกผักกาดในแปลงที่ดินที่ว่างอยู่ และเขานำเงินรายได้ที่ได้ไปให้พ่อ
จากความสำเร็จในการขายผัก พ่อของ John เลยไว้ใจให้ลูกชายพาแกะ 3,000 ตัว ขึ้นรถไฟไปขายที่เมืองซานฟรานซิสโกด้วยตัวคนเดียวในวัยเพียง 14 ปี ก่อนที่จะถูกขอให้เลิกเรียนเพื่อมาช่วยงานที่บ้านในเวลาต่อมา
เมื่อ John อายุ 19 ปี เขาก็ต้องเดินทางไปเป็นมิชชันนารีที่โบสถ์แห่งหนึ่งในนิวอิงแลนด์เป็นเวลา 2 ปี หลังจากนั้นก็เดินทางกลับมาบ้านที่เมืองยูทาห์
ระหว่างทางกลับ เขาได้แวะที่เมืองวอร์ชิงตัน ดี.ซี. และเดินผ่านร้านค้าแห่งหนึ่งซึ่งคนต่อคิวยาวมาก นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ John ได้รับรู้ถึงความนิยมของเครื่องดื่มที่เรียกว่า “รูตเบียร์”
แต่พอกลับมาถึงบ้าน John ก็ต้องเผชิญกับข่าวร้ายเพราะว่าธุรกิจฟาร์มแกะของพ่อเขาล้มละลาย
โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากราคาแกะที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจตกต่ำ
ตั้งแต่นั้นมา John จึงตั้งเป้าว่าเขาจะต้องมีชีวิตที่ดีขึ้นและหลุดพ้นจากความยากจนนี้ให้ได้
เขาเลยตัดสินใจกลับไปเรียนต่อให้ได้วุฒิมัธยมศึกษา โดยได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์ที่เคยสอนเขา
ซึ่งอาจารย์ท่านนี้ ยังช่วยให้ John รับหน้าที่สอนวิชาที่เกี่ยวกับศาสนา เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเทอม
หลังจากนั้น John ก็ได้เข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ยูทาห์ ซึ่งเขาต้องหาเงินมาจ่ายค่าเทอมจากทุกวิถีทาง ตั้งแต่ขายกางเกงชั้นใน ขนสัตว์ ไปจนถึงการเป็นช่างตัดไม้
จนกระทั่งในช่วงที่เรียนปีสุดท้าย แถวมหาวิทยาลัยของเขาก็มีร้านรูตเบียร์ A&W มาเปิด
ซึ่งคิวยังคงยาว เหมือนกับตอนที่เขาเห็นครั้งแรกที่เมืองวอชิงตัน ดี.ซี.
หลังจากเรียนจบในปี ค.ศ. 1926 John แต่งงานกับ Alice Sheets สาวที่เขาตกหลุมรักและคบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียน ทั้งคู่วางแผนที่จะเริ่มทำธุรกิจด้วยกัน และสิ่งแรกที่ John นึกถึงก็คือเครื่องดื่มสุดฮิตอย่างรูตเบียร์
John ใช้เงินเก็บ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ บวกกันเงินที่กู้ยืมมาอีก 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ
คิดเป็นมูลค่าราว 83,000 บาท เพื่อขอซื้อแฟรนไชส์รูตเบียร์ของ A&W
ผ่านไป 1 ปี เขาก็ได้เปิดร้านขายรูตเบียร์เล็ก ๆ ที่เมืองวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งแน่นอนว่าขายดีแบบที่เขาคิดไว้
แต่สิ่งที่เขาลืมคิดถึงไปก็คือ รูตเบียร์ไม่ได้ขายดีทุกฤดู เพราะพอเข้าช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นช่วงที่ฝนตกบ่อย และอากาศเริ่มเย็นลง เครื่องดื่มเย็นสดชื่นอย่างรูตเบียร์กลับไม่เป็นที่ต้องการ ยอดขายของทางร้านจึงลดลงเรื่อย ๆ
Alice ภรรยาของเขาเลยเสนอไอเดียว่าควรขายอาหารด้วย เพื่อให้ยอดขายที่ร้านไม่ผันผวนตามฤดูกาลเกินไป
John เห็นด้วยทันที เขาจึงขออนุญาตทาง A&W เพื่อขอเสิร์ฟอาหารที่ร้านด้วย ส่วน Alice ก็ไปขอความช่วยเหลือจากเชฟที่สถานทูตเม็กซิโก ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับร้าน จนได้สูตรและวิธีทำอาหารเม็กซิกันมา
ทั้งคู่จึงตั้งชื่อร้านของพวกเขาใหม่ว่า “Hot Shoppes” ซึ่งเป็นร้านขายอาหารเม็กซิกัน แฮมเบอร์เกอร์ และฮอตดอก รวมถึงรูตเบียร์ของ A&W
ผ่านไปปีเดียว Hot Shoppes เปิดเพิ่มได้อีก 2 สาขา ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นร้านแบบ Drive-in หรือการขับรถไปจอดที่ลานจอดรถของร้าน แล้วสั่งอาหารมาทานบนรถ ที่กำลังได้รับความนิยมสุด ๆ ในสหรัฐอเมริกา
หลังจากนั้นไม่นาน ประเทศสหรัฐอเมริกากลับเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ แต่ John และ Alice ก็ยังพา Hot Shoppes รอดพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้มาได้ แถมยังขยายสาขาเพิ่มมาเป็น 7 สาขาในปี ค.ศ. 1933
แต่ในปีเดียวกันนี้ John ก็ต้องเจอกับข่าวร้าย เพราะเขาตรวจพบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งหมอบอกว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกิน 2 ปี
John จึงหยุดทำงาน และใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัว แต่แล้วเรื่องไม่น่าเชื่อที่แม้แต่หมอก็ยังแปลกใจ เพราะอาการของเขาดีขึ้นมาก จนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้
หลังจากรักษาตัวจนหายดีและกลับมาทำงานได้แล้ว ในปี ค.ศ. 1937 ซึ่งเป็นช่วงที่การเดินทางโดยเครื่องบินเป็นที่นิยม John สังเกตว่าลูกค้ามักซื้ออาหารแบบนำกลับบ้านที่ร้าน Hot Shoppes สาขาใกล้สนามบิน เพื่อนำไปทานบนเครื่องบิน
John เลยเกิดไอเดียว่า ให้ Hot Shoppes ทำอาหารกล่องให้กับสายการบินใช้เสิร์ฟบนเครื่องบิน ซึ่งถือเป็นเจ้าแรก ๆ ในขณะนั้น
เมื่อเขานำไอเดียนี้ไปเสนอกับทางสายการบินต่าง ๆ ก็มีสายการบิน Eastern Airlines และ American Airlines ที่ตอบตกลง
มาถึงช่วงต้นทศวรรษ 1940s ร้าน Hot Shoppes ขยายมาเป็น 24 สาขา ซึ่งช่วงนี้เองสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เริ่มต้นขึ้น แต่ Hot Shoppes ก็ยังรอดพ้นจากวิกฤติได้อีกครั้งจากการปรับตัวไปให้บริการอาหารในฐานทัพทหารและสำนักงานรัฐบาล
จนกระทั่งช่วงทศวรรษ 1950s การเดินทางท่องเที่ยวกำลังได้รับความนิยมสูง John เลยสนใจซื้อที่ดินเปล่าที่อยู่ตรงข้ามสนามบินวอชิงตัน เพื่อสร้างโมเทลที่ชื่อว่า “Twin Bridges” ซึ่งเปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1957 ก่อนที่ 2 ปีให้หลัง ได้สร้างโรงแรมแห่งที่ 2 ที่ชื่อ Key Bridge Motor
และในที่สุด กิจการโรงแรมของ John Willard Marriott ก็ได้เริ่มต้นขึ้น หลังจากเปิดร้านรูตเบียร์มาได้ 30 ปี
ต่อมาในปี ค.ศ. 1967 John ตั้งชื่อบริษัทของเขาใหม่ว่า “Marriott” ซึ่งใช้เรียกรวมทุกกิจการในเครือ ทั้งโรงแรมและร้านอาหาร
ในช่วงเริ่มต้นของกิจการโรงแรม ก็ได้ลูกชายคนโตของ John กับ Alice ที่ชื่อว่า “J.W. Bill Marriott Jr.” เข้ามาช่วยบริหาร
Bill เรียนด้านการเงินจากมหาวิทยาลัยยูทาห์ โดยภายใต้การบริหารของเขา บริษัทสามารถทำกำไรได้มากขึ้นอย่างชัดเจน จน Bill กลายมาเป็นบุคคลสำคัญที่ได้วางรากฐานธุรกิจและขยายอาณาจักร Marriott
ด้วยผลงานที่โดดเด่นของ Bill จึงทำให้เขาได้รับเลือกเป็นประธานบริษัทในปี ค.ศ. 1964 ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็น CEO ในอีก 8 ปีต่อมา
Bill เน้นขยายโรงแรมใกล้สนามบิน และโรงแรมเพื่อการประชุมหรือ Convention โดยสร้างจุดเด่นให้กับโรงแรมของ Marriott ที่มีทั้งห้องจัดประชุมสัมมนา ภัตตาคาร ไปจนถึงลานสเกตน้ำแข็ง
นอกจากนี้ Bill ยังเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ จากการเป็นเจ้าของโรงแรมเอง สู่การรับบริหารโรงแรม และระบบแฟรนไชส์
นั่นจึงทำให้ในปี ค.ศ. 1993 บริษัท Marriott แบ่งการบริหารจัดการออกเป็น 2 บริษัท
บริษัทแรกชื่อ Marriott International ที่จัดการในส่วนของธุรกิจรับบริหารโรงแรมและระบบแฟรนไชส์ ซึ่งดูแลโดยลูกชายคนโต นั่นก็คือ Bill
บริษัทที่สองชื่อ Host Hotels and Resorts ที่จัดการในส่วนของธุรกิจโรงแรมที่ Marriott เป็นเจ้าของเอง ซึ่งดูแลโดยน้องชายของ Bill ที่ชื่อ Richard
อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ที่ช่วยเร่งขยายฐานลูกค้าให้ Marriott ก็คือการเป็นบริษัทโรงแรมแรกของโลก ที่ให้บริการระบบจองที่พักแบบออนไลน์ ในปี ค.ศ. 1995
และกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ Marriott ขยายอาณาจักรโรงแรมได้อย่างรวดเร็วก็คือ “การควบรวมกิจการ”
ปี ค.ศ. 1995 Marriott เริ่มซื้อกิจการครั้งแรก ด้วยการเข้าไปถือหุ้น 49% ในโรงแรม Ritz-Carlton ก่อนที่อีกไม่กี่ปีต่อมาจะเข้าซื้อทั้งกิจการ
แต่การซื้อกิจการที่สำคัญที่สุด เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2016 ภายใต้การนำของ CEO ที่เป็นคนนอกตระกูลคนแรกอย่าง Arne Sorenson
Marriott ได้เข้าซื้อกิจการ Starwood Hotels and Resorts ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์โรงแรมดังมากมาย อย่างเช่น Sheraton, W Hotels และ St. Regis
และในตอนนี้เองที่ Marriott ได้ก้าวขึ้นมาเป็นเชนโรงแรมที่ใหญ่สุดในโลก
น่าเสียดายที่ John เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 เขาจึงไม่มีโอกาสได้เห็นความยิ่งใหญ่ของอาณาจักร Marriott ในปัจจุบัน ที่เขาเป็นผู้ริเริ่ม
แต่สิ่งสำคัญที่ตกทอดมาจาก John จนกลายเป็นหนึ่งในดีเอ็นเอของ Marriott ก็คือวัฒนธรรมองค์กร
เพราะ John ให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคนและดูแลพนักงานเหมือนคนในครอบครัว มาตั้งแต่ช่วงแรกที่เริ่มทำธุรกิจ
เหมือนกับหนึ่งในคำพูดอมตะของเขาที่ว่า
“Take care of associates, and they’ll take care of your customers”
หรือ ดูแลพนักงานของคุณให้ดี แล้วพนักงานเหล่านั้นจะดูแลลูกค้าของคุณต่อเอง
นั่นจึงทำให้ Marriott ไม่ได้เป็นเพียงหนึ่งในโรงแรมที่น่าเข้าพักมากที่สุดเท่านั้น
แต่ในมุมของสถานที่ทำงาน Marriott ยังติดอันดับโลกในด้านบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดเช่นกัน..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.cnbc.com/2021/08/10/how-marriott-became-the-worlds-biggest-hotel-chain.html
-https://www.washingtonpost.com/archive/politics/1985/08/14/hotel-magnate-jw-marriott-dies-at-age-84/d8cfeda2-6a83-40fc-8126-310233d114f0/
-https://www.entrepreneur.com/article/197668
-https://edition.cnn.com/2012/04/12/business/marriott-hotel-industry/index.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Marriott_International
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_chained-brand_hotels
-https://companiesmarketcap.com/hotels/largest-hotel-companies-by-market-cap/
-https://careers.marriott.com/20-years-fortune-100-list/
-https://www.marriott.com/culture-and-values/j-willard-marriott.mi
1940s 在 Dominic Chin Facebook 的最讚貼文
& that's where I'll be... ❤️
The main inspirations for the sound of "My Love" references the classic mandopop sound from the 90s A-Mei 張惠妹 & Jacky Cheung 張學友 & at some point, the early sounds of 1940s... 🎙✨ "My Love" will be out on all streaming platforms on 13th Aug! Pre-save link is in my bio.
1940s 在 フミ/にじさんじ Youtube 的精選貼文
本日の主なラインナップ
・ボラさんに聞く!日本語勉強の極意
など
毎週月曜と金曜の朝7時30分から!にじさんじライバーに起きたことを紹介する配信です。
タレコミ募集中♪
https://docs.google.com/forms/d/1Xjq4OhC7tWEct3DpHYgU5IDWtjvdU9udv5DTHnWKM8E/edit
[出演ゲスト]
#ヌン・ボラ (눈보라 / Bora Nun) さん
https://www.youtube.com/channel/UC1ZV7KBscK0EMoJKFu1DnDg
https://twitter.com/BoraNun2434
登場ライバーさん情報(配信後追記)👇
#鷹宮リオン さん
https://www.youtube.com/channel/UCV5ZZlLjk5MKGg3L0n0vbzw
該当配信
https://www.youtube.com/watch?v=HnuPdxoSXjE&t=975s
Twitterにアップされた部員たちからの寄せ書き
https://twitter.com/TakamiyaRion/status/1427954543623434242
#天宮こころ さん
https://www.youtube.com/channel/UCkIimWZ9gBJRamKF0rmPU8w
#レヴィ・エリファ さん
https://www.youtube.com/channel/UCtnO2N4kPTXmyvedjGWdx3Q/videos
該当配信(全体は第0部〜3部構成、こちらは第1部です↓)
https://www.youtube.com/watch?v=S3_ENlRSgFk&t=21300s
#アンジュ・カトリーナ さん
https://www.youtube.com/channel/UCHVXbQzkl3rDfsXWo8xi2qw
該当配信
https://www.youtube.com/watch?v=01I6fQcy1YM&t=1940s
ありがとうございました!Thank you!
●―○―●―○―●―○―●―○―●―○―●―○―●―○―●
にじさんじ所属のV(バーチャル)ライバー、フミだぞ。バーチャル神社から楽しい時間をお届けします。ゲームは初心者で不慣れですが楽しくがモットー!
気に入ってくれたらチャンネル登録してまた遊びに来てください。
YouTubeチャンネル
https://www.youtube.com/channel/UCwrjITPwG4q71HzihV2C7Nw?sub_confirmation=1
Twitter
フミ にじさんじ所属Vライバー@FumiVirtual
https://twitter.com/FumiVirtual
マシュマロ(感想やメッセージ)
https://marshmallow-qa.com/fumivirtual?utm_medium=url_text&utm_source=promotion
Twitterハッシュタグ
#生フミ 配信関連のツイート、切り抜き動画
#恋フミ サムネ等活動でフミが使用してもいいファンアート
#声フミ ボイスの感想ツイート
🔖メンバーシップはじめました🔖
「メンバーシップとは?」
有料会員になって、チャンネルを支援していただく機能です。月額190円でメンバーバッジとスタンプが利用可能になります。
詳しくは↓
https://www.youtube.com/channel/UCwrjITPwG4q71HzihV2C7Nw/join
●―○―●―○―●―○―●―○―●―○―●―○―●―○―●
~フミの配信を楽しむコツ~
・全てのスーパーチャットに反応できないことがあるが、お名前はまとめて読ませてもらってるぞ。コメントは見逃してしまうことや偏って拾ってしまうことがあるが善処する。
・やべぇことしてないかチェックするため配信後一度動画を非公開にする。アーカイブを上げたらTwitterで報告するから待ってて。
・基本的にフミはゲーム初心者のため98%下手プレイだ。カルシウムを摂りながら見るとイライラしにくいぞ。
・コメント欄での配信に関係のない過度な会話はご遠慮ください。
・ガンダム系のゲームは権利の関係でバトルオペレーション2のみです。
・コメント欄で他の方のお名前を出すと、我は嫉妬しちゃうぞ。また、他の方の配信でも、話題に出ていないときはフミの名前を出さないでくれると嬉しいな。
・以上のコツに気づかずやってしまう人がいても、指摘せずそっとしておいてね。
●―○―●―○―●―○―●―○―●―○―●―○―●―○―
【にじさんじ関連】
公式HP https://www.nijisanji.jp
Twitter https://twitter.com/nijisanji_app
オフィシャルストア https://shop.nijisanji.jp/s/niji/
お問い合わせはこちらから https://www.nijisanji.jp/contact フミ宛へ
●―○―●―○―●―○―●―○―●―○―●―○―●―○―
神社背景イラスト:ハクウレイ/amano 様
https://twitter.com/hakuurei_amano
#フミ #にじさんじ #Vチューバー #バーチャルユーチューバー
1940s 在 Nini Music Youtube 的精選貼文
Download this Cover (for free): https://ninimusic.bandcamp.com/releases
Join My Patreon + Get your own cover: https://www.patreon.com/ninimusic
♬Stream It ▹
► Spotify: https://spoti.fi/3pw57Jl
► Apple Music: https://apple.co/3nr0AWH
♬SUPPORT ▹ Venmo/Cashapp: ninimusic
paypal.me/ninimusic1001 or ninimusic1001@gmail.com
♬FOLLOW ME ▹ Inst- http://instagram.com/ninimusic1001
FB- https://www.facebook.com/NINIMUSIC1001/
任何活動詢問歡迎寄到信箱,由小編經濟Cindy回覆
Bookings and Other Questions: ninimusic1001@gmail.com
#harrylime #liuqin #DerDritteMann #thethirdman#ninimusic #worldmusic #cover #folkinstrument #acoustic #AntonKaras #zither #OrsonWelles #1940s
1940s 在 Kit Mak Youtube 的最讚貼文
Off from work now. You must be very hungry. Let's check out this classic Fried Rice dish. In 1940s-1950s, western cuisine started their important role in Hong Kong food culture. The chefs in Chinese restaurants at that time tried to simulate the tomato sauce and white sauce of Western cuisine in their chinese cooking. Such combination completely showed the cooking talent and creativity of the Hong Kong chefs. It created a huge but also positive impact to our (Hong Kong) eating habit and food culture in the last 70 years. Tai Chi Yin Yang Fried Rice is absolutely one of the signatures! The 2 different sauces formed a Yin Yang Pattern over beautiful golden fried rice. It was a very famous dish served in Wedding banquet to represent 2 couple. However, since the cooking steps were more complicated than normal fried rice. The wedding banquet do not serve this dish anymore. This is the reason I recreate this dish.
Let's make one at home. I am sure you will love it as I do.
Ingredients:
1/4 onion
1 tomato
2 kale
100-120g chicken breast
10 tiger prawn
3 eggs
3-4 bowl of cooked rice
Marination for chicken:
1tsp light soy sauce
a pinch of salt
1tsp cornflour
3tbsp water
a pinch of white pepper powder
Sauce:
(Red sauce):
4 tbsp Ketchup
3 tbsp sugar
1.5tbsp light soy sauce
1.5 tbsp vinegar/lychee vinegar
a pinch of salt
150ml water
some cornflour water
(white sauce):
300ml chicken broth
50-60ml evaporated milk/fresh milk
some cornflour water
#kitmakrecipe #kitmak食譜 #kitmak經典食譜 #經典食譜系列 #太極鴛鴦炒飯 #kitmakfoodstyling #friedrice # YinYangRice #Rice #ChinesFriedRice
#老本行
#kitmakvideo #kitmakproduction #kitmak製作 #kitmade影片 #kitmak影片
1940s 在 A simpler era... or was it? | Back In Time For Dinner, 1940s 的推薦與評價
The Campus family from Back In Time For Dinner experiences some of the better times of living in the 1940s... and the some of not-so-good ... ... <看更多>